คุณรู้จักบล็อก Libraryhub ของผมได้อย่างไร

เปิดบล็อกนี้มาเกือยสี่เดือนแล้วนะครับ สมาชิกที่เข้ามาดูก็เพิ่มขึ้นมาก
วันนี้ผมก็เลยขอสำรวจเพื่อนๆ ดูหน่อยว่าเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านบล็อกของผม
“รู้จักบล็อกนี้ได้อย่างไร ใครแนะนำมา หรือว่าบังเอิญผ่านมาเจอ”

referer

ผมขอความร่วมมือจากทุกๆ คนด้วยนะครับ ช่วยกันตอบคำถามผมหน่อย

[poll id=”10″]

การสำรวจในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการศึกษาเรื่องการประชาสัมพันธ์บล็อกด้วยนะครับ
บางครั้งคนทำบล็อกก็อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่เข้ามาที่บล็อกของเรา
รู้จักบล็อกของเราได้จากที่ไหนบ้าง แล้วทำไมถึงเข้ามาบล็อกของเราถูก

เอาไว้ว่างๆ วันหลัง ผมจะเขียนสูตรการเรียกคนเข้าบล็อกห้องสมุด
ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน และศึกษาไว้ใช้งานสำหรับห้องสมุดของเพื่อนๆ นะครับ

การจัดหมวดหมู่หนังสือแบบทศนิยมญี่ปุ่น (NDC)

เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จักการจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดแบบต่างๆ มามากพอแล้ว
เช่น ระบบเลขทศนิยมแบบดิวอี้, ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกา, ระบบห้องสมุดการแพทย์ ฯลฯ
วันนี้ผมขอแนะนำการจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดตามแบบประเทศญี่ปุ่นบ้างนะครับ

savepic

เนื่องจากที่รู้ๆ กันว่าผมเคยฝึกงานที่ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น
ดังนั้นจึงทำให้ผมรู้จักกับการจัดหมวดหมู่แบบนี้
ซึ่งการจัดหมวดหมู่หนังสือแบบญี่ปุ่นนี้มีความแตกต่างจากการจัดหนังสือที่ผมเคยเรียนมาอย่างสิ้นเชิง

ผมขอเล่าให้ฟังแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับ ถึงที่มาของการจัดหมวดหมู่แบบนี้

การจัดหมวดหมู่หนังสือแบบทศนิยมญี่ปุ่น
หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษ ว่า Nippon Decimal Classification (NDC)
เป็นการจัดหมวดหมู่ทรัพยากรสารสนเทศที่มีการใช้ในประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีน
โดยมีแนวความคิดและเผยแพร่โดย Japan Library Association ในปี 1956
ซึ่งเป็นการนำระบบการจัดหมวดหมู่แบบดิวอี้ (Dewey Decimal System) มาประยุกต์ในรูปแบบใหม่
โดยใช้เลขหมวดหมู่ใหญ่ คือ 000 ? 900 เหมือนแบบดิวอี้ แต่ต่างกันที่รายละเอียดนะครับ

หมวดหมู่ใหญ่ ของการจัดหมวดหมู่หนังสือแบบทศนิยมญี่ปุ่น มีดังนี้
000 ? หมวดทั่วไป
100 ? หมวดปรัชญา
200 ? หมวดประวัติศาสตร์
300 ? หมวดสังคมศาสตร์
400 ? หมวดวิทยาศาสตร์ทั่วไป
500 ? หมวดเทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
600 ? หมวดอุตสาหกรรม และการพาณิชย์
700 ? หมวดศิลปะ
800 ? หมวดภาษา
900 ? หมวดวรรณกรรม

