โครงการสัมมนาเครือข่ายบรรณารักษ์ยุคใหม่ Libcamp#2

วันนี้ผมขอนำร่างโครงการสัมมนาเครือข่ายบรรณารักษ์ยุคใหม่ ครั้งที่ 2
หรือที่พวกผมจะเรียกว่า Libcamp#2 มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันก่อนนะครับ

libcamp2 Read more

บรรณารักษ์ขาดแคลนขั้นวิกฤติ จริงๆ หรือนี่

จากข่าวในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 12 มีนาคม 2552 หน้า 8

librarian1

ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับเรื่อง “บรรณารักษ์ขาดแคลนขั้นวิกฤติ” ผมจึงขอวิเคราะห์ดังนี้

เพื่อนๆ สามารถอ่านข่าวได้จากการคลิกรูปด้านล่างนี้นะครับ

newspaper

ประเด็นที่พอจะสรุปได้จากการอ่านข่าว คือ
– เด็กรุ่นใหม่ไม่นิยมเรียนบรรณารักษ์ เพราะขาดความก้าวหน้า
– คนเรียนบรรณารักษ์น้อย แต่ตลาดมีต้องการสูง
– ห้องสมุดที่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนบรรณารักษ์ คือ ห้องสมุดประชาชน
– ห้องสมุดต้องนำคนวิชาชีพอื่นมาทำหน้าที่แทนบรรณารักษ์

จากการสรุปประเด็นต่างๆ ของผม ทำให้ผมต้องเอามาวิพากษ์ดังนี้

– เด็กรุ่นใหม่ไม่นิยมเรียนบรรณารักษ์ เพราะขาดความก้าวหน้า
คนส่วนใหญ่คิดว่าเรียนบรรณารักษ์แล้วขาดความก้าวหน้า
จริงๆ แล้วอาจจะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องเสมอนะครับ
เพราะว่าการที่คนเราจะก้าวหน้าในอาชีพนั้น ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไม่ใช่ขึ้นอยู่กับอาชีพนะครับ
หลายๆ คนเอาแต่โทษว่าอาชีพว่าทำให้เราไม่ก้าวหน้า
แต่แท้จริงแล้วเราพิสูจน์ให้คนอื่นได้เห็นหรือปล่าวหล่ะครับ
อ๋อ ลืมบอกอีกอย่าง การก้าวหน้าในอาชีพไม่ใช่ว่าจะขึ้นอยู่กับว่า ซีอะไรนะครับ
แต่มันขึ้นอยู่กับการยอมรับในสังคมมากกว่าต่างหากหล่ะครับ

– คนเรียนบรรณารักษ์น้อย แต่ตลาดมีต้องการสูง
ประเด็นเรื่องคนเรียนบรรณารักษ์น้อย อันนี้คงต้องศึกษากันจริงๆ นะครับ
เพราะหลักสูตรของบรรณารักษ์ที่มีในประเทศไทย
หลายๆ มหาวิทยาลัยมีการเปลี่ยนหลักสูตรนะครับ
เช่น การจัดการสารสนเทศ หรือสารสนเทศศาสตร์
ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยังมีกลิ่นไอเป็นบรรณารักษ์อยู่นั่นแหละครับ
รวมถึงราชภัฎหลายๆ แห่งยังคงมีหลักสูตรบรรณารักษ์อยู่
เรื่องจำนวนอาจจะน้อยไปถ้าเทียบกับคนในประเทศ

วิธีแก้ง่ายๆ คือ การสนับสนุนหลักสูตรนี้ให้มีความทันสมัยและน่าเรียนให้มากกว่านี้
ปรับปรุงหลักสูตรบรรณารักษ์ให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบัน เพื่อให้นักศึกษามีทางเลือกในการประกอบอาชีพ
แค่นี้ก็จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาในหลักสูตรบรรณารักษ์ได้แล้วครับ

