อ่านอะไรดี : Social Innovation, Inc.

ช่วงนี้หลายๆ คนคงกำลังติดตามข่าวสารเรื่องน้ำท่วมกันอยู่ ผมก็เช่นกันครับ แต่ยิ่งติดตามข่าวก็ยิ่งเครียด
ดังนั้นผมจึงหากิจกรรมอื่นๆ มาทำแก้เครียดครับ กิจกรรมที่ว่านี้ ก็ง่ายๆ คือ “อ่านหนังสือ” นั่นเอง

ช่วงก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมผมเองก็ไปยืมหนังสือที่ TK park มา
กำลังจะเอาไปคืนพอดีแต่ TK park ก็ผ่อนผันให้คืนหนังสือได้จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายนครับ
ดังนั้นในระหว่างที่ติดตามข่าว และไม่ได้ออกไปไหน ก็เลยหยิบหนังสือมาอ่านซ้ำไปซ้ำมา
เล่มหนึ่งที่หยิบมาอ่านแล้วรู้สึกว่าให้ข้อคิดดีๆ เยอะมากคือ “Social Innovation, Inc.”

ข้อมูลทั่วไปของหนังสือเล่มนี้
ชื่อเรื่อง : Social Innovation, Inc.
ชื่อผู้แต่ง : Jason Saul
สำนักพิมพ์ : Jossey-Bass
ISBN : 9780470614501

ตอนแรกที่หยิบหนังสือเล่มนี้เพราะสนใจที่ชื่อเรื่องเป็นหลัก “Social Innovation, Inc.”
อ่านจากชื่อเรื่องแล้วทำให้ผมนึกถึงคำว่า “social enterprise” หรือ กิจการเพื่อสังคม
อีกเรื่องที่ผมนึกถึงเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ก็คือการทำ “CSR” ของเหล่าบริษัทต่างๆ

ในหนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ ดังนี้
1. The new economics of social change (เศรษฐศาสตร์แบบใหม่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง)
2. Five strategies for corporate social innovation (5 กลยุทธ์เพื่อการจัดการกิจการเพื่อสังคม)
3. The Roadmap to social innovation (เส้นทางในการพัฒนาไปสู่กิจการเพื่อสังคม)

ซึ่งแยกเป็นบทต่างๆ ดังนี้

Part 1 The new economics of social change

– The Rise of the Social Capital Market
– Responsibility is not a strategy
– Corporate Social Innovation

Part 2 Five strategies for corporate social innovation

– Create revenues through submarketproducts and services
– Enter new markets through backdoorchannels
– Build emotional bonds with customers
– Develop new pipelines for talent
– Influence policy through reverse lobbying

Part 3 The Roadmap to social innovation

– Creating a Culture of Social Innovation
– The Formula for Social Innovation
– Implications of the Social Capital Market

วันนี้ก็ขอฝากเล่มนี้ไว้ให้เพื่อนๆ ตามอ่านก็แล้วกันนะครับ

ปล. หนังสือเล่มนี้สามารถยืมอ่านได้ที่ห้องสมุดทีเคพาร์ค (TK Park)
หรือถ้าอยากซื้อก็ติดต่อที่ Kinokuniya หรือไม่ก็ Asia books ได้เลยครับ

อ่าน Review จากเว็บไซต์อื่นๆ ได้ที่
http://www.amazon.com/Social-Innovation-Inc-Strategies-Business/dp/0470614501
http://beyondprofit.com/book-review-social-innovation-inc/
http://young-leaders-academy.com/blog/sparks/social-innovation-inc/

ตัวแทนคนในยุคดิจิทัล อยากบอกสิ่งที่ต้องการจากห้องสมุด

ภาวะน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้หลายๆ คนเครียดและหลายๆ คนก็ประสบปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมที่ห้องสมุดที่ทำงานหรือท่วมที่พักอาศัย หรือไม่ได้ท่วมแต่หาของกินลำบาก

เอาเป็นว่าผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่านผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้นะครับ

วันนี้ผมเองก็ได้รับอีเมล์จากเพื่อนชาวต่างชาติคนนึง เขาถามถึงปัญหาน้ำท่วมในไทย
ซึ่งรวมถึงถามเกี่ยวกับห้องสมุดที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมด้วย

