เรื่องของเรื่อง “บรรณารักษ์แนวใหม่ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ”
หลังจากที่อ่านบทความ “บรรณารักษ์แนวใหม่ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ” แล้ว
ผมรู้สึกว่า ผมมีความเห็นที่แย้งกับบทความนี้ และยังมองต่างมุมกับบทความนี้อยู่
เลยจำเป็นต้องเขียนถึงเรื่องนี้หน่อยนึง
?
บทความเรื่องนี้ เขียนโดยคุณสุจิตต์ วงษ์เทศ ชื่อเรื่อง “บรรณารักษ์แนวใหม่ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ”
ลงในคอลัมน์สยามประเทศ ของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 16 มิถุนายน 2552
ข้อมูลจาก http://www.sujitwongthes.com/2009/06/siam160609/
เนื่องจากผู้เขียนบอกว่าไม่สงวนลิขสิทธิ์ ดังนั้นผมจึงขอนำมาลงให้เพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้อ่านได้ลองอ่านดู
เนื้อความเรื่อง “บรรณารักษ์แนวใหม่ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ”
?หากไม่ออกเป็นกฎหมายให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ การผลักดันให้เด็กรักการอ่านก็ค่อนข้างริบหรี่เต็มที?
?หากรัฐจัดการเรื่องนี้อย่างสะเปะสะปะ ไร้แผนการ ไร้โครงสร้างชัดเจน ต่อให้ใช้เวลานับล้านปี ก็สร้างอุปนิสัยให้คนไทยรักการอ่านไม่ได้?
ข้อความสองย่อหน้าข้างบนนี้ ผมเลือกยกมาจากบทสัมภาษณ์ ?มกุฏ อรฤดี? ในโพสต์ ทูเดย์ สุดสัปดาห์ ฉบับวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 หน้า 7
หากรัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เด็กมัธยมหรือประถมเข้าห้องสมุดมากขึ้น คุณมกุฏแนะนำว่า ก็ต้องคิดถึงครูบรรณารักษ์ซึ่งยังขาดแคลน
?ในอนาคตต้องมีบรรณารักษ์แนวใหม่ ที่ไม่ใช่คนนั่งเฝ้าหนังสือ หรือคอยขู่คนที่จะยืมหนังสือว่าอย่าคุยเสียงดัง อย่าทำหนังสือยับ
เราต้องมีบรรณารักษ์ที่เก่งเรื่องการระบายหนังสือไปสู่คนทั่วไป? จัดรายการลด แลก แจก แถม ให้คนเข้ามายืมหนังสือเยอะๆ
ต้องส่งเสริมการอ่าน เป็นที่พึ่งของคนที่คิดอะไรไม่ออก อยากเข้ามาหาความรู้ในห้องสมุด?
?บรรณารักษ์แนวใหม่?ที่คุณมกุฏแนะนำไว้ มีสปีชีส์หรือชาติพันธุ์เดียวกับ?ภัณฑารักษ์? ไม่น่าจะมีได้ในชั่วอายุคนที่ดำรงอยู่ขณะนี้ แม้ในชั่วอายุคนรุ่นข้างหน้าก็ไม่น่าจะมีได้ เพราะสังคมไทยมีลักษณะอย่างที่อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ บอกไว้ว่า ดูทันสมัย แต่อนุรักษนิยมสูงมาก แล้วมีผู้เทียบเป็นคำคล้องจองว่า?ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา? และ?ทันสมัย แต่ไร้สมอง?
