บทเรียนที่ทำให้ใจของเรารับรู้…

ช่วงนี้ผมมีเรื่องให้คิดมากมายหลายเรื่อง เครียดบ้าง ท้อบ้างเป็นเรื่องปกติ
มีคนหลายคนบอกกับผมว่า ?ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ?
ใช่ครับ!!! แน่นอนครับ เพราะถ้าโรยด้วยกลีบกุหลาบ ป่านนี้กุหลาบคงจะหมดโลกแล้วแน่ๆ

lessonsong

ในชีวิตของทุกๆ คน ก่อนที่จะมีความก้าวหน้า ก็จะต้องมีอุปสรรคมากมาย
สิ่งเหล่านี้ทำให้บางคนท้อต่อโชคชะตาของตัวเอง เช่นเดียวกับผม
บางเวลา บางปัญหา บางอุปสรรคมีอิทธิพลทำให้ผมไม่อยากทำอะไรเลย
แต่สิ่งที่ผมพยายามที่จะคิด และต้องสู้กับสิ่งนั้น นั่นก็คือ

“เราต้องสู้สิ ถ้าไม่สู้ก็ไม่รอดนะ”
“อุปสรรคมีไว้ให้ฝ่าฟัน และเมื่อฝ่าฟันได้เราจะพบกับรางวัลแห่งชีวิต”
“ปัญหา และอุปสรรค คือความท้าทาย และเป็นตัววัดประสิทธิภาพ และกำลังใจของเรา”

เอาเป็นว่าจริงๆ ยังมีคติให้ผมคิดอีกมากมายที่ใช้เวลาผมเจ็บ
ยิ่งช่วงนี้มีเพลงๆ นึงที่ฟังแล้วรู้สึกได้เลยว่ามีความหมายดีๆ ซ่อนอยู่

ผมเลยอบากให้เพื่อนๆ ลองฟังกันดูอ่ะครับ

เพลง LESSON (บทเรียน) ของ BOYdPod

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=ygZeiOnB2XY[/youtube]

เนื้อเพลง LESSON (บทเรียน) ของ BOYdPod

เมื่อความคาดหวังของเรานั้นพังทลาย
เมื่อความเสียใจเกิดจากการพบความจริง
ทั้งที่เราได้ทุ่มเททำจนหมดทุกสิ่ง

เมื่อใจที่ครั้งนึงนั้นเคยยังมีแรง
กลับดูเหือดแห้งจนไม่เหลืออะไร
เมื่อฟางเส้นสุดท้ายกำลังจะขาดหายไป

ในเวลานั้นเรากำลังจะได้พบ บทเรียนสำคัญแค่ไหน รู้ไหม

* บทเรียนนี้ไม่มีสอน ต้องผ่านพ้นความทุกข์ร้อน เท่านั้นถึงเข้าใจได้
จะต้องเสียใจกี่ครั้งแต่ก็คุ้มเมื่อแลกกัน เพราะว่าหาเรียนไม่ได้จากที่ไหน

** บทเรียนที่ทำให้ใจของเรารับรู้ ว่าไม่มีอะไรคงอยู่เสมอไป
เป็นบทเรียนชีวตที่แสนจะยิ่งใหญ่ เมื่อใจของเรานั้นยอมรับมัน

เมื่อความพยายามนั้นกลายเป็นสิ่งที่ผิด
เมื่อความตั้งใจไม่มีค่าอะไร
เหมือนทางที่เคยเดินมาตลอด คือทางที่เลือกพลาดไป

ในช่วงเวลานั้นเรากำลังจะได้พบ บทเรียนสำคัญแค่ไหน รู้ไหม

( * , ** )

บทเรียนที่ทำให้ใจของเรารับรู้
ว่าไม่มีอะไรคงอยู่เสมอไป
เป็นบทเรียนชีวิตที่แสนจะยิ่งใหญ่
เมื่อใจของเรานั้นยอมรับมัน
ความผิดหวังจึงจะเปลี่ยนเป็นพลังได้
เมื่อใจของเรานั้นยอมรับมัน

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเพลงนี้ หวังว่าเพื่อนๆ คงจะมีแรงและกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคขึ้นบ้างนะครับ
นอกจากเพลงที่จะมอบให้แล้ว ก็ยังมีกำลังใจจากผมที่จะมอบให้ทุกคนๆ ด้วยนะครับ