เพื่อนผมเลยส่งคลิปวีดีโอนี้มาให้ดูแบบขำขำคลายเครียด
ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอที่พูดถึง “ในยุคดิจิทัลแบบนี้คนต้องการอะไรจากห้องสมุด”

ไปดูคลิปวีดีโอกันได้เลยครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=7_zzPBbXjWs[/youtube]

คลิปวีดีโอนี้เป็นคลิปที่ถูกเปิดในงาน VALA 2010 ภายในคลิปวีดีโอนี้เพื่อนๆ จะพบกับสาวน้อย Abbey (เด็กอายุ 3 ขวบ) ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของเด็กที่เกิดในยุคดิจิทัล เธอจะมาพูดให้ฟังว่าเธอต้องการอะไรจากห้องสมุดของเธอ

สรุปสิ่งที่คนในยุคดิจิทัลอยากได้จากห้องสมุด
– ห้องสมุดออนไลน์
– สื่อมัลติมีเดียมากๆ
– บริการที่รวดเร็วและง่าย
– อยากแชร์สิ่งที่ต้องการให้คนอื่นได้รู้ด้วย (อยากบอกต่อ)
– บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ (iphone)
– อ่านหนังสือผ่าน Ebook reader
– Mash up content
– Sematic search
– ข้อมูลแบบ real time
– เทคโนโลยี AR (Augmented Reality)
– ระบบ tagging
– ระบบโต้ตอบด้วย Touch screen

เอาหล่ะครับ ได้ดูแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
สำหรับผมต้องขอบอกก่อนว่าแอบอึ้งมากๆ ที่เด็ก 3 ขวบสามารถพูดได้ขนาดนี้
จริงๆ แล้วผมก็คิดว่าคงมีคนเขียนบทให้เด็กอ่านแน่ๆ เพราะไม่งั้นน้องเขาคงพูดแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ
แต่ก็เอาเถอะครับ อย่างน้อยที่น้องเขาพูดก็เป็นสิ่งที่คนในยุคดิจิทัลต้องการจริงๆ

เอาเป็นว่าก็ขอฝากให้ดูแล้วกันครับ

Infographic พฤติกรรมการอ่านของคนอเมริกาเปลี่ยนไปแค่ไหน

วันนี้เจอภาพ Infographic ที่น่าสนใจภาพนึง เกี่ยวกับวงการหนังสือด้วย ผมเลยขอนำมาแนะนำให้เพื่อนๆ ดูสักนิดนึง ภาพๆ นี้ คือ “ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความนิยมและจำนวนที่เพิ่มขึ้นของคนอเมริกันที่อ่านหนังสือด้วย E-Reader”

เราไปดูภาพนี้พร้อมๆ กันเลยครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับภาพนี้

คำอธิบายเพิ่มเติมในภาพนี้
– E-Reader = อุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น Kindle, Ipad, Nook
– ชาวอเมริกา 1 ใน 6 คนใช้ E-Reader และมีแผนจะซื้อในอีก 6 เดือนข้างหน้า (ปัจจุบันใช้แต่ยังไม่ได้ซื้อ)
– อัตราการใช้ E-Reader ในปี 2011 มีจำนวน 15% ซึ่งมากกว่าปี 2010  ในปี 2010 มีจำนวน 8%
– จำนวนการซื้อในปี 2011 มีจำนวน 15% ซึ่งมากกว่าปี 2010  ในปี 2010 มีจำนวน 12%
– จำนวนการอ่านหนังสือจาก E-Reader มีมากกว่าการอ่านหนังสือที่เป็นตัวเล่ม
– จำนวนการซื้อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) มีมากกว่าการซื้อหนังสือที่เป็นตัวเล่ม
– หนังสือนวนิยายเป็นหนังสือที่คนอ่านเยอะมาก ซึ่งหนังสือในกลุ่มนิยายลึกลับ สอบสวน ปริศนา เป็นหนังสือที่มีคนให้ความสนใจเยอะที่สุด
– หนังสือในกลุ่มสารคดี ผู้อ่านนิยมเรื่องชีวประวัติ ประวัติศาสตร์ ศาสนา มากทื่สุด

ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นของอเมริกานะครับ ไม่ใช่ประเทศไทย
จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับว่า ในเมืองไทยจะมีอัตราการอ่านเป็นอย่างไร
จะให้ดีถ้ามีคนนำภาพการอ่านของไทยมาเปลี่ยนเป็น Infographic ก็คงดีไม่น้อย