สรุปว่าบรรณารักษ์, ภัณฑารักษ์ เป็นชาติพันธุ์เดียวกับอนุรักษ์ทั้งหลาย คงต้องรอไดโนเสาร์เกิดใหม่แล้วตายลงอีกครั้งถึงจะพอมีทางได้?บรรณารักษ์แนวใหม่?อย่างคุณมกุฏบอก
มีกรณีตัวอย่างที่?บรรณารักษ์แนวใหม่?ไม่มีวันถือ กำเนิดได้ เพราะการเรียนการสอนวิชาบรรณารักษ์ก๊อบปี้จากตะวันตกทั้งดุ้น โดยไม่คำนึงถึงสภาพความจริงของสังคมยาจก ยากจน ไม่อ่านหนังสืออย่างสังคมไทย แล้วใส่วัฒนธรรมล้าหลังทั้งแท่ง เช่น สมาคมห้องสมุดฯ เป็นสมบัติผลัดกันชมเป็นส่วนตัวของคนบางชาติพันธุ์เท่านั้น
กระทรวงศึกษาธิการ ที่ดูแลการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) เกี่ยวข้องโดยตรงกับห้องสมุดประชาชน?เฉลิมราชกุมารี?ที่ต้องผลักดันให้คนอ่านหนังสือมากๆ
แต่การโยกย้ายระดับผู้อำนวยการ กศน. จังหวัด? ยังเลื่อนคนโกงค่าซื้อหนังสือ แต่ไม่อานหนังสือ ให้ได้ดีมีตำแหน่งใหญ่โตในจังหวัด อย่างนี้แล้วจะได้?บรรณารักษ์แนวใหม่?จากไหน?
ฉะนั้นขอให้ประธานชมรมผู้บริหารสถานศึกษา กศน. โปรดรู้ไว้ด้วย ว่ากระทรวงนี้ต้องการคนแบบไหนบริหาร กศน. จังหวัด, อำเภอ (มติชน ฉบับวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2552 หน้า 22)
ผู้บริหารการศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการ ยังคดโกงมะโรงมะเส็งเคร็งอย่างนี้ ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องตกใจตามข่าวในมติชน (ฉบับวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 หน้า 15) รายงานว่า เมื่อปาฐกถาระหว่างการสัมมนาเชิงวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายกฯบอกว่า
?ที่น่าตกใจคือ คนรุ่นใหม่ยอมรับการทุจริตเป็นสิ่งไม่ผิด ทั้งการขโมยติดสินบน เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการงาน หรือทำให้ตัวเองร่ำรวย?
ล่าสุด สถาบัน Post Modern องค์การมหาชนย่านตลิ่งชัน ยังโกงค่าซื้อหนังสือเก่าเข้าห้องสมุด ช่างโกงสมกับเป็นสถาบันวิชาการเสียจริงๆ
โกงแล้วได้ดี มีคนยกย่องนับถือ มีให้เห็นทุกวันทั่วประเทศ แม้ในกระทรวงศึกษาธิการ, ในสถาบันชนชั้นสูง, ในแวดวง Post Modern ที่ยกตัวเองว่าฉลาดกว่าคนอื่นในประเทศ แล้วจะให้คนรุ่นใหม่ซื่อสัตย์ไปหาพระแสงด้ามยาวอะไร
เอาเป็นว่าหลังจากที่ได้อ่านแล้ว เพื่อนๆ รู้สึกอย่างไร
————————————————————
ผมขอสรุปประเด็นที่ได้จากการอ่านอีกรอบนะครับ
– ?บรรณารักษ์แนวใหม่? คือ บรรณารักษ์ที่สามารถดึงคนเข้าห้องสมุดได้เยอะๆ และเป็นที่พึ่งพาในการหาความรู้ให้กับผู้ใช้บริการได้
– ?บรรณารักษ์แนวใหม่? กับ ?ภัณฑารักษ์? ไม่น่าจะมีในปัจจุบัน
– สังคมไทยมีลักษณะที่ว่า “ดูทันสมัย แต่อนุรักษนิยมสูงมาก”
– ?บรรณารักษ์แนวใหม่?ไม่มีวันถือกำเนิดได้ เพราะการเรียนการสอนวิชาบรรณารักษ์ก๊อบปี้จากตะวันตกทั้งดุ้น
– การเลื่อนตำแหน่งให้คนโกง แล้วทำให้ไม่เกิด ?บรรณารักษ์แนวใหม่?