สำหรับวันนี้ผมขอขอบคุณเพลงดีๆ จาก Ijigg และ เนื้อเพลงจาก Siamzone ครับ

สรุปรายชื่อ ผู้มีอุปการคุณต่อวงการห้องสมุดฯ ประจำปี 2551

วันนี้ผมขอเอาเรื่องเก่าจากสมาคมห้องสมุดมาโพสให้อ่านกันนะครับ นั่นก็คือ
เรื่อง การประกาศรายชื่อผู้มีอุปการคุณต่อวงการห้องสมุด และการศึกษาวิชาบรรณารักษศาสตร์ 2551

librarian

ถ้าหากเพื่อนๆ เข้าไปที่เว็บไซต์ของสมาคมห้องสมุดฯ จะเห็นว่า
ข่าวนี้ทางสมาคมได้นำเสนอเป็นไฟล์ .jpg ให้อ่านกัน

เพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ภาพดูได้ที่
http://tla.or.th/document/good1.jpg
http://tla.or.th/document/good2.jpg
http://tla.or.th/document/good3.jpg
http://tla.or.th/document/good4.jpg

แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบอ่านไฟล์ .jpg เหมือนอย่างผม
ก็ลองอ่านข้อมูลด้านล่างนี้ได้ เนื่องจากผมนำมาเขียนใหม่เป็น text แบบสรุปให้นะครับ

รายชื่อของผู้มีอุปการคุณต่อวงการห้องสมุดฯ ประจำปี 2551 มีดังนี้

– นายทวีศักดิ์ เดชเดโช (ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว)
ผลงานเด่น : ให้การสนับสนุนห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี และห้องสมุดประชาชนซอยพระนาง
สนับสนุนการจัดสร้างห้องสมุดประชาชนแห่งใหม่จำนวน 8 แห่ง นอกจากนี้ยังผลักดันโครงการบ้านหนังสือ

– เทศบาลนครพิษณุโลก
จัดสรรงบประมาณในการสร้างหอสมุดเทศบาลนครพิษณุโลกแห่งใหม่
ให้มีบรรยากาศที่ทันสมัย และทำให้ห้องสมุดมีภาพลักษณ์ใหม่

– เทศบาลเมืองพัทลุง
บริจาคเงินให้ กศน. เพื่อใช้ในการสร้างอาคารห้องสมุดประชาชนหลังใหม่
เพื่อให้บริการการเรียนรู้ รวมถึงเป็นศูนย์ข้อมูลชุมชน และจังหวัดพัทลุง

– บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด
จัดทำโครงการแหล่งการเรียนรู้ และให้การสนับสนุนในการสร้างห้องสมุดโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง
ในเขตจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี จำนวน 10 โรงเรียน

– ศาสตราจารย์ คลินิก นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร (อธิการบดีมหาวิทยามหิดล)
สนับสนุนในเรื่องการปรับปรุงอาคารหอสมุดศิริราช การจัดสร้างคลังหนังสือศิริราช
รวมถึงการพัฒนาบุคลากรในการจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารคลังหนังสือ
และผลักดันจนหอสมุดศิริราช ได้รับรางวัลหน่วยงานดีเด่นในเรื่อง Quality Fair 2551

– รศ. ดร. พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์ (คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
ให้การสนับสนุนการพัฒนาห้องสมุด และสถานภาพของครูบรรณารักษ์
โดยให้ความสำคัญเรื่องการยกระดับสถานภาพครูบรรณารักษ์โรงเรียน

– นางสาวเพ็ญจรัส สิงห์ทอง (ผู้อำนวยการโรงเรียนตาคลีประชาสรรค์)
เป็นผู้บริหารที่เห็นความสำคัญของห้องสมุด และแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน
ดำเนินการระดมทุนจากแหล่งต่างๆ เพื่อสร้างห้องสมุดโรงเรียนที่สมบูรณ์ และทันสมัย

– รองศาสตราจารย์ วุฒิชัย กปิลกาญจน์ (อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
จัดสรรงบประมาณให้กับสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เพื่อใช้ในการพัฒนาห้องสมุดในส่วนต่างๆ เช่น การเปิดบริการห้องสมุดตลอดคืนในช่วงสอบ
หรือ โครงการบริการยืมคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับใช้งานภายในห้องสมุด

– ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม)
สนับสนุนเงินในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ห้องสมุดโรงเรียนมงคลวิทยา
และพัฒนาองค์ความรู้สำหรับห้องสมุดชุมชนต้นแบบบนพื้นฐานคุณธรรม

– สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ
สนับสนุนเงินทุนในการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนในชนบท
และบริการจัดสร้างอาคารห้องสมุดสำหรับโรงเรียนในชุมชนต่างๆ

– ศาตราจารย์ ดร. สุรพล นิติไกรพจน์ (อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
ให้การสนับสนุนในการพัฒนาห้องสมุด สัญญา ธรรมศักดิ์ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เพื่อให้เป็นห้องสมุดกฎหมายที่ทันสมัย และสมบูรณ์แบบ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับรายชื่อและข้อมูลของผู้มีอุปการคุณต่อวงการห้องสมุดฯ ประจำปี 2551
ซึ่งสรุปว่ามีทั้งหมดจำนวน 5 หน่วยงาน และ 6 ท่าน

ผมก็ขอเป็นตัวแทนของคนที่อยากเห็นห้องสมุดเมืองไทยพัฒนา
ก็ขอขอบคุณแทนบรรณารักษ์ และห้องสมุดต่างๆ ด้วยนะครับ
ที่ท่านและหน่วยงานให้การสนับสนุนสิ่งดีๆ เพื่อสังคมไทย

New Avatar in Yahoo : Mr Librarian

นานๆ ทีผมจะเข้าไปแก้ avatar ใน Yahoo (http://avatars.yahoo.com/)
เพื่อให้เพื่อนๆ ดูรูปผมแล้วและเข้าใจว่าเป็นบรรณารักษ์เลยต้องปรับรูปอะไรนิดหน่อย อิอิ

librarian-man-avatar

อธิบายรูปเดิม
ในรูปเดิมของผมบ่งบอกความเป็นอะไรที่เรียบง่ายและสบายๆ
ยืนอยู่บนท้องถนน ใส่เสื้อลายดอกสีส้ม กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ

อธิบายรูปใหม่
ในรูปใหม่ผมได้เปลี่ยนฉากสถานที่ด้านหลังให้กลายเป็นห้องสมุด
สวมเสื้อยืดแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบ รวมไปถึงการถือหนังสืออยู่ในมือด้วย

จริงๆ แล้วเพื่อนหลายๆ คนก็อาจจะบอกว่าไม่เหมือนบรรณารักษ์ก็เหอะ
แต่ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยรูปนี้ของผมก็มีกลิ่นไอของความเป็นห้องสมุดอยู่
เอาเป็นว่า ผมจะใช้รูปนี้อ่ะ ใครจะทำไม อิอิ

ไหนๆ ก็เขียนถึงการเปลี่ยน Avatar แล้ว
งั้นผมขอแนะนำ http://avatars.yahoo.com/ หน่อยดีกว่า
เพราะว่าผมรู้สึกว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างตัวตนของเราได้ง่ายดี เช่น
– Appearance (รูปร่าง, หน้าตา, ทรงผม, สีผิว)
– Apparel (การแต่งกาย, เสื้อผ้า)
– Extras (เครื่องแต่งกายอื่นๆ, หมวก, หน้ากาก, รวมถึงอุปกรณ์เสริม)
– Background (ฉากหลัง, พื้นหลัง)
– Branded (พื้นหลังแบบพิเศษตามงานเทศกาลสำคัญๆ)

นอกจากนี้พอเราแต่งตัว และกำหนดรูปแบบความเป็นตัวตนเสร็จ
เรายังสามารถกำหนดอารมณ์ของ avatar เราได้ด้วยนะ เช่น
– ร่าเริง สนุก ดีใจ
– เซ็งๆ เหงาๆ
– โกรธ โมโห
– หน้าตลก ขี้เก็ก

my-avatar

เป็นไงบ้างครับกับรูปของผมในอารมณ์ที่ต่างกัน

เอาเป็นว่าผมก็ชอบเข้ามาแต่งตัวในเว็บนี้บ่อยๆ เหมือนกัน
เหมือนเล่นเกมส์แต่งตัวเลยอ่ะครับ อิอิ

เพียงแต่คนที่จะเข้ามาแต่งตัวแบบนี้ได้ ต้องมี account ของ yahoo นะครับ
และเมื่อเพื่อนๆ แต่งตัวเสร็จแล้ว avatar เหล่านี้ จะใช้แทนตัวคุณในบริการต่างๆ ของ Yahoo นั่นเอง