– ห้องสมุดที่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนบรรณารักษ์ คือ ห้องสมุดประชาชน
อันนี้ผมว่าต้องศึกษากันใหม่อีกทีนะครับ เพราะเท่าที่รู้มาผมก็เห็นว่ามีคนสอบเต็มทุกพื้นที่นะครับ
และที่เพิ่งผ่านมาก็มีบรรณารักษ์ที่ต้องรอเรียกคิวมากมาย รอจนต้องไปทำอาชีพอื่น
อันนี้ผมเลยงงว่า ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไง

– ห้องสมุดต้องนำคนวิชาชีพอื่นมาทำหน้าที่แทนบรรณารักษ์
ส่วนข้อนี้ผมคงไม่วิจารณ์นะครับ เพราะว่าบางคนที่ผมคุยด้วยเขาไม่ได้จบบรรณารักษ์
แต่มีจิตใจที่อยากเป็นบรรณารักษ์จริงๆ และพยายามที่จะเรียนรู้มัน
ผมว่าเราก็ควรให้โอกาสกับคนที่อยากเป็นบรรณารักษ์มากๆ บ้างนะครับ
อาจจะมีการจัดหลักสูตรอบรม หรือ แนะนำการเป็นบรรณารักษ์แบบเร่งรัดให้เขาก็ได้

เอางี้ถามตรงๆ ดีกว่า ว่า
?คนที่ไม่ได้จบบรรณารักษ์แต่อยากเป็นบรรณารักษ์ และพยายามเรียนรู้งานบรรณารักษ์? กับ
?คนที่จบบรรณารักษ์ แต่ไม่ได้อยากเป็นบรรณารักษ์ และทำงานไปวันๆ? คุณจะเลือกใคร

นอกจากการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวโดยผมแล้ว มีเพื่อนอีกหลายๆ คนแสดงความคิดเห็น เช่น

คุณบรรณารักษ์นอกระบบ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ห้องสมุดประชาชนนั้นขาดแตลนบรรณารักษ์จริงครับ ในแต่ละจังหวัดจะมีลูกจ้างชั่วคราวอยู่มากในตำแหน่งบรรณารักษ์ซึ่งทางกศน.ก็ ได้ทำการเปิดสอบไปไม่นานนี้และได้ประกาศผลแล้วตามที่ทุกท่านคงทราบข่าวกัน แต่?ไม่พอหรอกครับ ผมบอกได้เลยเพราะว่าสอบผ่านกัน 282 คน แต่ขาดแคลนมากกว่านี้ครับ 282 คนนี้เรียกบรรจุครบทุกคนแน่ครับ(แต่ใครสละสิทธิ์ก็อีกเรื่องนะครับ) ต่างกันแค่ระยะเวลาแต่ภายใน 2 ปีนี้หมดแน่ครับ แล้วที่บอกว่าเรียนบรรณารักษ์แล้วไม่ก้าวหน้านั้น ขอบอกว่าป่าวเลยครับ เป็นบรรณารักษ์แล้วถ้าขึ้นไปถึงขั้น บรรณารักษ์ 7 ว. เมื่อไหร่ก็โอนไปเป็นข้าราชการครูได้นี่ครับ หรือจะไปเรียนโทเพื่อสอบเป็นผอ.ศูนย์อำเภอ หรือรองผอ.ศูนย์จังหวัดก็ได้ครับ จังหวัดผมรองผอ.ศูนย์จังหวัดมาจากบรรณารักษ์ครับ แล้วจะบอกว่าไม่ก้าวหน้าหรือครับ แล้วพอมีใครสอบได้หรือโอนได้ ตำแหน่งบรรณารักษ์นั้นก็จะว่าง รอคนรุ่นใหม่ไปบรรจุต่อไปไงครับ วันนี้ขออนุญาตกล่าวแค่นี้ก่อนนะครับ หากมีข้อสงสัยประการใดผมจะมาคลายข้อสงสัยอีกครั้งนะครับ”

คุณ Jimmy ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“เรื่องของการบรรจุ ที่เคยเห็นและสัมผัสมาในเรื่องของบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน บางแห่งว่าจ้างแต่ลูกจ้าง เวลาทางศูนย์สอบถามมาก็บอกว่าไม่ขาดแคลน เนื่องจากการจ้างลูกจ้างกับบรรณารักษ์ อัตราค่าจ้างต่างกัน แล้วลูกจ้างที่ว่าก็เป็นญาติพี่น้องของบรรณารักษ์ที่มีอยู่ก่อนบ้าง เด็กฝากจากท่านผู้ใหญ่ในท้องที่บ้าง แล้วอย่างนี้จะให้มีตำแหน่งว่าได้ยังไง ไม่เข้าใจจริง ๆ เคยไปสอบแล้วต้องเสียความรู้สึกมาก ๆ เมื่อมีคนบอกว่าให้ดูรายชี่อนี้ให้ดี ๆ เพราะนี่คือคนที่จะได้ทำงานที่นี่ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าห้องสอบเลยด้วยซ้ำ แล้วผลก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ทุกวันนี้เลยไม่คิดจะสอบราชการเลย ทำงานในส่วนของเอกชน ให้รู้ไปว่าจะไม่มีงานทำ เหนื่อยแล้วท้อใจกับระบบนี้จริง ๆ (ระบบเครือญาติ) หลาย ๆ คนอาจจะเถียงว่าไม่จริง แต่ขอโทษมันเกิดขึ้นแล้วค่ะ”

คุณ Nantamalin ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
ถามว่าทำไมถึงขาดแคลนบรรณารักษ์ ตอบเลยว่าเพราะตอนนี้โลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เด็กรุ่นใหม่ไม่เข้าใจว่าบรรณารักษ์หมายถึงอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสำคัญอย่างไร เดี๋ยวนี้ไม่รู้อะไรก็หาจาก Internet สังคมมันเปลี่ยนเป็นยุค 2.0 หมดแล้ว บรรณารักษ์เปลี่ยนรูปแบบเป็นนักสารสนเทศหมดแล้ว ความสำคัญในการวิเคราะห์หนังสือก็เปลี่ยนมาเป็นวิเคราะห์เนื้อหาของ web แทน บริการตอบคำถามก็เปลี่ยนเป็น e-service แทน สังคมทำให้คำว่าบรรณารักษ์เปลี่ยน หลักสูตรก็สอนให้คนที่เรียนคิดอย่างคนรุ่นใหม่ไม่เจาะลึกเนื้อหา จับแบบผิวเผิน คิดแค่ว่าจับข้อมูลมารวมกันให้เยอะ แล้วเอาลง web ก็เสร็จแล้ว ลืมไปแล้วว่าหัวใจ และจิตวิญญาณของบรรณารักษ์อยู่ที่ไหน แล้วอย่างนี้จะโทษใครคงไม่ได้ เพราะสังคมเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่องธรรมดา แต่วันนี้วิชาบรรณารักษ์จะกลับมาเมื่อยุคดิจิตอลล่มสลาย เพราะมีสูงสุดย่อมมีต่ำสุด?มันก้เป็นเช่นนั้นเอง”