– การโกงค่าซื้อหนังสือ หรือการคดโกงในกระทรวงฯ
————————————————————
ผมจะขอวิจารณ์เรียงข้อเลยนะครับ
ประเด็น : ?บรรณารักษ์แนวใหม่? คือ บรรณารักษ์ที่สามารถดึงคนเข้าห้องสมุดได้เยอะๆ และเป็นที่พึ่งพาในการหาความรู้ให้กับผู้ใช้บริการได้
วิจารณ์ : เห็นด้วยครับ บรรณารักษ์แนวใหม่ จะเป็นบรรณารักษ์ที่ให้บริการแบบเชิงรุกครับ กล่าวคือ บรรณารักษ์จะไม่นั่งรอผู้ใช้บริการเฉยๆ นะครับ แต่บรรณารักษ์จะนำบริการต่างๆ ไปนำเสนอให้ผู้ใช้บริการเอง เช่น ในห้องสมุดมหาวิทยาลัยก็จะมีการนำหนังสือจัดเป็นชุดๆ แล้วนำมาให้อาจารย์ยืมถึงภาควิชา หรือไม่ก็จัดบูธหนังสือเคลื่อนที่ในมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาได้หยิบยืมหนังสือแทนที่จะต้องรอนักศึกษาหรืออาจารย์ในห้องสมุด
ประเด็น : ?บรรณารักษ์แนวใหม่? กับ ?ภัณฑารักษ์? ไม่น่าจะมีในปัจจุบัน
วิจารณ์ : ประโยคนี้ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากห้องสมุดหลายๆ แห่งในประเทศก็มีบรรณารักษ์แนวใหม่ปรากฎให้เห็นอยู่มากมาย เช่นที่ผมยกตัวอย่างไปข้างต้น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ห้องสมุดโรงเรียนบางแห่ง ห้องสมุดเฉพาะบางที่ เช่น TK park, ห้องสมุดมารวย รวมไปถึงห้องสมุดประชาชนหลายๆ ที่ ส่วนคำว่า ?ภัณฑารักษ์? จริงๆ แล้วในหน่วยงานบางแห่งก็มีให้เห็นแล้วเช่นกัน เช่น Siam Musuem, TCDC เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้ว่า ?บรรณารักษ์แนวใหม่? กับ ?ภัณฑารักษ์? จริงๆ แล้วมีในสังคมไทย เพียงแต่อาจจะมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับทั้งประเทศ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับ
ประเด็น : สังคมไทยมีลักษณะที่ว่า “ดูทันสมัย แต่อนุรักษนิยมสูงมาก”
วิจารณ์ : หากพูดถึงในแง่ของบรรณารักษ์ในลักษณะที่เน้นเรื่องการทำงาน บางทีผมก็ยอมรับนะครับว่าเทคโนโลยีของเราเองก็ทันสมัย แต่วิธีการปฏิบัติงานบางครั้งยังไม่ยอมปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการจัดเก็บข้อมูลที่ดีขึ้น แต่เราก็ยังคงเก็บข้อมูลหรือยึดถือข้อมูลในกระดาษมากกว่า หรือในเรื่องของเทคโนโลยีเว็บไซต์ แต่ก็ขาดการดูแล (เว็บไซต์ห้องสมุดบางที่อัพเดทปีละครั้ง / อัพเดทตามคำสั่งของผู้บริหาร) ดังนั้นประเด็นนี้ผมก็เห็นด้วยในบางส่วนครับ แต่ในเรื่องของการเปรียบเทียบคำ ที่บอกว่า ?ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา? และ?ทันสมัย แต่ไร้สมอง? ผมว่ามันค่อนข้างแรงเกินไป และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ประเด็น : ?บรรณารักษ์แนวใหม่?ไม่มีวันถือกำเนิดได้ เพราะการเรียนการสอนวิชาบรรณารักษ์ก๊อบปี้จากตะวันตกทั้งดุ้น
วิจารณ์ : เรื่องที่บอกว่าบรรณารักษ์แนวใหม่ไม่มีวันเกิดได้ เพราะหลักสูตรการเรียนการสอน ผมยิ่งไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากบรรณารักษ์แนวใหม่ส่วนใหญ่ก็เกิดจากการนำวิชาที่เรียนหรือเรื่องราวต่างๆ ตอนที่เรียนมาประยุกต์ใช้ จึงทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ในการผสมผสานความรู้แล้วเกิดแนวทางในการปฏิบัติแบบใหม่ๆ บางทีผมว่าถ้าไปโทษเรื่องหลักสูตรอาจจะไม่เหมาะสม เช่น ถึงแม้ว่าหลักสูตรจะไม่ก๊อบปี้ บรรณารักษ์เรียนตามตำรา(เอาตำราที่คุณคิดว่ามันเหมาะสมกับสังคมที่สุด) ผมขอถามหน่อยว่า คุณแน่ใจแล้วหรอว่าจะทำให้เกิด ?บรรณารักษ์แนวใหม่? ผมว่าถึงตอนนั้นคงต้องเรียกว่า “บรรณารักษ์แนวตำรา” หรือไม่ก็ “บรรณารักษ์ตามหลักสูตร” อีกหล่ะมั้ง
ประเด็น : ประเด็นเรื่องการเลื่อนตำแหน่งให้คนโกง แล้วทำให้ไม่เกิด ?บรรณารักษ์แนวใหม่?