ที่มาของภาพนี้ http://www.livescience.com/16535-readers-kindle-popularity-infographic.html

วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่ารับสมัครหัวหน้าห้องสมุด

วันนี้ขอแนะนำข่าวฝากประชาสัมพันธ์งานบรรณารักษ์จากวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่าครับ ตำแหน่งที่เขาต้องการรับสมัคร คือ หัวหน้าห้องสมุดวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่า นั่นเอง ใครสนใจอ่านต่อด้านล่างเลยครับ

รายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับงาน
ชื่อตำแหน่งงาน : หัวหน้าห้องสมุด
วันทำงาน : วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ (ครึ่งวัน)
สถานที่ : วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่า
จำนวน : 1 อัตรา
เงินเดือน : 25,000 บาท (ไม่มีประสบการณ์ทำงานด้านบรรณารักษ์มาก่อน) หรือ 30,000 บาท (กรณีมีประสบการณ์ทำงานด้านบรรณารักษ์)

เห็นรายละเอียดเบื้องต้นแล้วทำให้รู้สึกเชิญชวนขึ้นบ้างหรือปล่าวครับ
เงินเดือนค่อนข้างสูงใช้ได้เลยนะครับ อ๋อ ลืมบอกอีกอย่างมีสวัสดิการเป็น หอพักให้อยู่ด้วยนะ
เอาเป็นว่าใครที่สนใจอ่านต่อกันไปได้เลย

คุณสมบัติของคนที่จะมาสมัครในตำแหน่งนี้
1. จบปริญญาโท สาขาบรรณารักษศาสตร์
2. มีความรู้ด้าน  IT ที่ใช้ในงานห้องสมุด
3. มีทักษะทางภาษาอังกฤษทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน
4. ภาษาที่ใช้ในการทำงานทั้ง ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ

ตำแหน่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง หลักๆ คือ ช่วยพัฒนาระบบงานห้องสมุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ระบบสืบค้นข้อมูล, e-book

หากเพื่อนๆ สนใจวิธีการง่ายๆ คือ ส่งเอกสาร (scan เป็นไฟล์ pdf) ดังนี้
– สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
– สำเนา Transcript และประกาศนียบัตร ทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท
– resume พร้อมประวัติการทำงาน

ส่งมาที่ วรปรีย์ ตั้งสีฟ้า email: warapree@gmail.com Tel: 084-560-9893
(ซึ่งจะดำเนินการส่งเอกสารดังกล่าวให้ทางวิทยาลัยฯ พิจารณาต่อให้)

ข้อมูลการติดต่อกับองค์กร
วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่า (St Theresa International College)
ที่อยู่ 1 หมู่ 6 ถนนรังสิต-นครนายก (คลอง 14) ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก 26120
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2234 5599 แฟกซ์ : 0 2234 9245
เว็บไซต์ : http://stic.ac.th/

เอาเป็นว่าผมก็ขออวยพรให้เพื่อนๆ ที่ไปสมัครได้งานกันนะครับ (จริงๆ ผมเองก็สนใจงานนี้นะ)

คลิปวีดีโอ : Google ก็ดีอยู่แล้ว แต่ห้องสมุดดีกว่านะ

วันนี้บังเอิญไปเจอคลิปวีดีโอตัวนึงมา เห็นชื่อเรื่องก็ตกใจเล็กน้อย “Google is good. Libraries are better.” แต่พอดูๆ ไปก็เข้าใจแล้วว่าห้องสมุดดีกว่ากูเกิลยังไง เลยขอแนะนำคลิปวีดีโอนี้ให้เพื่อนๆ ดู

ไปดูวีดีโอกันก่อนเลยดีกว่าครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ พบคำตอบหรือยังว่าห้องสมุดดีกว่ากูเกิลยังไง

อธิบายง่ายๆ คือ กูเกิลเป็นเพียงแค่หุ่นยนต์ (robot) ในการสืบค้น
มันสามารถสืบค้นข้อมูลได้มากมาย แต่มันไม่สามารถตอบคำถามเราได้ชัดเจน
ส่วนใหญ่จะเน้นไปทาง “คำสำคัญ หรือ Keyword” มากกว่า