เอาเป็นว่าผมก็ขอแนะนำแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
ลองแต่งตัวกันดูแล้วส่งมาให้ผมดูบ้างหล่ะ อิอิ

คุณเป็นบรรณารักษ์ยุค 2.0 หรือปล่าว

มีหลายคนเคยบอกว่าการแต่งตัวก็สามารถบอกนิสัยหรือลักษณะเฉพาะตัวได้
วันนี้ผมจึงขอนำเรื่องการเลือก ทรงผม และ รองเท้า มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
เชื่อมั้ยครับว่าทั้งสองสิ่งนี้สามารถบอกได้ว่าเพื่อนๆ เป็น “บรรณารักษ์รุ่นไหน”

บทความเรื่องนี้ผมนำมาจากบล็อก http://infonatives.wordpress.com
ชื่อเรื่องว่า “Librarian 1.0 or 2.0 hair & shoes ? now we know

ในบล็อกเรื่องนี้ได้กล่าวถึงการไปสำรวจแบบทรงผม กับ รองเท้า ของบรรณารักษ์
ตอนแรกผมก็รู้สึกงงเหมือนกันว่า จะไปสำรวจทำไม แต่พออ่านชื่อเรื่องของเขาก็เลยถึงบางอ้อว่า

เขาได้สำรวจทรงผมของบรรณารักษ์ 1.0 กับ บรรณารักษ์ 2.0
และนอกจากนี้ยังสำรวจรองเท้าของบรรณารักษ์ 1.0 กับ บรรณารักษ์ 2.0 ด้วย

ทรงผม กับ รองเท้า สามารถบอกได้จริงหรือนี่ว่าเป็นบรรณารักษ์ยุคไหน
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ลองดูผลสำรวจ ทรงผม กับ รองเท้า กันก่อนหล่ะกัน

เริ่มจากเพื่อนๆ ลองดูที่ทรงผมเหล่านี้ก่อนนะครับ
“ทรงผมแบบไหนถึงจะทำให้ดูเป็นบรรณารักษ์ 2.0”

hair-librarian

นอกจากนี้ไปดูกันต่อเลยดีกว่าว่า “รองเท้าแบบไหนถึงจะทำให้ดูเป็นบรรณารักษ์ 2.0”

shoes-librarian

เป็นยังไงกันบ้างครับ เพื่อนอยู่ในบรรณารักษ์ยุคไหนกันบ้างครับ
สำหรับของผม ทรงผมได้ 2.0 แต่รองเท้ายังเป็น 1.0 อยู่อ่ะครับ
ดังนั้นรวมๆ แล้ว ผมน่าจะได้ชื่อว่า บรรณารักษ์ 1.5 มั้งครับ

เอาเป็นว่าที่เอามาให้ดูก็ไม่ต้องซีเรียสกันมากนะครับ
ไม่ใช่ว่าดูแล้วเครียด พรุ่งนี้เปลี่ยนทรงผม กับ รองเท้าไปทำงาน
เพื่อนๆ ของคุณอาจจะตกใจก็ได้นะครับ

สรุปแล้วไม่ว่าจะเป็นบรรณารักษ์ 1.0 หรือ บรรณารักษ์ 2.0
ก็อย่าลืมให้บริการผู้ใช้ดีๆ ด้วยนะครับ ไม่งั้นผมคงต้องของริบคำว่า บรรณารักษ์จากพวกคุณแน่ๆ

สัมมนานักสารสนเทศที่พึงประสงค์ในสังคมฐานความรู้

วันนี้มีงานสัมมนาดีๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้เข้าร่วมอีกแล้วครับ
งานสัมมนาครั้งนี้จัดโดย ภาควิชาสารสนเทศศาสตร์และบรรณารักษศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

banner-seminar Read more

เก็บตกภาพถ่ายจากทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ผมได้เดินทางมาปฏิบัติงานที่จังหวัดอุบลราชธานีวันที่ 6-10 สิงหาคม 2552
หลังจากที่ทำงานมาตลอดสี่วัน คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ผมจะอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี
ผมจึงตัดสินใจ “ขอเดินผ่อนคลายสมองที่บริเวณทุ่งศรีเมืองหน่อยก็แล้วกัน”