วิจารณ์ : ประเด็นนี้ผมคงไม่ต้องวิจารณ์อะไรมากมายมั้งครับ เพราะว่าสำหรับผมดูแล้วประเด็นนี้มีข้อความที่ไม่เกี่ยวกันสักเท่าไหร่ ผู้บริหารโกงเลื่อนตำแหน่งคนโกง แล้ว “บรรณารักษ์แนวใหม่” จะไม่เกิด ปกติในการทำงานของทุกหน่วยงานผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานจะมีแนวทางการทำงานที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว อย่างกรณีบรรณารักษ์บนพื้นฐานความจริงคือ เราทำงานเพื่อให้ผู้ใช้บริการพอใจนะครับ ไม่ใช่ทำงานเพราะว่าผู้บริหารห้องสมุดสักหน่อย ผู้บริหารให้นโยบาย แล้วบรรณารักษ์ก็นำนโยบายมาแปลงเป็นแนวทางในการทำงานต่างหาก
ประเด็น : การโกงค่าซื้อหนังสือ หรือการคดโกงในกระทรวงฯ
วิจารณ์ : ตกลงเนื้อเรื่องในบทความจะกล่าวเรื่องการคดโกง หรือ จะกล่าวเรื่อง “บรรณารักษ์แนวใหม่” เอาเป็นว่าท้ายๆ บทความผมไม่พบคำว่า “บรรณารักษ์แนวใหม่แล้ว” เลยงงว่าการตั้งชื่อเรื่องบทความ เพื่อ????????
————————————————————
เป็นไงกันบ้างครับกับเนื้อหา และบทวิจารณ์ของผม
ยอมรับนะครับว่าพออ่านชื่อเรื่องแล้วทำให้ผมอารมณ์เสียได้เลย
ผมพูดกับตัวเองไว้ว่า “ถ้ามีคนจะต้องมาว่าผม มาด่าผม มาติผม ผมจะไม่คิดมากเท่ากับการที่มีคนมาว่าวิชาชีพที่ผมรัก”
เอาเป็นว่าผมคงวิจารณ์และฝากประเด็นไว้ให้เพื่อนๆ ได้อ่านเท่านี้นะครับ
บทความนี้เป็นแง่มุมที่ผมขอแสดงความคิดเห็นเท่านั้นนะครับ
บล็อกของบรรณารักษ์ที่เขียนถึงเรื่องนี้
– บรรณารักษ์แนวใหม่ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ?!!? โดย nongkoro
http://nongkoro.spaces.live.com/blog/cns!49D3C03202F8ED79!6898.entry
– บรรณารักษ์แนวใหม่ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ? โดยคุณ สิริพร ทิวะสิงห์ tuk-a-toon
http://gotoknow.org/blog/library-librarian/269080
ปล. เพื่อนๆ สามารถแสดงความคิดเห็นไว้ด้านล่างนี้เลยนะครับ
ส่วนใครที่เขียนบล็อกเรื่องนี้ กรุณามาโพสบอกผมด้วยจะได้ทำจุดเชื่อมโยงให้ครับ