ดูๆ ไปก็คล้ายๆ ดิวอี้นะครับ ต่างกันที่หมวด 200, 400, 500, 800, 900

ส่วนการแบ่งหมวดหมู่ย่อยในลำดับที่สองยังคงใช้ concept เหมือนดิวอี้อีกนั่นแหละครับ
ผมขอยกตัวอย่าง หมวด 400 มาให้ดูถึงเลขหมู่ย่อยนะครับ
400 ? หมวดวิทยาศาสตร์ทั่วไป
410 ? คณิตศาสตร์
420 ? ฟิสิกต์
430 ? เคมี
440 ? ดาราศาสตร์
450 ? โลก
460 ? ชีววิทยา
470 ? พฤกษศาสตร์
480 ? สัตววิทยา
490 ? เภสัชศาสตร์

เป็นไงกันบ้างครับ กับการจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดญี่ปุ่น
“แปลกตาไปบ้างหรือปล่าวครับ”
ก็ขอให้เพื่อนๆ คิดซะว่านี่ก็เป็นการจัดหมวดหมู่หนังสืออีกประเภทหนึ่งนั้นเอง แหละครับ

จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย และบรรณารักษ์สามารถทำงานได้สะดวก

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้ามาดูได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Nippon_Decimal_Classification
http://wsv.library.osaka-u.ac.jp/riyo/ndc9e.htm
http://weblib.ce.nihon-u.ac.jp/opac/help/Class_Eng.html

ประมวลภาพห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น

เมื่อสักครู่นี้ ผมได้เขียนบล็อกเรื่อง “เล่าเรื่องตอนฝึกงานที่ ?ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น?
ในบล็อกเรื่องนี้ผมขอเน้นข้อมูลอื่นๆ ของห้องสมุดแห่งนี้แล้วกันนะครับ

jfbkk

ข้อมูลทั่วไปของห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น
สถานที่ : ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น
ที่อยู่ : เจแปน ฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ชั้น 10 อาคารเสริมมิตร 159 สุขุมวิท 21, กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ : 0 2260 8560-4 แฟกซ์ : 0 2260 8565
เว็บไซต์ : http://www.jfbkk.or.th/library/library_th.html

ในห้องสมุดแห่งนี้มีบริการคล้ายๆ กับห้องสมุดอื่นๆ นั่นแหละครับ
เพียงแต่เน้นที่เรื่องของ collection ที่ให้บริการในห้องสมุดนั่นแหละครับ

หนังสือที่ให้บริการมีมากมายโดยเน้นไปที่หนังสือภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
แต่ก็ยังพอมีหนังสือภาษาไทย และภาษาอังกฤษให้บริการบ้างนะครับ

จุดเด่นของห้องสมุดแห่งนี้
เช่น
– หนังสือ วารสาร นิตยสารภาษาญี่ปุ่นมากมาย ทั้งเรื่องแฟชั่น เทคโนโลยี วารสารวิชาการ
– หนังสือแนวข้อสอบสำหรับผู้ที่ต้องการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
– วีดีโอ และสื่อมัลติมีเดียภาษาญี่ปุ่นมากมาย
– การ์ตูนต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น
– ฐานข้อมูลเพื่อการสืบค้นภาษาญี่ปุ่น
– นิทรรศการวันสำคัญของญี่ปุ่นในโอกาสต่างๆ
– รายการข่าวสาร สารคดี จาก NHK

นี่ก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนะครับ
ถ้าเพื่อนๆ อยากเห็นมากกว่านี้ผมก็แนะนำว่าให้เพื่อนๆ ไปชมกันเองน่าจะดีกว่านะครับ

ปล.ภาพที่ผมนำมาให้เพื่อนๆ ชมนี้เป็นภาพเมื่อหลายปีก่อนนะครับ
อาจจะไม่เหมือนอย่างในปัจจุบันนะครับ เพราะว่าในปัจจุบันห้องสมุดมีการปรับโฉมใหม่แล้วนะครับ


ภายบรรยากาศโดยทั่วไปของห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น

[nggallery id=13]

เล่าเรื่องตอนฝึกงานที่ ?ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น?