Read more

เสื้อตัวเดียวในโลกโดย projectlib

หลังจากที่มีเสื้อสวยๆ ใส่เป็นเอกลักษณ์ครั้งนึงในชีวิตมาแล้ว
ผมก้เลยต้องถ่ายรูปแล้วเอามาโพสให้เพื่อนๆ อิจฉาเล่นดู อิอิ

projectlibshirt-225x300 Read more

ตามหาภาพถ่ายงานสัมมนาวิชาการชมรมห้องสมุดเฉพาะ

เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นในชีวิตเราหลายๆ ครั้ง
ซึ่งหากเป็นเรื่องบังเอิญที่ดีผมว่าก็ควรจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังนะครับ

03899-300x225

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า…
ในขณะที่ผมกำลังค้นหาข้อมูลเพื่ออ่านเล่นๆ อยู่ ก็ปรากฎว่าผมไปเจอภาพถ่ายของผมโดยบังเอิญ
เท่าที่จำได้ภาพนี้เป็นภาพตอนที่ผมไปบรรยายที่งานสัมมนาครั้งนึง และถ้าระลึกได้ไม่ผิด
งานสัมมนานั้น คือ งานสัมมนาวิชาการชมรมห้องสมุดเฉพาะ ประจำปี 2551 นั่นเอง

วันนั้นผมร่วมวงเสวนา “การสร้าง การค้น การอ่าน การแลกเปลี่ยน”
ในวันที่ 29 สิงหาคม 2551 ร่วมกับ อ.รุจเรขา, รศ.ดร.น้ำทิพย์, อ.ประดิษฐา

จริงๆ แล้วผมก็ลืมเรื่องงานเสวนาครั้งนั้นไปแล้วจริงๆ นะครับ
พอเห็นภาพก็นึกขึ้นไปว่า งานในวันนั้นผมไม่ได้นำกล้องถ่ายรูปไปด้วย
จึงไม่มีภาพถ่ายที่ระลึกของงานเสวนาในครั้งนั้นมาฝากเพื่อนๆ

วันนี้ผมก็เลยขอนำเรื่องนี้มาประกาศให้เพื่อนๆ ที่ได้ไปงานวันนั้น
ใครได้ถ่ายรูปงานบรรยายในครั้งนั้นบ้าง ผมอยากได้เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ใครมี หรือใครเห็นภาพของผม อยากรบกวนให้ส่งไฟล์เข้ามาในอีเมล์ผมหน่อย
จะขอบคุณอย่างมากๆๆๆๆๆๆ เลยครับ

อีเมล์ผมก็ dcy_4430323@hotmal.com

ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งนะครับ

ที่มาของรูปที่ผมไปเจอนี้ คือ http://gotoknow.org/blog/meetingforlibrarian/231849
ขอฝากไว้นิดนึงหากใครรู้จัก หรือเป็นเจ้าของบล็อกนี้ขอความกรุณาติดต่อผมกลับมาด้วยนะครับ
ผมอยากได้รูปภาพขนาดเต็มๆ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกอ่ะครับ

10 อย่างที่ต้องรู้เกี่ยวกับห้องสมุดของคุณ

วันนี้ขอเขียนบทความที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการห้องสมุดบ้าง
เรื่องที่จะบอกต่อไปนี้ จะใช้วัดความรู้เกี่ยวกับการใช้ห้องสมุดของผู้ใช้ทุกๆ คน

library Read more

บอกเล่าเก้าสิบ “โครงการศูนย์ความรู้กินได้”

วันนี้ผมขอแนะนำข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ “โครงการศูนย์ความรู้กินได้” นะครับ
เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการที่ผมทำงานอยู่ด้วยก็เลยอยากให้เพื่อนๆ รู้ และเข้าใจว่าผมกำลังทำอะไร

knowledge-center

ก่อนที่จะเล่าเรื่องของ โครงการศูนย์ความรู้กินได้ ให้ฟัง ผมอาจจะต้องเกริ่นข้อมูลทั่วๆ ไปก่อนนะครับว่า

สถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2552 หลายๆ คงได้เรียกสถานการณ์นี้ว่า ?เศรษฐกิจเผาจริง?
จำนวนคนตกงานกว่า 2 ล้านคน นักศึกษาจบใหม่ กว่า 7 แสนคนไม่มีงานทำ
ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวคนก็จะกลับสู่ต่างจังหวัดบ้านเกิด