คุณ yayaing ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“โดยส่วนตัวแล้ว?เคยทำงานที่ห้องสมุดประชาชนเหมือนกันค่ะ..ตำแหน่ง บรรณารักษ์อัตราจ้าง ทำสัญญาปีต่อปีกัน?ทำอยู่ประมาณ 2 ปีครึ่งน่ะคะ..หมดสัญญาจ้างแล้วก้อไม่ได้ต่ออีก..ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ มหาวิทยาลัย แต่ก้อไม่ได้ทำงานกับห้องสมุดหรอกนะคะ..แต่ตอนนี้มาทำงานทางด้านวารสาร.. ซึ่งเหมือนก่อนนี้ตอนที่เรียนนะคะ..จำได้ว่ามีเรียนวิชาเกี่ยวกับการพิมพ์ แล้วอาจารย์พาไปดูงานตามโรงพิมพ์..ยังเคยคิดเล่นๆ ว่าไม่เกี่ยวกับเราตรงไหน..แต่พอมาทำงานจริงๆๆ..กลับเกี่ยวกับเราเต็มๆ เลย ยังดีที่เก็บเอกสารที่เรียนไว้อยู่น่ะคะ?ก้ออยากจะเข้ามาบอกว่าทุกวิชาที่ เราได้เรียนน่ะ?บางวิชาอาจจะคิดว่าไม่เกี่ยวกับเรา แต่จริงๆ แล้วอาจจะมีประโยชน์ก้อได้นะคะ?ส่วนเรื่องที่ว่าการขาดแคลนบรรณารักษ์..คิด ว่าตามราชภัฏต่างๆ ก้อมีคนที่เรียนบรรณารักษ์เยอะนะคะ..แต่เมื่อเรียนจบ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้มาทำงานที่ตัวเองเรียนหรอกค่ะ บางคนหางานไม่ได้..หรือบางคนก้อคือไม่ชอบงานห้องสมุดไปเลยก้อมี..แต่อยากจะ ให้กำลังใจสำหรับผู้ที่หางานทุกคนนะคะ (โดยเฉพาะผู้ที่เรียนจบบรรณารักษ์น่ะคะ) ตัวเองเคยมีประสบการณ์มาก่อน?.ไม่อยากให้คนอื่นต้องเป็นเหมือนตัวเองน่ะคะ”

จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายๆ คนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ
ผมก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่แสดงความคิดเห็นต่างๆ เข้ามาด้วยเช่นกัน

สรุปแล้วเรื่องที่ผมนำมาวิจารณ์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะจริง หรือ เท็จแค่ไหน
ผมก็อยากจะบอกและพูดกับทุกคน ว่า

?ถึงแม้ว่าอาชีพบรรณารักษ์จะเป็นอาชีพที่คนในสังคมไทยไม่เคยให้ความสำคัญ
แต่ขอให้จำเอาไว้ว่าเราเป็นอาชีพหนึ่งที่สร้างความสำคัญให้สังคมไทย
ทุกอาชีพ ทุกคน ต้องเคยผ่านสถานที่ที่เราทำงาน (ห้องสมุด)?

ขอบคุณครับที่ทนอ่านบล็อกยาวๆ ครั้งนี้

การประชุมนานาชาติ ?จดหมายเหตุวัฒนธรรมในยุคดิจิทัล?

ขอประชาสัมพันธ์งาน การประชุมนานาชาติ ?จดหมายเหตุวัฒนธรรมในยุคดิจิทัล?
ซึ่งจัดโดย โครงการจดหมายเหตุมานุษยวิทยา ของ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร

banner Read more

Consortium of iSchools Asia Pacific (CiSAP)

วันนี้ทางเอไอทีฝากข่าวมาให้ผมประชาสัมพันธ์
ซึ่งผมได้อ่านรายละเอียดแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมากจึงต้องขอบอกต่อ

ait Read more

หลักสูตรเพื่อนักศึกษาบรรณารักษ์รุ่นใหม่ (ICS)

วันนี้ผมขอนำหลักสูตรวิชาบรรณารักษศาสตร์ในต่างประเทศมาให้ดูอีกสักหน่อย
เผื่อว่านักพัฒนาหลักสูตรบรรณารักษศาสตร์ในบ้านเราจะแวะเข้ามาอ่านในบล็อกผมบ้าง

ics Read more

เมื่อ Libraryhub ได้ Pagerank 4/10

บล็อกหรือเว็บไซต์ของเพื่อนๆ มีค่า pagerank กันเท่าไหร่บ้างครับ
วันนี้ผมขอเล่าเรื่องค่า pagerank ที่ผมได้รับจาก google แล้วกัน

google-page-rank-libraryhub

ความหมายของ pagerank (คัดลอกมาจาก http://www.makemany.com)
ค่า pagerank คือ วิธีการจัดลำดับความสำคัญเว็บเพจทั่วโลก จาก Google โดยให้ชื่อว่า Google Page Rank การวัดค่าการจัดลำดับความสำคัญนี้ Google ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ 0 ถึง 10 ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ ค่า Page Rank หรือ PR จะยิ่งสูงเท่านั้น และเป็นเหตุให้ได้รับการจัดลำดับที่ดีกว่าจาก Google.

สำหรับ Libraryhub เปิดไปได้ยังทันจะสามเดือนแต่ก็ได้ Pagerank มา 4/10

pr

ทำให้ผมมีกำลังใจในการเขียนบล็อกขึ้นอย่างมาก (แต่กำลังใจของเพื่อนๆ มีค่ามากกว่านะ)
ค่า pagerank จะทำให้ Google เข้ามาจัดทำ Index ของบล็อกผมเพิ่มขึ้น
และยังช่วยให้คำสำคัญในบล็อกของผมค้นได้เจอเยอะขึ้น ตำแหน่งก็ดีขึ้น

ที่สำคัญก็คือ “เพื่อนๆ จะเจอผมใน Google มากขึ้นและง่ายขึ้น”
ช่วยให้ผมมีสมาชิกใหม่ๆ และร่วมกันสร้างเครือข่ายมากด้วย

เพื่อนๆ สามารถเช็คค่า pagerank ได้ที่
http://www.prchecker.info/check_page_rank.php

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า pagerank คืออะไร ลองอ่านได้จากเว็บไซต์ด้านล่างนี้นะครับ

Pagerank คืออะไร (เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ)
http://en.wikipedia.org/wiki/PageRank
http://www.webworkshop.net/pagerank.html

Pagerank คืออะไร (เวอร์ชั่นภาษาไทย)
http://truehits.net/faq/webmaster/seo/page_rank.php
http://seo.siamsupport.com/blog/pagerank/

ก่อนจากกันวันนี้ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่เขียนบล็อกทุกคนนะครับ
ขอให้ได้ pagerank เพิ่มขึ้นกันทั่วหน้าเลยนะครับ

เมื่อบล็อกบรรณารักษ์อย่างผมโดนลอกอีกแล้ว?

กรณีศึกษาการเขียนบล็อกบรรณารักษ์ของผมมีปัญหามากมาย
กรณีหนึ่งที่รุนแรงมากจนผมต้องพูดหลายครั้งก็คือ
การ copy บทความชาวบ้านเขามาเป็นของตัวเอง

banner-300x144

“เรื่องในบล็อกผมอนุญาติให้นำไปใช้นะครับ แต่กรุณาบอกว่าเอามาจากเว็บผมด้วยได้มั้ย”

เรื่องมีอยู่ว่าในขณะที่ผมนั่งค้นหาเรื่องที่ผมเคยเขียนในบล็อกอยู่
ปรากฎว่า ผมได้เจอบทความเรื่องเดียวกันมากมายใน google (ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเขียน)
เลยทำให้ตกใจเล็กน้อยว่าเรื่องพวกนี้มาจากไหนกันบ้าง

ไม่รอช้าครับผมก็เลยตามเข้าไปดูเว็บไวต์เหล่านี้
ก็พบว่า มีการ copy เรื่องในบล็อกของผมไปใช้
เท่านั้นยังไม่พอ ในบล็อกนั้นก็ใส่ที่มานะครับ แต่ที่มาก็ไม่ใช่ของผมอีก

แล้วที่ตลกมาก นั่นก็คือบล็อกที่ copy เนื้อหามาจาก บล็อกบรรณารักษ์ด้วยกันเอง
ผมไม่แน่ใจว่าเขารู้จัก projectlib หรือปล่าวนะครับ
แต่คุณเอาบทความของผมไปกรุณารู้ไว้สักนิดนะครับว่า
?เจ้าของอนุญาตให้นำไปเผยแพร่นะครับ แต่กรุณาอ้างที่มาด้วยนะครับ?