วันนี้ผมขอย้อนวันวานไปสักตอนที่ผมยังเรียนปริญญาตรีก่อนแล้วกัน
ในตอนนั้นผมฝึกงานครั้งแรกของการเรียนบรรณารักษ์ โดยผมเลือกที่จะฝึกงานที่ ?ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น?

dsc00017 Read more

Projectlib interview CEO Ijigg.com

Everyday I must be listen music from Ijigg.com
And you? Where do you listen music?

Open Ijigg – Search music – Push play – Listen it
Very simple to listen music – Ijigg.com

In this week Mr. Shadab Farooqui (CEO Ijigg.com) Live in Bangkok.
I want to meet and Interview him. Thus I appointment him at Sunday.
Today I have got a good chance from Mr. Shadab Farooqui (CEO Ijigg.com)

Mr. Shadab Farooqui and Y Projectlib
Mr. Shadab Farooqui and Y Projectlib

Let?s Start Interview

—————————————————————————————————–

Projectlib : I want to you Introduction yourself.
Ijigg.com : I?m Shadab Farooqui, an entrepreneur and co-founder of iJigg.com. I got my education in United States at Purdue University in Business Management. I grew up in Bombay, India and have been living in USA for 13 years. I am a big fan of music, especially small independent artists who may not have the resources to promote themselves in the crowded music space.

Projectlib : ?Ijigg? what does it mean?
Ijigg.com : Jigg is a popular dance from the 70?s. You may remember the? famous song ?Getting Jiggy with it?. That?s how we got the name. Jigg does not have a meaning. It?s just a cool and easy name to remember.

Projectlib : Please tell me about concept in Ijigg?
Ijigg.com : We were having a hard time filtering good independent artists. There were too many small artists in USA. We wanted to have a singular destination for all people to come, and simply enjoy great music by independent artists. The community ?Jiggs? or votes on the songs that they like. Depending on that and other variables, iJigg becomes a chart of the best independent music. It involves the community to decide which song should get the maximum exposure to the people to visit iJigg. Asia has a growing independent music scene that is in its infancy. There are not many websites that can simple allow an artist to promote its music, or for fans to listen to music. We make promoting and listening to music simple, and a great experience. We will also be introducing ?Music Blogging?, writing about your favorite music.

Website Ijigg.com

Projectlib : OK I see ?. Please tell me simply about How to Ijigg work?
Ijigg.com : You go to www.iJigg.com You will see a bunch of music players, each with a song by itself. You can play the song, vote or ?Jigg? it if you like it, share it with friends, embed on your blog etc. For bands, they can upload their song, email it to their fans and mailing list, ask them to vote so that they can come on the front page and get more exposure.

Projectlib : What?s primary goal of iJigg?
Ijigg.com : I believe that every music artist should have the opportunity to become big, regardless of marketing budget.

Projectlib : How many people in Ijigg?s team?
Ijigg.com : We are three brothers working on iJigg, simply for the passion of Music. I manage the Business, Zaid Farooqui is the programmer and Bilal Farooqui (part time) manages the Hardware and Infrastructure.

Projectlib : Nowaday, How many member in Ijigg (user who register)
Ijigg.com : We have over 1 Million registered users.

Projectlib : very much? Do you have partnership? how many? In Usa only?
Ijigg.com : We work with small record labels and Bands from USA to give them exposure to SE Asia fans.

Projectlib : First time Ijigg, When
Ijigg.com : iJigg was launched in January 2007. iJigg will celebrate its second birthday in a few months. We are very happy that it has grown to such a large community and are very happy about it. We started working on it full time only for last 6 months. I saved up some money from my previous full time job and put it all into iJigg. We are happy to serve the bands and the fans of iJigg.