แต่ถ้าเราตั้งเป็นประโยคคำถามไปตรงๆ กูเกิลก็คงตอบเราไม่ได้เช่นกัน
กูเกิลเป็นเพียงหุ่นยนต์ ไม่ใช่คน ดังนั้นเรื่องของความรู้สึก กูเกิลก็คงตอบเราไม่ได้ด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างจากในวีดีโอ

“Do you have any books on the moon” คุณมีหนังสือที่เกี่ยวกับดวงจันทร์หรือปล่าว
ถาม google – google แสดงผลการสืบค้นอะไรออกมาก็ไม่รู้เยอะแยะ
ถามห้องสมุด – คุณก็เดินไปที่ชั้นหนังสือในกลุ่มดาราศาสตร์ได้เลย

“Can you help me find out about my grandmother?” คุณช่วยฉันตาหาย่าของฉันได้มั้ย

ถาม google – google แสดงผลการสืบค้นอะไรออกมาก็ไม่รู้เยอะแยะ
ถามห้องสมุด – โอเค งั้นเราไปช่วยกันตามหาท่านกันดีกว่า

เป็นไงบ้างครับ นี่ก็เป็นตัวอย่างเล็ก ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า ระหว่าง google กับ ห้องสมุด ใครเหนือกว่ากัน
เอาเป็นว่าวันนี้ก็ฝากเอาไว้ให้คิดเล่นๆ กันเท่านี้ก่อนนะครับ

เบื้องหลังการถ่ายแบบในห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี

วันนี้หลายๆ คนคงจะยุ่งกันน่าดู เพราะว่าเป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์ (วันจันทร์) นั่นเอง
แถมด้วยช่วงนี้หลายๆ คนคงกำลังให้ความสำคัญและเครียดกับเรื่องน้ำท่วมกันมาก
ผมเองก็ไม่อยากนำเสนอเรื่องที่อ่านแล้วเป็นวิชาการหรือเครียดมากๆ หรอก

ดังนั้นวันนี้ผมขอเน้นรูปแล้วกันครับ

รูปชุดนี้ผมได้มานานแล้วหล่ะครับ ตั้งแต่ก่อนเปิดห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี
วันนี้ระหว่างจัดระเบียบไฟล์ในเครื่องแล้วเจอพอดี เลยขอนำมาลงให้ชมแล้วกันครับ

ก่อนเปิดห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี
ทีมงานของเราก็ต้องการภาพห้องสมุดที่ใช้ในการลงสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ
จึงได้นัดชมรมถ่ายภาพจากเว็บไซต์ GuideUbon มาช่วยในงานนี้

ต้องบอกตรงๆ ครับว่าเราไม่ได้จ้างนายแบบหรือนางแบบเลย
เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนก็พร้อมที่จะเป็นนายแบบและนางแบบกันหมด 555

เมื่อพร้อมแล้วเราก็จัดฉาก จัดสถานที่ โพสท่า และก็ถ่ายกันได้เลย….
ภาพก็ออกมาเป็นแบบนี้แหละครับ

[nggallery id=50]

เป็นยังไงกันบ้าง ภาพที่นำมาลงนี่มาจากกล้องผมนะครับเป็นภาพเบื้องหลังทั้งนั้น
แต่ถ้าใครอยากชมภาพสวยๆ ก็ลองเข้าไปดูได้ที่
– น้าไกด์ http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?f=13&t=31638
– นายเต้าทึง http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?f=13&t=31634
– เฮียเซง http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?f=13&t=31644
– เฮียไก่ http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?t=31650
-ตาเอก http://www.guideubon.com/web/viewtopic.php?f=13&t=31649

Asia Books รับสมัครเจ้าหน้าที่แนะนำหนังสือจำนวนมาก

Asia Books รับสมัครงาน “เจ้าหน้าที่แนะนำหนังสือ” แบบ Walk in Interview จำนวนมาก ในวันที่ 14-15 ตุลาคม และวันที่ 21-22 ตุลาคม ที่สำนักงานใหญ่ (อาคารชำนาญเพ็ญชาติ ชั้น 7 ถนนพระราม 9 (MRT-พระราม 9))