วิธีที่ถูกต้องในการนำบทความคนอื่นไปลง
– ก่อนที่จะนำบทความของผมไปลงก็มาเขียน คอมเม้นต์บอกผมก่อน
– ส่งเมล์มาบอกกันสักนิดว่าจะเอาบทความของผมไปลงก็ได้นะครับ
– ทักมาใน MSN ก็ได้นะครับ

เฮ้ย บ่นจนไม่รู้ว่าจะบ่นยังไงแล้ว เตือนแล้วเตือนอีก ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีกรณีแบบนี้อีก

ผมเคยบอกเองว่า Sharing Knowledge is power
หลายๆ คนก็คงคิดว่าผมคงแจกเนื้อหาให้ใช้กันได้เต็มที่
แต่ผมก้อยากให้เพื่อนๆ เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างนะครับว่า
ถ้าสักวันนึงคุณโดย copy บทความแบบผมแล้วคุณจะรู้สึกอย่างไร

วันนี้ก็พอเท่านี้ก่อนนะ ขออภัยที่ต้องระบายให้เพื่อนๆ ฟัง

Sharing Knowledge is power?
But Copy Idea is not power na?

ห้องสมุดมารวยจัดกิจกรรมเสวนาเปิดตัวหนังสือ

กิจกรรมที่น่าสนใจของห้องสมุดมารวยกิจกรรมนี้ ผมขอนำมาเล่าใหม่
เพื่อนำเสนอรายละเอียด และกรณีศึกษาสำหรับการจัดกิจกรรมในห้องสมุด

image0012

ข้อมูลของกิจกรรมนี้
ชื่อกิจกรรม : งานเสวนาเปิดตัวหนังสือ ?กฎแห่งความโชคดี? กับ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี
จัดในวันที่ : 29 มีนาคม 2552 เวลา 17.00 – 18.00 น.
สถานที่จัดงาน : ห้องสมุดมารวย@Esplanade

งานเสวนาเปิดตัวหนังสือครั้งนี้ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี มาเองเลยนะ
นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ฟังคนเก่งๆ พูด
อย่างน้อยก็ถือซะว่าเป็นการรับฟังไอเดีย และประสบการณ์จากคนเก่งแล้วกันนะ

เราไปดูข้อมูลหนังสือของคุณบัณฑิต อึ้งรังษีกัน

book

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้
ชื่อหนังสือ : กฎแห่งความโชคดี
ชื่อผู้เขียน : บัณฑิต อึ้งรังษี
ISBN : 9789745192577
สำนักพิมพ์ : อินสไปร์มิวสิค

ในโปสเตอร์ของกิจกรรมนี้ มีข้อความที่น่าสนใจ เช่น
– วิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้จะผ่านพ้นไปเช่นไร
– โชคชะตาจะมีส่วนช่วยเราได้หรือไม่
– ความโชคดี ไม่ได้มาหาคุณแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
– โชคก็มีกฎ หากคุณทำตามกฎนั้น คุณจะโชคดี

งานเสวนาครั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ (ฟรีๆๆๆๆๆ)
งานเสวนาดีๆ แบบนี้ จริงๆ ผมอยากให้ห้องสมุดหลายๆ ที่ได้มาดู
อย่างน้อยก็เพื่อเป็นไอเดียในการจัดกิจกรรมของห้องสมุดของท่าน

ถ้าท่านได้มาดูงานนี้แล้ว ผมเชื่อว่าไอเดียในการจัดกิจกรรมของห้องสมุด
ท่านจะคิดได้รอบด้านกว่านี้แน่นอนครับ

แวะมาดูศูนย์ข้อมูลภาคเหนือ ใน ม.พายัพ

วันก่อนได้เล่าเรื่อง “ดูงานที่หอจดหมายเหตุ ม.พายัพ” ไปแล้ว
วันนี้ผมขอนำเสนอผลของการไปเยี่ยม ม.พายัพ อีกสักหน่อยแล้วกัน
ซึ่งหน่วยงานที่ผมได้ไปชมก็คือ “ศูนย์ข้อมูลภาคเหนือ” ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดห้องสมุดนั่นเอง

ntic-payap Read more