Projectlib : In thailand, music on web is fix cause licene and law, Ijigg is care about it?
Ijigg.com : iJigg is compliant with all DMCA laws in the United States. The goal of iJigg is to promote independent artists. Most record labels do not mind their music on iJigg as their artists get exposure to a wide audience. Plus we do not let people download the music. If any record label or band has a problem with their music on iJigg, we are happy to remove it as long as we can get a written notice of the songs that they would like to be removed.

Projectlib : What next in ijigg? Ijigg in the future?.
Ijigg.com : iJigg will be a community of ?Influencers? and ?Followers?. Not just for music, but for everything with regards to entertainment. We will introduce Music blogging and diary, where people can write about the artists that they like, and influence their friends to listen to that music. Our philosophy is to do little, but to do it in the BEST way possible. That?s why you don?t see too much stuff on iJigg, as it becomes hard to manage. We plan on adding small features slowly. New iJigg with ?Friend Feed? style features is coming soon. cancel hard to manage. It confuses the people who visit ijigg.

Projectlib : please take message for thai ijigg user and thai community?
Ijigg.com : First of all, I want to say that I love the Thai community. Everyone is very friendly and welcoming. It is a pleasure to be a part of this community. I want everyone to continue using iJigg, and tell their friends about it. We will listen to what the community wants, and hopefully implement it. For all the independent artists, I encourage them to put their music on iJigg. We become very happy when we get email from Bands that tell us their success story through iJigg.

Projectlib : Thank you for great interview and meeting at today.

—————————————————————————————————–

The last, I wanna say thank you to Mr.Shadab Farooqui
for meeting and this interview. I hope I will see you again.

เมื่อผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์เจ้าของ Ijigg.com

บันทึกเรื่องเก่าๆ (ผมเคยเขียนที่ projectlib แล้ว)

ทุกๆ วันผมต้องนั่งฟังเพลงจาก Ijigg.com
แล้วพวกคุณหล่ะฟังเพลงจากไหนกันบ้าง ?

ijigg

ขั้นตอนง่ายในการฟังเพลงของผม คือ
เปิด Ijigg.com ? หาเพลงที่อยากฟัง ? กดปุ่มเล่นเพลง ? แล้วก็ฟัง

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาหลายๆ คนที่ติดตามข่าวจากผมใน Twitter จะรู้ว่ามีเจ้าของเว็บไซต์แห่งหนึ่งมาเมืองไทย
ซึ่งนั่นก็คือ Mr.Shadab Farooqui ซึ่งเป็น CEO ของเว็บไซต์ Ijigg.com
ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอนัดเจอ และสัมภาษณ์เขา เพื่อนำมาให้เราเป็นกรณีศึกษาของเว็บไซต์ Ijigg.com

ตอนแรกผมว่าจะแปลบทสัมภาษณ์แบบเป็นข้อๆ
แต่ผมกลัวว่าเพื่อนๆ อาจจะสับสนกับประเด็นที่ผมสัมภาษณ์
เอาเป็นว่าผมเลยขอสรุปเป็นประเด็นสำคัญน่าจะดีกว่า
เพราะผมเชื่อว่าคนที่อ่านบทสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษไม่ยากเกินความเข้าใจ

