ใครอยากมีอีเมล์ที่ยาวที่สุดในโลกบ้างครับ มาสมัครกันเลย

วันนี้ขอแนะนำบริการฟรีอีเมล์นึงที่แปลกมากๆ นั่นคือ ชื่ออีเมล์ยาวมากๆ เลย
ใครอยากมีอีเมล์ที่ยาวทีสุดในโลกก็ลองไปสมัครกันดูนะครับ

อีเมล์นี้ต้องสมัครที่เว็บไซต์นี้ครับ
http://www.abcdefghijklmnopqrstuvwxyzabcdefghijklmnopqrstuvwxyzabcdefghijk.com/

เป็นไงบ้างครับนี่แค่ชื่อเว็บไซต์นี้เองนะครับ
สโลแกนของเว็บนี้มีว่า The World?s Longest Alphabetical Email Address

ในเว็บนี้มีคำเตือนของการใช้อีเมล์นี้ว่า
– เว็บไซต์บางแห่งไม่สามารถอ่านอีเมล์นี้ได้
– โปรแกรมอ่านเมล์บางตัวก็ไม่สามารถใช้กับอีเมล์นี้ได้
– คนอื่นๆ พิมพ์อีเมล์ได้ยากเพราะชื่อยาวมาก
– บริษัทบางแห่งอาจคิดว่าเป็นเมล์ปลอม
– อีเมล์นี้ชื่อยาวที่สุดในโลกจริงๆ

สุดท้ายสำคัญมากที่สุด คือ เมล์นี้ฟรี

เอาเป็นว่าอีเมล์นี้ขายควาแปลกและความพิเศษในแง่ขงอีเมล์ยาวเพียงอย่างเดียว
ไปลองสมัครเล่นๆ ขำๆ ผมว่าก็โอนะ เอาเป็นว่าลองไปสมัครดูแล้วกันครับ

Flickr Fight ยกที่หนึ่ง : เมื่อห้องสมุดเจอกับ search engine

เว็บไซต์ Flickr Fight คือ เว็บไซต์ที่ใช้ Flickr Api ร่วมกับการค้นหาของ Google
ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะใช้ในการเปรียบเทียบจำนวนของรูปภาพ ของคำที่เราต้องการสืบค้นจำนวน 2 คำ

หลักการง่ายๆ ครับ นำคำที่เราต้องการเปรียบเทียบทั้งสองคำใส่ลงไปในช่องช่าง
ซึ่งในยกแรกวันนี้ผมขอใช้ 2 คำ คือ Library กับ Search engine ดูซิว่าใครจะชนะ

เอาเป็นว่าไปดูผลกันเลยดีกว่า

วันนี้ก็เป็นวันของชาวห้องสมุดครับ เมื่อ Library ชนะ Search Engine
ผลออกมาน่าพอใจมากครับเมื่อ Library มี result = 2388533 images!
ส่วนผลของ Search engine มี result = 35036 images!

เห็นหรือยังครับ ว่าห้องสมุดต้องยิ่งใหญ่กว่า Search Engine แน่นอนครับ 5555

เพื่อนๆ ลองเอาไปเล่นดูกันนะครับ ที่ http://flickrfight.net

ปล. อย่าสนใจโฆษณาด้านบนของเว็บไซต์นะ มันไม่เหมาะสม อิอิ

สุขสันต์วันเกิด LISNews.org ปีที่ 11

ไม่ได้เข้าไปอ่านข่าวห้องสมุดและบรรณารักษ์หลายวัน วันนี้ได้ฤกษ์เข้า Lisnews.org
ก็เจอสิ่งแปลกๆ นิดหน่อยนั่น คือ “LISNews : This Site Goes To 11

เว็บไซต์ที่รวบรวมข่าวสารของวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แถมด้วยบล็อกที่มีบรรณารักษ์ร่วมกันเขียนเยอะที่สุดในโลก
อย่าง LISNews ครบรอบ 11 ปีแล้ว

ผมอาจจะมาอวยพรช้ากว่าชาวบ้านนิดนึง แต่ก็อยากอวยพรให้
LISNews จงอยู่คู่กับวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ของโลกไปนานนาน

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่รู้จัก LISNews.com ผมก็ขอแนะนำอย่างยิ่งครับ
เพราะเขามีเรื่องใหม่ๆ ในวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์มาให้อ่านทุกวัน
แถมเรื่องที่ลงในเว็บนี้มาจากการร่วมกันเขียนของเหล่าบรรณารักษ์จากทั่วโลกด้วย