อ่านมาแล้วเพื่อนๆ คงจะงง ว่า มันเกี่ยวอะไรกับ โครงการศูนย์ความรู้กินได้ ใช่มั้ยครับ
ผมก็เลยต้องขอตอบว่า “เกี่ยวสิครับ” เพราะว่าบทบาทของ โครงการศูนย์ความรู้กินได้ คือ

กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ โดยการเสนอ และสนับสนุนองค์ความรู้ที่คัดสรรตามความจำเป็น
และความต้องการของกิจกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่บนแนวความคิด “เศรษฐกิจบนพื้นฐานความคิดสร้างสรรค์ (Creative economy)”

แล้วเพื่อนๆ ลองคิดต่อนะครับว่า เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีคุณภาพ ก็จะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ (คนมีงานทำ)
พอคนมีงานทำก็จะเกิดการจับจ่ายเพื่อการบริโภค และทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ไม่หดตัว

โดยสโลแกนของ โครงการศูนย์ความรู้กินได้ ที่ผมชอบมากๆ ก็คือ
?เพราะความรู้ ใช้ทำมาหากินได้?

ต่อมาเรามาดูบทบาท ประโยชน์ และสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในห้องสมุดดีกว่าครับ

บทบาทหลักของโครงการศูนย์ความรู้กินได้

เป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการ และให้บริการองค์ความรู้ตามความต้องการของหน่วยงาน และประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม และภาระกิจของหน่วยงานต่างๆ

เป็นส่วน ?เติม? มุมมองใหม่ๆ ผ่านทางการจัดนิทรรศการ สัมมนา สร้างต้นแบบเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ความรู้ และปัญญาผลิตวิธีการ และแนวคิดใหม่ๆ เพื่อหลุดพ้นจากบริบท หรือกรอบแนวความคิดแบบเดิมๆ

รวบรวมข้อมูล + องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์จากหลายๆ หน่วยงานหลากหลายพื้นที่มาบริหารจัดการให้เกิดการรับรู้ได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ความรู้ได้ถูกนำไปใช้ + ต่อยอดเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ เชื่อมโยงออกไปจากระดับจังหวัดไปสู่ระดับประเทศ

ประโยชน์ของโครงการศูนย์ความรู้กินได้
1. ประชาชนสามารถเข้าถึงความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพได้ในต้นทุนที่ต่ำ
2. การบริหารจัดการความรู้อย่างมีประสิทธิภาพของศูนย์ควมรู้กินได้ เป็นการแบ่งเบภาระของผู้ประกอบการในการดูแลบุคลากรท้องถิ่น
3. หน่วยงานในพื้นที่ได้ประโยชน์จากการเข้าถึงแหล่งความรู้ที่จำเป็นและหลากหลายมากขึ้น

จากสิ่งที่ผมเกริ่น บทบาทของโครงการฯ สโลแกนของโครงการฯ ประโยชน์ของโครงการฯ
เพื่อนๆ คงเกิดคำถามว่า แล้วโครงการนี้ต้องทำอย่างไร ผมก็ขอกล่าวต่อเลยนะครับ

แนวทางในการปฏิบัติของโครงการศูนย์ความรู้กินได้
1. นำเสนอเนื้อหา และรูปแบบความรู้ที่จำเป็นตามความต้องการของพื้นที่
2. สร้างภาพลักษณ์ให้กับอาคารห้องสมุดประชาชนในรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์ ในการบริการความรู้ตามที่ได้รับการศึกษาวิจัย
3. เปลี่ยนบทบาทของบรรณารักษ์ให้กลายเป็นผู้ที่ให้บริการความรู้ได้ทุกรูปแบบ
4. นำเสนอนิทรรศการ ?ทำมาหากิน(ได้)? เพื่อแสดงตัวอย่างของความคิด วิธีทำ อุปสรรค และการแก้ปัญหา
5. จัดอบรมสัมมนาเพื่อ ?ทำมาหากิน?
6. ถอดบทเรียน ?ทำมาหากิน? เพื่อเปลี่ยน Tacit Knowledge เป็น Explicit Knowledge

นี่คือข้อมูลทั่วไปของ โครงการศูนย์ความรู้กินได้
หวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจในจุดประสงค์ และหลักการของโครงการนี้มากขึ้นนะครับ