———————————————–

สรุปประเด็นที่น่าสนใจของ Ijigg.com

– Mr.Shadab Farooqui เป็นคนอินเดียแต่ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นเวลา 13 ปี
– Ijigg มีที่มาจากเพลงๆ นึงในสมัยยุด 70 คือ ?Getting Jiggy with it? ซึ่งคำว่า Jigg ไม่มีความหมาย แต่มันเป็นชื่อที่ง่ายต่อการจดจำ
– กลุ่มศิลปินวงเล็กๆ ที่ตั้งกันเองในอเมริกามีเยอะมาก ดังนั้นเขาก็ต้องการโปรโมทเพลงของเขาจึงได้หันหน้าเข้าหาเว็บไซต์ต่างๆ
– สามารถโหวตให้เพลงต่างๆ ได้ด้วย (เรียกว่า Jigg)
– ทีมงานของ Ijigg ประกอบด้วย 3 พี่น้องตระกูล Farooqui คือ Mr.Shadab ดูแลเรื่องธุรกิจ, Mr.Zaid เป็นโปรแกรมเมอร์, Mr.Bilal ดูแลเครื่องมือต่างๆ
– ตอนนี้ Ijigg มีคนสมัครเป็นสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน
– Ijigg กำลังขยายฐานเศรษฐกิจจาก USA เข้าสู่ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
– Ijigg เปิดครั้งแรกในเดือนมกราคม 2007
– เรื่องกฎหมาย Ijigg เน้นการโปรโมทเพลงให้ศิลปินกลุ่มเล็กๆ แต่คนที่นำมาโพสมาครั้งเป็นเพลงที่มีลิขสิทธิ์ หากมีการแจ้งเตือน Ijigg จะทำการลบให้ทันที
– ในอนาคต Ijigg จะมุ่งสู่การสร้างชุมชนด้านความบันเทิง ไม่เน้นเพลงอย่างเดียว จะมีบริการเขียนบล็อก, ฟีดบล็อก, โปรโมทเพลง ฯลฯ
– สิ่งที่เขาฝากให้คนไทย คือ อยากให้คนไทยใช้ Ijigg เยอะๆ สำหรับศิลปินก็สามารถนำเพลงของคุณมาโปรโมทได้ที่นี่เช่นกัน

———————————————–

ปล. บล็อกเรื่องนี้ผมขอเก็บไว้ในความทรงจำของผมนะครับ
เพราะถือว่าเป็นความประทับใจครั้งใหญ่ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับเว็บมาสเตอร์ระดับอินเตอร์
วันที่ผมสัมภาษณ์เจ้าของ ijigg คือวันที่ 12 ตุลาคม 2551

หนูกำลังอ่านหนังสือในห้องสมุดนะค่ะ

วันนี้ผมเจอภาพขำๆ รูปนึง เลยเอามาฝากให้เพื่อนได้ชมแก้เครียดๆ กัน
ภาพนี้มีหนูน้อยคนนึงเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยนะครับ

babyinlibrary

จริงๆ แล้วผมเข้าใจว่าคนถ่ายอาจจะต้องการแค่ถ่ายภาพเล่นๆ เท่านั้นนะครับ
แต่ผมจะเอาไอเดียนี้แหละมาใช้เป็นสื่อในแง่ของ ข้อปฏิบัติในห้องสมุดสักหน่อยก็แล้วกัน

จากภาพด้านบนเพื่อนๆ ดูแล้วรู้สึกเป็นไงบ้างหล่ะครับ อายเด็กกันมั้ย ขนาดเด็กยังรู้เลยว่าห้องสมุดต้องเงียบ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเด็ก ก็ขอความกรุณาเงียบสักนิดนะครับ
อ่านหนังสือในใจไม่ต้องออกเสียง เพราะว่ามันจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้คนอื่นๆ นะ

อะไรบ้างที่ทำให้เกิดเสียงในห้องสมุด
– มีเพื่อนมาด้วย เลยขอคุยสักนิด แต่คุยไปคุยมาติดลมกัน ก็เลยสร้างเสียงขึ้นมา
– มีโทรศัพท์เข้าครับ อาจจะเพราะว่างานด่วน หรืออะไรก็ตามที่ต้องคุย
– หลับ จริงๆ ถ้าหลับก็ไม่ทำให้เกิดเสียงหรอกครับ แต่ถ้าหลับแล้วกรน อันนี้สาหัสหน่อย

และยังมีอีกหลายๆ สาเหตุที่ไม่ขอกล่าวถึง เพราะว่าเพื่อนๆ คงรู้ว่าการส่งเสียงทำได้ง่ายมาก

ดังนั้นวิธีนึงที่ผมเสนอกับ เพื่อนๆ บรรณารักษ์มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น
หามุมๆ หนึ่ง หรือเปิด section พิเศษสำหรับที่อ่านที่สามารถใช้เสียงได้ด้วย
หรือจะหามุมสำหรับคุยโทรศัพท์ด้วยก็ดีครับ เพราะเข้าใจว่าทุกคนย่อมมีธุระเป็นของตัวเอง
หรือจะเอามุมกาแฟมาแก้ง่วงดีมั้ยครับ จะได้ไม่ต้องหลับ

เอาเป็นว่าทำไง คุณก็คิดๆ กันนะครับ
แต่ขออย่างเดียวอย่าเอาเสียงของคุณ ไปรบกวนผู้ใช้ห้องสมุดคนอื่นเลยเถอะ
เพราะว่าบางคนคงต้องใช้สมาธิในการอ่านหนังสือมากๆ

สุดท้ายนี้บรรณารักษ์คนไหนดูรูปนี้แล้วมีแรงบันดาลใจอยากทำป้ายแบบนี้ก็ไม่ยากครับ
ไปหาเด็กมาสักคนจับทำหน้าปากจู๋ แล้วก็ถ่ายเอามาแปะเป็นป้ายเตือนในห้องสมุดก็ได้ครับ

ที่มาของรูปนี้ : http://farm4.static.flickr.com/3209/2928948144_bd32ba10d1.jpg

ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ @กาดสวนแก้ว

เพื่อนๆ รู้หรือปล่าวว่าห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่มีสาขาอยู่บนห้างสรรพสินค้าด้วยนะ
ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เป็นห้างที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ซะด้วย นั่นคือ “เซ็นทรัล กาดสวนแก้ว”

cm-kadsuankaew01

วันนี้ผมขอพาเพื่อนๆ มาเยี่ยมชมห้องสมุดประชาชนที่อยู่บนห้างกัน
ดูสิว่าจะมีบริการที่สามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้บริการกันได้หรือปล่าว

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งนี้

ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ สาขากาดสวนแก้ว
ที่อยู่ : ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ้นทรัล กาดสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่

ผมได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมห้องสมุดแห่งนี้ในเวลากลางวัน
โดยพอถึงบริเวณหน้าห้องสมุดก็จะพบกับป้ายแนะนำห้องสมุดว่า

“กาดสวนแก้ว Living Library ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่”

พื้นที่ด้านหน้าห้องสมุดจะเป็นพื้นที่ขายกาแฟ และเครื่องดื่มต่างๆ
พอเดินเข้าไปนิดนึงก็จะพบกับบริเวณที่ให้บริการของห้องสมุด
ถึงแม้ว่าพื้นที่อาจจะมีขนาดเล็ก แต่ผมเชื่อว่าก็ให้บริการได้ค่อนข้างครอบคลุมบริการต่างๆ ของห้องสมุดเลย

ซึ่งผมขอสรุปบริการต่างๆ ของห้องสมุดแห่งนี้ ว่าประกอบด้วย
– บริการที่นั่งอ่านหนังสือ
– บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อการสืบค้น
– บริการตอบคำถามและช่วยการสืบค้น


นอกจากนี้ห้องสมุดยังมีกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ด้วย
เช่น
– การสอนวาดภาพ และระบายสี
– การเล่านิทาน
– การประกวดคำขวัญ

หนังสือที่ให้บริการในห้องสมุดแห่งนี้ ส่วนหนึ่งจะเน้นไปทางหนังสือเด็ก
และหนังสืออีกส่วนหนึ่งจะถูกหมุนเวียนจากห้องสมุดประชาชนหลัก

ซึ่งที่นี่มีหนังสือที่น่าสนใจ และหนังสือใหม่เวียนกันมาให้อ่านกันเต็มที่

แต่ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า ไม่ได้ให้บริการยืมคืน
ทางบรรณารักษ์จะแนะนำว่าถ้าต้องการหนังสือเล่มไหน
ให้ผู้ใช้ติดต่อกับห้องสมุดประชาชนสาขาหลักเพื่อการยืมคืนจะดีกว่านะครับ

(ห้องสมุดประชาชนที่เป็นสาขาหลักก็อยู่บริเวณที่ไม่ไกลจากที่นี่สักเท่าไหร่หรอกครับ
สามารถที่จะเดินข้ามถนน และเข้ามาใช้บริการห้องสมุดประชาชนที่เป็นสาขาหลักได้)

เอาเป็นว่าก็ถือว่าเป็นไอเดียนึงที่ห้องสมุดประชาชนหลายๆ ที่ น่าจะเลียนแบบดู
เผื่อว่าผู้ใช้บริการจะได้ประทับใจต่อการบริการของห้องสมุดมากยิ่งขึ้นนะครับ

รวมภาพบรรยากาศ “กาดสวนแก้ว Living Library”

[nggallery id=12]

เมื่อผมแอบมาเขียนบล็อกในห้องสมุดแห่งหนึ่ง

วันนี้ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศจากการเขียนบล็อกที่บ้านมาเป็นเขียนบล็อกที่ห้องสมุดดีกว่า
ผมจึงได้ตัดสินใจกลับมาเยี่ยมห้องสมุดเก่าที่ผมเคยทำงานมา และกะว่าจะเขียนบล็อกที่นี่

my-library

ผมจึงเริ่มด้วยการเปิด notebook ของผมเพื่อเตรียมที่จะเขียนบล็อกให้ได้สักเรื่องนึง
หลังจากที่เปิด notebook มาเกือบสองชั่วโมง ผมก็ยังหาเรื่องที่จะเขียนบล็อกไม่ได้

ความรู้สึกง่วงของผมก็เกิดขึ้น

จริงสิ สมัยที่ผมทำงานอยู่ที่นี่ ปกติมันไม่ได้เงียบเหมือนกับตอนนี้นี่
เอ๊ะ ทำไม ห้องสมุดนี้เปลี่ยนไปขนาดนั้นเลยเหรอ
จากห้องสมุดที่มีแต่เสียงดัง บัดนี้กลายเป็นห้องสมุดแห่งความเงียบ

บรรยากาศที่ช่างเป็นใจ
– เงียบ
– อากาศเย็น
– กลิ่นไอหนังสือ

ทำให้ผมรู้สึกง่วงนอนได้ขนาดนี้จริงๆ หรือเนี้ย ไม่อยากจะเชื่อ
ผมจำได้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่ผมเขียนบล็อกเกี่ยวกับอาการง่วงในห้องสมุดของเพื่อนๆ หลายๆ คน
ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อมากหรอกครับ แต่พอโดนกับตัวเอง เชื่อเต็มที่เลย

แม้ว่าขณะที่ผมทำงานจะกินกาแฟไปด้วย เปิดคอมพิวเตอร์ไปด้วย
แต่ทำไมกาแฟถึงไม่ช่วยให้ความง่วงหายไปเลย?

แล้วแบบนี้ สิ่งจูงใจที่ทำให้เพื่อนๆ หลายๆ คนที่ไม่หลับในห้องสมุดมันมีอะไรบ้างนะ
– ผู้คนมากมาย (ยิ่งสาวสวยๆ อาจจะทำให้ไม่อยากหลับ)
– เสียงเพลง (แล้วแบบนี้จะมีสมาธิอ่านมั้ย)
– สีสันภายในห้องสมุด (จะทำให้เป็นห้องสมุดลูกกวาดหรือปล่าว)

คิดๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่น่าท้าทายไม่น้อยเลยนะครับ
ถ้าผมอยากจะสร้าง ?ห้องสมุดที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ง่วงนอน?

เอาเป็นว่าใครมีไอเดียเจ๋งๆ ก็ช่วยกันเสนอหน่อยนะครับ
เผื่ออนาคตผมอยากเปิดห้องสมุดเอง จะได้นำเอาแนวคิดของเพื่อนๆ ไปใช้กัน

เริ่มต้นกับการพัฒนาห้องสมุดดิจิทัลด้วย Greenstone

วันนี้มีโอกาสได้เดินเข้าไปในร้านหนังสือของ B2S ที่เซ็นทรัลเวิลด์
เดินๆ อยู่ตาของผมก็ไปหยุดอยู่กับหนังสือเล่มนึง
หนังสือเล่มนี้ ชื่อเรื่องคุ้นๆ มาก และเข้ากับวงการห้องสมุด
ผมจึงต้องขอเอามาเขียนแนะนำสักหน่อยดีกว่า

greenstone

หนังสือที่ผมจะแนะนำวันนี้เป็นหนังสือที่แนะนำการใช้โปรแกรม “Greenstone”

ข้อมูลหนังสือเล่มนี้
ชื่อเรื่อง : เริ่มต้นกับการพัฒนาห้องสมุดดิจิทัลด้วย Greenstone
ผู้เขียน : สุภาพร ชัยธัมมะปกรณ์, บุญเลิศ อรุณพิบูลย์
สำนักพิมพ์ : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช)
ISBN : 9789745988125
ราคา : 200 บาท


โปรแกรม “Greenstone”
คือ โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างคลังสื่อดิจิทัล หรือ ห้องสมุดดิจิทัล นั่นเอง
หนังสือเล่มนี้อาจจะจัดได้ว่าเป็น หนังสือที่เกี่ยวกับ Opensource ของห้องสมุดเล่มแรก (หรือปล่าว) ในเมืองไทย

เราลองไปดูสารบัญของหนังสือเล่มนี้กันดีกว่า
– ห้องสมุดดิจิทัล Greenstone
– การติดตั้ง Greenstone
– สำรวจ Greenstone Digital Library
– Greenstone Librarian Interface ผู้ช่วยสำหรับบรรณารักษ์
– หลักการออกแบบพัฒนาห้องสมุดดิจิทัล
– เริ่มสร้างคลังสื่อดิจิทัล
– เพิ่มประสิทธิภาพการสืบค้นเอกสาร
– รู้จักกับเมทาดาทา
– ดับลินคอร์เมทาดาทา
– Collection เอกสาร HTML
ฯลฯ

พอได้ดูสารบัญของหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็ขอแยะประเด็นหลักๆ ของหนังสือเล่มนี้ออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
1. เกี่ยวกับโปรแกรม Greenstone : แนะนำการติดตั้ง และการใช้งาน
2. เกี่ยวกับหลักการทั่วไปของห้องสมุดดิจิทัล
3. เกี่ยวกับข้อมูล เมทาดาทา (Meta data)

เป็นยังไงกันบ้างครับกับหนังสือเล่มนี้ ผมว่าค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับห้องสมุดหลายๆ ที่เลยนะครับ
นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่อยากสร้างห้องสมุดดิจิทัลเองอีกด้วย

อย่างกรณีผมเอง ผมก็อยากสร้างคลังเอกสารดิจิทัลของผมเองเหมือนกัน
ข้อมูลต่างๆ ไฟล์งานต่างๆ ที่ผมเก็บไว้ตั้งแต่ตอนเรียน
ผมก็อยากนำออกมาเสนอให้เพื่อนๆ ได้ดู ได้อ่านเหมือนกัน

สงสัยผมต้องซื้อหนังสือเล่มนี้ก่อนนะครับ แล้วทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้มากๆ
แล้วถึงตอนนั้นอาจจะมีห้องสมุดดิจิทัล Libraryhub ก็ได้นะ อิอิ

หากเพื่อนๆ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ลองเข้าไปดูที่
http://www.se-ed.com/eshop/Products/Detail.aspx?No=9789745988125&AspxAutoDetectCookieSupport=1