รายละเอียดทั่วไปเกี่ยวกับตำแหน่งงานนี้
ชื่อตำแหน่งงานภาษาไทย : เจ้าหน้าที่แนะนำหนังสือ
ชื่อตำแหน่งงานภาษาอังกฤษ : Product Advisor
วันที่รับสมัคร : 14-15 ตุลาคม 2554 และวันที่ 21-22 ตุลาคม 2554
สถานที่รับสมัคร : สำนักงานใหญ่ (อาคารชำนาญเพ็ญชาติ ชั้น 7 ถนนพระราม 9 (MRT-พระราม 9)
เงินเดือน : 9,500 ถึง 12,000 บาท


สินค้าในร้าน Asia books มีอะไรบ้าง

หนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และภาษาอื่นๆ บ้าง สินค้า Electronic เช่น Notebook, e-reader/Tablet, โทรศัพท์มือถือ e-Dictionary และสินค้าของที่ระลึก/ของขวัญ และอื่นๆ เช่น ปากกา แว่นตา ที่คั่นหนังสือ

รายละเอียดของงานในตำแหน่งนี้
– ขายและแนะนำสินค้าต่างๆ ให้แก่ลูกค้า
– จัดวางสินค้าให้น่าสนใจ
– รับชำระเงิน
– ออกรายงานการขาย
– รับ/ส่ง/ตรวจนับสินค้า
– ดูแลความเรียบภายในร้าน

ตำแหน่งนี้เหมาะสำหรับหนอนหนังสือหรือคนที่รักการอ่านหนังสือนะครับ เพราะหลักๆ เนื้องานของตำแหน่งนี้ คือ การแนะนำหนังสือให้กับผู้ใช้บริการเป็นหลัก (คล้ายๆ งานบริการในห้องสมุด แต่ต่างกันที่งานนี้ต้องแนะนำให้ผู้ใช้ซื้อหนังสือ)

อ่านจนมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมขอแนะนำว่าผู้ที่สนใจจะสมัครในตำแหน่งนี้ ควรจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
– คนรุ่นใหม่สนใจ ebooks & ebiz
– รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ อยากพัฒนาภาษาอังกฤษ
– สดใส ยิ้มเก่ง
– ทำงานเป็นกะ วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ได้
– ปวส. ขึ้นไป
– มีค่าภาษา และค่าประสบการณ์

เป็นยังไงบ้างครับ สนใจกันบ้างหรือปล่าว ถ้าสนใจก็ไปได้ที่สำนักงานใหญ่ในวันที่กล่าวไว้ข้างต้นนะครับ งานสัมภาษณ์แบบ walk in แบบนี้ รู้ผลได้วันเดียวเลยนะครับ

หากอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ แผนกสรรหาว่าจ้าง ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
เลขที่ 65/66, 65/70 อาคารชำนาญเพ็ญชาติ บิสเนสเซ็นเตอร์ ชั้น 7 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 02-715-9000 ต่อ 7111 หรืออีเมล์ : hrm@asiabooks.com

prewedding แบบเล็กๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี

ยังจำเรื่องที่ผมเขียนเมื่อวันก่อนได้มั้ยครับ เรื่อง “prewedding เก๋ๆ ในห้องสมุดซีแอทเทิล – Seattle Public Library” ในเรื่องนั้นเองที่ผมได้เกริ่นว่า “หลังจากที่ได้ชมภาพคู่แต่งงานที่ใช้ห้องสมุดซีแอทเทิล เป็นสถานที่ในการถ่าย prewedding แล้ว มันทำให้ผมรู้สึกว่า การที่ผมจะถ่ายรูป prewedding ในห้องสมุดคงจะดีไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว (มันเข้ากับ concept ของนายห้องสมุดอย่างผมมากๆ)

เอาเป็นว่าที่วันนี้เขียนบล็อก ก็เพราะว่าเรื่องนั้นผมได้ทำสำเร็จแล้วครับ คือการไปถ่ายรูป Prewedding ในห้องสมุด และห้องสมุดที่ผมไปถ่ายก็ไม่ใช่ที่อื่นหรอกครับ ที่นั่นคือ ห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี นั่นเอง

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=naPDMFk2nas[/youtube]

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปห้องสมุดแห่งนี้เพื่อที่จะร่วมพิธีครบรอบ 1 ปีห้องสมุด งานส่งมอบห้องสมุด และการเปิดนิทรรศการเปิดกล่องความคิดฯ ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้พาว่าที่เจ้าสาวของผมไปด้วย ดังนั้นเลยไม่พลาดที่จะขอเก็บภาพคู่ระหว่างผมและว่าที่เจ้าสาวครับ