สำหรับคนที่เข้ามาที่เว็บนี้อยู่แล้ว ก็เข้ามาอ่านได้เรื่อยๆ นะครับ
ผมชอบที่เว็บนี้มี podcast ให้ฟังด้วย ลองเข้าไปดูได้ที่ http://lisnews.org/topic/lisnews_podcast

สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ

เว็บไซต์ Lisnews.org = http://lisnews.org/

โฆษณาอินเทลยังใช้ Lucy Liu กับ ห้องสมุดเลย

วันนี้ผมเจอโฆษณาตัวนึงน่าสนใจดีเลยเอามาฝาก เป็นใบโฆษณาของบริษัท intel
ซึ่งในใบโฆษณานี้ใช้นางแบบชื่อดังและห้องสมุด (เป็นไงครับเกี่ยวกับห้องสมุดแล้ว) อิอิ

ที่มาของรูปจาก http://www.flickr.com/photos/megancohen/61472927/

นักแสดงคนนี้ที่ผมชอบมากครับ เธอคือ 1 ในนางฟ้าชาร์ลี ไงครับ เธอคือ? Lucy Liu
วันนี้มาในรูปลักษณ์ของผู้ใช้บริการห้องสมุดที่ต้องการความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ
ฉากในรูปดูคุ้นตา ประกอบกับกลิ่นไอของหนังสือ บ่งบอกสถานที่ชัดเจนว่า ฉากนี้คือ ห้องสมุด

นักแสดงคนนี้ ผมตามดูหนังที่เธอแสดงหลายๆ เรื่อง เช่น Shanghai Noon, Charlie?s Angels, Kill Bill และผลงานอีกหลายๆ เรื่องที่ผมยังไม่ได้ดู

เอาเป็นว่าผมประทับใจกับภาพโฆษณานี้
และ
ถ้าห้องสมุดหลายๆ ที่ดึงดารามาเป็นนางแบบ คงจะดีไม่น้อยเลย เพื่อนๆ คิดอย่างผมหรือปล่าว

สำหรับใครที่อยากรู้ประวัติและผลงานของเธอเพิ่มเติม ดูได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Lucy_Liu

พาชมนิทรรศการ ?เครื่องรางของขลัง? ณ มิวเซียมสยาม

วันนี้มีโอกาสมาดูงานนิทรรศการที่มิวเซียมสยาม ผมจึงไม่พลาดที่จะต้องรายงานให้เพื่อนๆ ได้ติดตามด้วย
งานนิทรรศการที่จัดขึ้นที่มิวเซียมสยามนี้ เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่อง “เครื่องรางของขลัง” ที่มีอิทธิพลต่อความคิดของคนไทยอยู่

ภายในนิทรรศการประกอบด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับความเชื่อ ของขลัง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย
ซึ่้งผมจะขอเล่าเรื่องตั้งแต่เดินเข้าไปในห้องนิทรรศการจนออกจากห้องนิทรรศการ

ในส่วนแรกจะพบกับเรื่อง “ทำไมต้องสร้างเครื่องราง” ซึ่งจะมีส่วนแสดงที่น่าสนใจ คือ เรื่องราวของพระเครื่อง นางกวัก และพวงมาลัยที่แขวนหน้ารถ (ในส่วนนี้เป็นการเกริ่นก่อนเข้าเรื่องราวของของขลัง)

ภายในห้องนิทรรศการจะมีข้อมูลต่างๆ นำเสนอ พร้อมกับ display ที่จัดไว้ค่อนข้างดี มีบรรยากาศมืดๆ ชวนขนลุกมาก ข้อมูลที่นำเสนอ เช่น สิ่งของบางอย่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติคนเราก็สามารถนำมาเป็นของขลังได้ เช่น เหล็กไหล คดต่างๆ เขากวาง เขี้ยวหมู ฯลฯ และป้ายข้อมูลความรู้ต่างๆ เช่น
– สิ่งเร้นลับกับมนุษย์
– ความกลังของคน
– ลัทธิผีและศาสนา
– ความเชื่อ
– ผีกับพราหมณ์
– ผีกับวิทยาศาสตร์
– ของขลังของผี
– พรจากเทพ
– เทศกาลขอพร
– ชุมนุมเทพเจ้า
– พิธีกรรมคู่ชีวิต
– กำเนิดพระพิมพ์และวัตถุมงคล
– ยุคแห่งพระเครื่อง
– ผีกับพุทธ
– ผลผลิตของลัทธิผี
– ไสยศาสตร์ ไสยดำ ไสยขาว
– ความเชื่อ : ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
– ธุรกิจศรัทธา
– ยิ่งขลัง ยิ่ง (ราคา) สูง

หลังจากที่เดินผ่านห้องแสดงความรู้ต่างๆ มาแล้ว ก็จะพบกับห้องที่แสดงของขลัง โดยจัดวางของขลังในตู้กระจก แบบแยกเป็นกลุ่มต่างๆ ซึ่งเข้าไปห้องนี้ ผมเองก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเลย เพราะมันขลังจนดูน่ากลัวไปเลยจริงๆ ของต่างๆ ที่แสดงเป็นของจริงๆ ไม่ใช่ของที่ทำขึ้นเพื่อโชว์นะครับ

เอาเป็นว่างานนี้ก็น่าสนใจมากๆ ครับ ใครว่างๆ ผมก็แนะนำให้เข้ามาชมงานนิทรรศการนี้นะครับ
งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย ชมฟรีตลอดงาน แถมได้ความรู้และไอเดียดีๆ ในการทำนิทรรศการ เผื่อเอาไปใช้กับห้องสมุดก็ได้นะ

บรรณารักษ์ระดับ 3, 4, 5, 6, 7 แตกต่างกันตรงไหน

เพื่อนๆ นอกวิชาชีพหลายๆ คนสงสัยและถามผมมาว่า บรรณารักษ์ 3 ที่สอบในราชการนี่คืออะไร
แล้วมันยังมีตำแหน่งบรรณารักษ์ระดับอื่นๆ อีกหรือไม่ วันนี้ผมจึงขอเขียนเรื่องตำแหน่งบรรณารักษ์ในระดับต่างๆ

สายงานบรรณารักษ์ในวงการราชการก็มีระดับของตำแหน่งเหมือนวิชาชีพอื่นๆ แหละครับ
นอกจากบรรณารักษ์ 3 แล้ว ในวงการราชการอาจจะพบคำว่า บรรณารักษ์ 4,5,6,7 อีก
ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามานี้มาจากการสอบซึ่งดูที่ความสามารถและประสบการณ์ทำงานเช่นกัน

เรามาดูความรู้ความสามารถของบรรณารักษ์ระดับต่างๆ กันดีกว่า

บรรณารักษ์ระดับ 3
1. มีความรู้ในวิชาการบรรณารักษ์ศาสตร์อย่างเหมาะสมแก่การปฏิบัติงานในหน้าที่
2. มีความรู้ความเข้าในในกฎหมายสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล และกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับอื่นที่ใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่
3. มีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะ อย่างยิ่งของประเทศไทย
4. มีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอย่างเหมาะสมแก่การปฏิบัติงานในหน้าที่
5. มีความสามารถในการศึกษาหาข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา และสรุปเหตุผล


บรรณารักษ์ระดับ 4 (ทำงานระดับ 3 แล้ว 2 ปี)

1. มีความรู้ความเข้าใจในนโยบายและแผนงานต่าง ๆ ของส่วนราชการที่สังกัด
2. มีความสามารถในการจัดทำแผนงาน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คำปรึกษาแนะนำและ เสนอแนะวิธีการแก้ไขปรับปรุงการปฏิบัติงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ
3. มีความสามารถในการปกครองบังคับบัญชา
4. มีความสามารถในการติดต่อประสานงาน

บรรณารักษ์ระดับ 5 (ทำงานระดับ 4 แล้ว 2 ปี, ทำงานระดับ 3 แล้ว 4 ปี, ปริญญาเอกบรรณารักษ์)
1. มีความรู้ความเข้าใจในหลักการบริหารงานบุคคล
2. มีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
3. มีความรู้ความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์


บรรณารักษ์ระดับ 6 (ทำงานระดับ 5 แล้ว 2 ปี)

1. มีความสามารถในการบริหารงานและจัดระบบงาน
2. มีความสามารถในการริเริ่ม ปรับปรุงนโยบายและแผนงาน
3. มีความรู้ความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์


บรรณารักษ์ระดับ 7 (ทำงานระดับ 6 แล้ว 2 ปี)

1. มีความสามารถในการบริหารงานและจัดระบบงาน
2. มีความสามารถในการริเริ่ม ปรับปรุงนโยบายและแผนงาน
3. มีความรู้ความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์

จะสังเกตได้ว่า ในบรรณารักษ์ระดับที่ 6 กับ 7 จะคล้ายๆ กัน แต่การที่จะวัดระดับชั้นกันนั้นอยู่ที่ประสบการณ์ทำงานต่างหาก
และถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าทุกๆ 2 ปี จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้นก็ทำงานเก็บประสบการณ์กันไปเรื่อยๆ นะครับ

อ๋อเรื่องตำแหน่งที่สูงขึ้น แน่นอนครับเงินก็ต้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ผมคงไม่ทราบหรอกนะครับว่าตำแหน่งไหนได้เงินเท่าไหร่
ใครรู้ก็ช่วยนำมาแชร์ให้ผมรู้บ้างนะครับ จะขอบคุณมากๆ อิอิ วันนี้ก็อ่านเล่นๆ กันดูนะครับ อย่างน้อยก็เพื่อพัฒนาตัวเอง

ห้องสมุดควรจัดเก็บสถิติอะไรบ้าง (มาวัดผลห้องสมุดกันเถอะ)

เพื่อนๆ หลายคนส่งเมล์มาถามผมว่า “เปิดห้องสมุดมาได้สักพักแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเก็บข้อมูลห้องสมุดอย่างไร
วันนี้ผมจึงขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเลขต่าง ๆที่อยู่ในห้องสมุด เพื่อให้เพื่อนๆ ใช้เป็นแนวทางในการเก็บข้อมูล

ตัวเลขต่างๆ ที่จัดเก็บในห้องสมุด หรือข้อมูลสถิติต่างๆ ที่เก็บในห้องสมุดเป็นตัวเลขที่แสดงให้เราเห็นว่าห้องสมุดมีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มีประโยชน์ในแง่ของการเขียนรายงานประจำเดือน ประจำปี เพื่อให้เราเป็นความต้องการของผู้ใช้บริการในห้องสมุด รวมถึงนำเสนอผู้บริหารให้ทราบถึงการดำเนินการต่างๆ ของห้องสมุด

ตัวเลขอะไรบ้างหล่ะที่น่าสนใจต่อการเก็บข้อมูล

– จำนวนสื่อสารสนเทศในห้องสมุด เช่น หนังสือ สื่อมัลติมีเดีย วารสาร ….
– จำนวนผู้เข้าใช้บริการในห้องสมุดในแต่ละวัน (แบบบุคคลและกลุ่มบุคคล)
– จำนวนผู้ที่มาสมัครสมาชิกกับห้องสมุด
– จำนวนการยืมคืนในแต่ละวัน
– จำนวนครั้งในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่าน
– จำนวนครั้งที่มีการแสดงนิทรรศการ หรือ จัดบอร์ด
– จำนวนครั้งในการให้บริการตอบคำถาม
– จำนวนครั้งในการใช้บริการอุปกรณ์ต่างๆ ที่ห้องสมุดจัดเตรียม เช่น คอมพิวเตอร์ สื่อการเรียนการสอน
– จำนวนสื่อสารสนเทศที่มีการแยกหมวดหมู่
– จำนวนสื่อสารสนเทศที่สูญหาย
– จำนวนสื่อสารสนเทศที่ได้รับการอภินันทนาการ
– จำนวนวารสารเย็บเล่ม
– จำนวนอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยงานห้องสมุด
– จำนวนในการสร้างความร่วมมือระหว่างห้องสมุดกับหน่วยงานภายนอก
– ปริมาณค่าใช้จ่ายและรายรับต่างๆ ของห้องสมุด

เอาเป็นว่านี่ก็คือตัวอย่างการจัดเก็บจำนวนตัวเลขต่างๆ แบบคร่าวๆ นะครับ
และตัวเลขเหล่านี้ผมว่าไม่ยากเกินไปถ้าเพื่อนๆ จะนำไปจัดเก็บบ้าง
จริงๆ แล้วขอเสนอว่าถ้ามีแบบฟอร์มในการบันทึกรายการต่างๆ ก็จะดีมากด้วยครับ

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากการจัดเก็บข้อมูลสถิติ
– เข้าใจและรู้จักความต้องการของผู้ใช้บริการ เช่น หนังสือหมวดไหนที่คนชอบอ่าน
– จัดสรรงบประมาณเพื่อเสริมความต้องการให้ผู้ใช้บริการ
– ขอเสนองบประมาณในการพัฒนาห้องสมุด

ซึ่งเอาเป็นว่าเมื่อเข้าใจถึงตัวเลขต่างๆ เหล่านี้แล้ว ผมก็อยากให้ทุกคนทำความรู้จักและรู้จักการนำตัวเลขเหล่านี้มาใช้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ว่าเอาตัวเลขมาดูเพียงเพราะว่ามันเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้นนะครับ

ปล. เดี๋ยววันละหลังจะมาเขียนเรื่องการประยุกต์ในการเก็บสถิติเพื่อสร้างความน่าสนใจในห้องสมุดนะครับ