เอาหล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปชมภาพถ่ายกันเลยดีกว่า…

[nggallery id=49]

ปล. ไม่ได้ใส่ชุดอะไรหรูหราหรอกครับ แค่ได้รูปคู่กันในห้องสมุดแค่นี้ก็พอใจแล้ว

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณช่างภาพนะครับ คุณเปียวแห่งห้องสมุดประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี และคุณผ่องจากโครงการศูนย์ความรู้กินได้

รายละเอียดของงานนิทรรศการเปิดกล่องทางความคิด…เส้นทางสู่ห้องสมุดยุคใหม่
http://www.kindaiproject.net/kmshare-blog/exhibition-open-box-new-library-concept.html

App Review : Book Expo Thailand 2011

ช่วงนี้ต้องขออภัยเพื่อนๆ หลายๆ คนมากๆ ที่หายไปจากบล็อก
หลักๆ ก็ยอมรับแหละครับว่า กำลังเห่อของขวัญวันเกิดประจำปีนี้ ซึ่งนั่นคือ Ipad2 นั่นเอง
หลังจากที่ได้ใช้มาสามสี่วันตอนนี้ก็เริ่มคุ้นแล้วครับ (ตอนนี้ก็เขียนบล็อกด้วย Ipad2 นะ)

เข้าเรื่องเลยดีกว่า หลังจากที่วันนี้นั่งหาโปรแกรมสำหรับ Ipad ก็พบกับ App นี้
App นี้ชื่อว่า BET 2011 (The Book Expo Thailand 2011)
ง่ายๆ ครับ เป็นโปรแกรมที่เกี่ยวกับงานมหกรรมหนังสือแห่งชาตินั่นเอง

ข้อมูลเบื้องต้นแบบง่ายๆ และทำให้ผมต้องโหลดเพราะว่า…
แอพพลิเคชั่นแรกของงานหนังสือเมืองไทย สำหรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 16

สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ iphone ipad ipod touch สามารถโหลดแอพฯ นี้ได้ที่
http://itunes.apple.com/th/app/book-expo-thailand/id467016861?mt=8

เมื่อโหลดแล้ว พอเปิดโปรแกรมขึ้นมาก็จะพบกลับหน้าหลักแบบนี้

ในแอพฯ นี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง (เมนูหลักๆ ก็จะประกอบด้วย)
1. หน้า Home (หน้าหลัก) – เป็นหน้าที่รวบรวมเมนูที่เกี่ยวกับร้านค้าในงาน กิจกรรมในงาน แนะนำหนังสือเด่น โปรโมชั่น และงานเปิดตัวหนังสือ
2. หน้า Info เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ วัน เวลา สถานที่ การเดินทางไปงาน และที่จอดรถในงาน
3. หน้า Social จะเป็นจุดเชื่อมโยงให้เข้าถึงงานมหกรรมหนังสือในสื่อต่างๆ เช่น facebook twitter website
4. หน้า About จะเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ และบริษัทที่จัดทำแอพฯ นี้
5. หน้า Map คือแผนที่ภายในงานในโซนต่างๆ ทั้งหมด

ผมจะขอเลือกแนะนำส่วนที่น่าสนใจของแอพฯ นี้แล้วกันนะครับ

ส่วนแรกนี้ขอแนะนำเมนูนิทรรศการและกิจกรรมครับ ภายในเมนูนี้ก็จะมีการแสดงรายชื่อของนิทรรศการและกิจกรรมทั้งหมดของงานนี้ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของการจัดกิจกรรม เช่น วันที่จัด พื้นที่จัด เวลาที่จัดงานได้ด้วย ลองดูจากภาพด้านล่างนี้เลย

ส่วนหน้าของ Info มีการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดและชัดเจนดี

ส่วนของหน้า Social ก็อย่างที่บอกว่าเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ เช่น twitter, Facebook, Flickr

ส่วนที่ผมชอบอีกอันคือ แผนที่ แบบว่าครอบคลุมทั้งหมดและนำเสนอได้ชัดเจนมากๆ

เอาเป็นว่า ผมก็อยากแนะนำแอพฯ ตัวนี้ให้เพื่อนๆ ไปใช้กันนะครับ สำหรับคนที่จะไปงานสัปดาห์หนังสือ ผมว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว