บทสรุปการพัฒนาห้องสมุดไทยคิดด้วยชุมชนห้องสมุดไทยคิด

วันนี้ได้มาบรรยายที่อุทยานการเรียนรู้ (ห้องสมุดทีเคพาร์ค – TK park) อีกครั้งนับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
เลยขอนำเอกสารการบรรยายในครั้งนี้มาให้เพื่อนๆ ได้ดูและได้อ่านกัน

งานในวันนี้เป็นงานอบรมบรรณารักษ์และผู้ดูแลห้องสมุดไทยคิด ซึ่งจัดโดยอุทยานการเรียนรู้ (ห้องสมุดทีเคพาร์ค – TK park)
การบรรยายของผมในวันนี้หัวข้อ “การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Blog/Facebook/Twitter) ในการสร้างเครือข่าย”
ซึ่งผมจึงได้จัดทำสไลด์เพื่อการบรรยายในครั้งนี้ โดยผมตั้งชื่อว่า “การพัฒนาห้องสมุดไทยคิดด้วยชุมชนห้องสมุดไทยคิด”

เราไปชมสไลด์กันก่อนดีกว่า “การพัฒนาห้องสมุดไทยคิดด้วยชุมชนห้องสมุดไทยคิด”

บทสรุปของสไลด์ “การพัฒนาเครือข่ายห้องสมุดไทยคิดด้วยชุมชนห้องสมุดไทยคิด”

ทำไมผมถึงต้องเล่นคำว่า “เครือข่าย” กับ “ชุมชน” ประเด็นหลักอยู่ที่หลายๆ คนชอบเข้าใจว่าเครือข่ายห้องสมุดก็คือความร่วมมือกันระหว่างห้องสมุดด้วยกันเอง ดังนั้นผมจึงขอใช้คำว่า “ชุมชน” เพราะคำว่า “ชุมชน” มีความหมายที่กว้างกว่า “เครือข่าย” ซึ่ง “ชุมชน” ผมจะรวมถึง “ห้องสมุด คนทำงานห้องสมุด ผู้ใช้บริการห้องสมุด และผู้ใช้บริการห้องสมุดบนโลกออนไลน์”

หลังจากชี้แจงเรื่องนี้เสร็จก็เข้าถูกหัวข้อหลักๆ ของการบรรยาย คือ เครือข่ายห้องสมุดไทย, ชุมชนห้องสมุดไทยคิด

เครือข่ายห้องสมุดไทยคิด – เครือข่ายของกลุ่มคนทำงานในห้องสมุดไทยคิด ซึ่งได้แก่ บรรณารักษ์ เจ้าหน้าที่ห้องสมุด อาสาสมัคร ที่ทำงานภายในห้องสมุดไทยคิด

ชุมชนห้องสมุดไทยคิด – นอกจากเครือข่ายกลุ่มคนที่ทำงานในห้องสมุดไทยคิดแล้ว ชุมชนห้องสมุดไทยคิดยังรวมไปถึงผู้ใช้บริการห้องสมุดไทยคิด ผู้ใช้บริการจากสื่อออนไลน์ คนในพื้นที่ ……….

ผมจุดประเด็นต่อด้วยเรื่องชุมชนห้องสมุดไทยคิดว่ามีความสำคัญเพียงใด ประเด็นอยู่ที่ผู้ใช้บริการ ว่าเรารู้จักผู้ใช้บริการของเราแค่ไหน

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น “รู้หรือปล่าวว่า วัฒนธรรมในการอ่านของเด็กหญิงกับเด็กชายต่างกัน ?”

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจะทำให้เรารู้ว่าผู้ใช้บริการของเรามีความหลากหลายมาก ดังนั้นห้องสมุดก็ต้องมีกิจกรรมที่หลากหลายด้วย เช่น
– บริการหนังสือสำหรับเด็ก
– บริการคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยการเรียนรู้
– กิจกรรมการเล่านิทาน
– กิจกรรมการวาดภาพระบายสี
– อุปกรณ์จำพวกเครื่องเล่น-ของเล่นสำหรับเด็ก

นอกจากห้องสมุดไทยคิดจะเป็นสถานที่ที่ใช้อ่านหนังสือสำหรับเด็กหรือจัดกิจกรรมแล้ว
เรายังสามารถใช้เป็นพื้นที่ในการแสดงความสามารถและจินตนาการ
เช่น “นำภาพวาด หรือ ภาพระบายสีของเด็กๆ มาตกแต่งฝนังรอบๆ ห้องสมุดไทยคิด”

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการในห้องสมุดไทยคิดไม่ใช่แค่เด็กเพียงอย่างเดียว
แต่เราหมายรวมถึงครอบครัว ผู้ปกครองของเด็กๆ ด้วย
เพราะครอบครัวสามารถสร้างนิสัยการรักการอ่านให้เด็กได้

กรณีตัวอย่าง “ครอบครัวของหนูน้อยยอดนักเล่านิทาน” ซึ่งใช้เวลาว่างกับห้องสมุดไทยคิด

นอกจากนี้การปล่อยให้เด็กๆ มาจัดกิจกรรมกันเองในห้องสมุดก็จะทำให้เราเห็นความสามารถและความต้องการของเด็กๆ เหล่านั้นได้ด้วย

การพัฒนาเครือข่ายและชุมชนห้องสมุด หัวใจของการพัฒนาอยู่ที่ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยอาศัยความมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการต่างๆ

การที่เราจะเข้าใจผู้ใช้บริการได้เราจะต้องดูผู้ใช้บริการที่อยู่ในห้องสมุดและฟังคำแนะนำจากผู้ใช้ออนไลน์บ้าง

เครื่องมือออนไลน์ที่สามารถนำมาใช้พัฒนาชุมชนห้องสมุดไทยคิดได้มีหลายเครื่องมือ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือที่ฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย เช่น อีเมล์ MSN blog Facebook twitter youtube flickr และ slideshare

หลังจากนั้นผมก็ยกกรณีตัวอย่างการใช้เครื่องมือออนไลน์แบบหลักๆ 3 เครื่องมือ คือ Blog Facebook Twitter

ก็ที่จะจบด้วยเรื่องสุดท้ายคือคำแนะนำในการใช้เครื่องมือสื่อออนไลน์ ซึ่งผมได้ให้ไว้ 6 ข้อ ดังนี้
1. อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้บล็อกร้าง facebook ร้าง Twitter ร้าง
2. การให้บริการผ่านสื่อออนไลน์ทำได้รวดเร็ว
3. ใส่ใจกับความคิดเห็นหรือคำถามของผู้ใช้บริการ
4. ไม่นำเรื่องแย่ๆ ของผู้ใช้บริการมาลง
5. พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับผู้ใช้บริการ
6. จัดกิจกรรมทุกครั้งควรนำมาลงให้ผู้ใช้บริการเข้ามาชม

เอาเป็นว่าผมก็จบการบรรยายแต่เพียงเท่านี้นะครับ สำหรับคนที่อ่านบล็อกอย่างเดียวไม่ได้มาในงานนี้
หากสงสัยเรื่องไหนก็ถามเข้ามาได้นะครับ ทิ้งคำถามไว้ด้านล่างช่องคอมเม้นต์ได้เลย

Infographic : ห้องสมุดประชาชนในอเมริกาอยู่ในภาวะเสี่ยง

นานๆ ทีผมจะเจอ Infographic ที่เกี่ยวกับวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์
เลยอยากเอามาให้เพื่อนๆ ดูและสังเกตการทำ Infographic แบบดีๆ

Infographic วันนี้ผมนำมาจากงาน National Library Week (สัปดาห์ห้องสมุดแห่งชาติ) ซึ่งจะจัดทุกปีในระหว่างวันที่ 10 – 16 เมษายน ในอเมริกาเขาจัดกันอย่างยิ่งใหญ่มากๆ ส่วนไทยเราก็อย่างที่รู้ๆ กันในช่วงนั้นเป็นวันสงกรานต์ เราหยุดครับ

อ๋อ เข้าเรื่องดีกว่า Infographic นี้นำเสนอข้อมูลห้องสมุดประชาชนในประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งหัวข้อใน Infographic คือ U.S. Public Libraries At Risk (แอบสะดุ้ง)
ประมาณว่าห้องสมุดประชาชนในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในภาวะที่เสี่ยง (เสี่ยงถูกปิดนะครับ)

เอาเป็นว่าในไปชม Infographic กันก่อน


เป็นยังไงกันบ้างครับ สวยงาม ชัดเจน และมีข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย เช่น

ผู้ใช้บริการห้องสมุดประชาชนในสหรัฐอเมริกามีจำนวน 169 ล้านคน (59% ของประชากรในประเทศ)
(โห แบบว่าคนสหรัฐอเมริกาเข้าห้องสมุดประชาชนมากขนาดนั้นเลย แล้วไทยหล่ะ)

เรื่องที่คนให้ความสนใจในห้องสมุด (ผลสำรวจเรื่องยอดฮิตในห้องสมุด ปี 2010)
อันดับ 1 – เรื่องการทำอาหาร 67%
อันดับ 2 – เรื่องสุขภาพ 59%
อันดับ 3 – เรื่องเหตุการณ์ปัจจุบันรวมไปถึงเรื่องการเมือง 41%
อันดับ 4 – เรื่องธุรกิจและอาชีพ 37%
อันดับ 5 – เรื่องการท่องเที่ยว 26%
อันดับ 6 – เรื่องการพัฒนาตนเอง 22%

เรื่องของการตัดงบประมาณในห้องสมุดมีมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว
และในปี 2009 ถูกตัดไป 40%? ปี 2010 ถูกตัดไป 54.4% และในปีนี้ ถูกตัดไป 62%

เอาแล้วไงครับ เริ่มน่ากลัวแล้วว่าห้องสมุดจะถูกปิดอีกหลายแห่ง
(อ๋อ งบประมาณสำหรับห้องสมุดของเขาแม้ว่าจะโดนตัดไปเยอะแต่ผมเชื่อว่าเงินในการบริหารห้องสมุดของเขาก็ยังคงมากกว่าเงินบริหารห้องสมุดประชาชนในเมืองไทยมากนัก)

นอกจากนี้ทุกคน (ผู้ใช้บริการ) เกือบทุกวัย ทุกอาชีพ เห็นด้วย และยินดีที่มีห้องสมุดประชาชนใช้งาน
นับว่าห้องสมุดประชาชนเป็นที่ต้องการของผู้ใช้บริการเกือบทุกคน (ดูจาก % ได้เลย)

และท้ายที่สุดแล้ว ใน Infographic ก็ทิ้งท้ายไว้ว่า
“กรุณาช่วยห้องสมุดประชาชนในท้องที่ของคุณด้วย”

เอาเป็นว่าห้องสมุดบางแห่งที่ถูกสั่งปิดเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้บางแห่งยังอยู่
เพราะความร่วมมือของคนในพื้นที่ระดมทุนช่วยเหลือห้องสมุด
ก็มีเช่นกัน

เอาเป็นว่า Infographic นี้ ผมว่าเป็นภาพที่นำเสนอข้อมูลได้อย่างน่าสนใจมากๆ
อ่านแล้วเข้าใจง่าย แถมดูกี่ทีก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย (ถ้าเทียบกับการนำเสนอข้อมูลแบบ paper ผมว่านี้แหละเยี่ยม)

เอาเป็นว่าก็ขอฝากไว้เท่านี้แล้วกันครับ ผมเองก็ตั้งตาคอยดู infographic ของเมืองไทยอยู่นะ

ที่มาของภาพดีๆ นี้ จาก http://www.archives.com/blog/industry-news/national-library-week-2011.html

แผ่นดินไหวทำให้ห้องสมุดเสียหายแค่ไหน (ชมภาพจากประเทศญี่ปุ่น)

เวลาก็ผ่านมาเดือนกว่าๆ แล้วกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและสึนามิในญี่ปุ่น
จนถึงวันนี้แล้วก็ยังคงมี after shock เรื่อยๆ และยังคงมีข่าวแผ่นดินไหวอยู่นะครับ
หลายๆ คนก็คงอยากรู้ว่าห้องสมุดในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นยังไงในช่วงแผ่นดินไหว วันนี้ผมจึงขอรวบรวมภาพมาให้ดูกัน

แผ่นดินไหวแน่นอนครับว่า “หนังสือคงหล่นออกมาจากชั้นกันอย่างเละเทะ”
ซึ่งบ้างที่ชั้นหนังสือก็ล้มลงมาเลย ซึ่งเกิดความเสียหายมากมาย บางที่ฝ้าถล่มเลยครับ
เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกันก่อนดีกว่านะครับ แล้วจะรู้ว่าแผ่นดินไหวทำให้ห้องสมุดเสียหายแค่ไหน

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นภาพเพียงบางส่วนเท่านั้นนะครับ ที่มาของรูปมาจาก twitter ของเพื่อนๆ บรรณารักษ์ที่อยู่ญี่ปุ่นนะครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ จากญี่ปุ่น Thx @spwn11 @popongap @jing_ke @halnaaaaa313 @Sequoia0223 @1daymashoue @tsukubauniv_lib

ภาพห้องสมุดของญี่ปุ่นที่ผมชอบดูมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย Tsukuba ครับ
ตามดูได้จาก http://twitpic.com/photos/tsukubauniv_lib

ล่าสุดที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย Tsukuba มีวิธีการแก้ไขไม่ให้หนังสือหล่นจากชั้น
โดยนำเชือกมากั้นไว้กึ่งกลางหนังสือ หรือสื่อประเภทซีดีเพื่อไม่ให้หนังสือหรือซีดีหล่นเวลาเกิดแผ่นดินไหว (ตามภาพด้านล่าง)

เรื่องแบบนี้ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกนะครับ เพราะมันมีแต่ความสูญเสียและความเสียหายไม่ว่าจะเป็นเงิน รวมไปถึงจิตใจ

สำหรับเมืองไทยในภาคใต้ที่ประสบกับภัยพิบัติดินโคลนถล่มและน้ำท่วม
ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว สู้ๆ นะครับ

ปล.ก่อนจบผมต้องขอบอกก่อนนะครับว่าในช่วงที่แผ่นดินไหวห้องสมุดจะมีหนังสือหล่นออกจากชั้นแบบในรูป แต่ปัจจุบันบรรณารักษ์ก็จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบแล้วนะครับ สังเกตได้จากห้องสมุดของมหาวิทยาลัย tsukuba ครับ

อัพเดทโปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัติ Koha 3.2.6 และข่าว Koha 3.4

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ชุมชนคนใช้ Koha ได้ประกาศการอัพเดท Koha อีกครั้ง
หลังจากที่ปีที่แล้ว koha ประกาศอัพเดท 3.2.0 ผ่านไป
ในเดือนกุมภาพันธ์ก็ประกาศอัพเดทเป็น 3.2.5 และในเดือนมีนาคมก็อัพเดทเป็น 3.2.6

ในเวอร์ชั่น 3.2.6 มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง เท่าที่ผมอ่านหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องการแก้ bug ใน koha 3.2.0 และ 3.2.5 (ที่ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2011)
ตอนนี้ Koha ถูกแปลไปแล้ว 14 ภาษา ซึ่งก็มีภาษาใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้าร่วม เร็วๆ นี้

เอาเป็นว่ารายละเอียดอื่นๆ เพื่อนๆ สามารถอ่านได้จากหน้าหลักของเวอร์ชั่น 3.2.6 นะครับ
http://koha-community.org/koha-3-2-6/

โปรแกรม Koha 3.2.6 สามารถดาวน์โหลดได้ที่
http://download.koha-community.org/koha-3.02.06.tar.gz

และเร็วๆ นี้ (วันที่ 22 เมษายน 2011) มีข่าวว่า Koha จะประกาศเปิดตัว เวอร์ชั่น 3.4 ซึ่งผมว่าต้องรอดูกันครับ
ติดตามข่าว Koha 3.4 ได้ที่ http://koha-community.org/koha-3-4-0-release-schedule-april-coming-fast/

พาเที่ยวห้องสมุด SCG ? XP Library

พาเที่ยวห้องสมุดในวันนี้ผมขอนำเสนอเรื่องราวของการไปเยี่ยมชมห้องสมุดของ SCG (XP Library)
จริงๆ แล้วผมไปเยี่ยมชมที่นี่มาเมื่อประมาณปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะว่าง เลยเอามาเล่าวันนี้
เอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ ห้องสมุดแห่งนี้มีความพิเศษในหลายๆ อย่างยังไงบ้าง

ภายใน SCG XP ส่วนที่เป็นห้องสมุด (XP Library) จะอยู่ชั้น 2 และส่วนพื้นที่นิตยสาร (XP Magazine) จะอยู่ที่ชั้น 1


ห้องสมุด XP Library นี้เป็นห้องสมุดเฉพาะด้านการออกแบบและตกแต่งภายในที่ดีมาก
บรรยากาศโดยทั่วๆ ไปภายในห้องสมุดเหมาะแก่การนั่งอ่านหนังสือมากๆ

การจัดหมวดหมู่หนังสือของที่นี่ไม่ได้ใช้การจัดหมวดหมู่แบบดิวอี้หรือแอลซีหรอกนะครับ
แต่ที่นี่คิดการจัดหมวดหมู่หนังสือตามแบบฉบับของตัวเอง (เพราะเป็นห้องสมุดเฉพาะ)

ซึ่งแยกหนังสือหลักๆ ออกเป็น
– สถาปัตยกรรม
– ออกแบบและตกแต่ง
– วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
– การจัดสวน
– การออกแบบรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่นห้องสำหรับคุยงานเป็นกลุ่ม (สำหรับปรึกษางาน)
และยังมีบริการถ่ายเอกสารและสแกนหนังสือด้วยนะครับ

ในส่วนที่เป็น XP Magazine มีระบบสืบค้นที่ค่อนข้างทันสมัยซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท HP ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบหน้าจอสัมผัสและโปรแกรมที่พัฒนามาเพื่อการนำเสนอข้อมูลนิตยสาร (ต้องลองไปเล่นดูนะ สุดยอดจริงๆ)

ระบบสืบค้นหนังสือบนเว็บไซต์ก็ทันสมัยมากๆ
http://www.scgexperience.co.th/th/service/library.aspx

อ๋อ แต่ต้องบอกก่อนนะว่า ห้องสมุดแห่งนี้เข้าได้เฉพาะสมาชิก (SCG XP) เท่านั้นนะครับ
แต่สำหรับบุคคลทั่วไปก็สามารถทดลองเข้าฟรีได้ 1 ครั้ง (คล้าย TCDC)

การเป็นสมาชิกของที่นี่ไม่ใช่แค่สมาชิกห้องสมุดนะครับ แต่ต้องเป็นสมาชิกของ SCG XP เลยซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย
โดยสมาชิกของที่นี่แบ่งออกเป็น 3 ประเภท นั่นคือ
1. Student Member (200 บาทต่อ 1 ปี)
2. Customer Member (600 บาทต่อ 2 ปี)
3. Professional Member (1000 บาทต่อ 2 ปี)

สิทธิประโยชน์ที่เด่นๆ สำหรับสมาชิก
– ใช้บริการ มุม XP Magazine ได้ฟรี (นิตยสารดีๆ จากทั่วโลก เรื่องการออกแบบและตกแต่งกว่า 250 ชื่อเรื่อง)
– ใช้บริการ XP library ได้ (หนังสือด้านการออกแบบภายใน ตกแต่งสวน วิศวกรรมโยธา การสร้างบ้าน)
– Internet Wifi สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายได้วันละ 2 ชั่วโมง
– นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนลดในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มภายใน XP Cafe ได้อีก
– ยิ่งไปกว่านั้นใช้เป็นบัตรลดในการซื้อหนังสือที่ Asia book ได้ด้วย

เอาเป็นว่าสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็เข้าไปดูได้ที่
http://www.scgexperience.co.th นะครับ
เว็บไซต์ของส่วนงานห้องสมุด XP Libraryhttp://www.scgexperience.co.th/th/service/library.aspx

เป็นยังไงกันบ้างครับกับห้องสมุดแห่งนี้ ผมเองไม่ได้ไปมาปีกว่าๆ แล้ว แต่เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายๆ ส่วนที่เปลี่ยนไป
และผมเชื่อว่าต้องเปลี่ยนไปในแนวทางที่ดีขึ้นแน่ๆ ดังนั้นเพื่อนๆ คนไหนว่างก็แนะนำให้ไปชมนะครับ

ก่อนจากกันในวันนี้ก็ขอทิ้งท้ายด้วยภาพบรรยากาศภายใน SCG XP และ XP library นะครับ
สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปก่อนไว้จะพาไปเที่ยวห้องสมุดที่อื่นๆ บ้างนะครับ อิอิ

ชมภาพบรรยากาศภายใน SCG XP และ XP library

[nggallery id=37]

นิตยสารบรรณารักษ์ออนไลน์ ปี 4 เล่มที่ 1

นิตยสารบรรณารักษ์ออนไลน์ ปี 4 เล่มที่ 1
ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2554

นิตยสารบรรณารักษ์ออนไลน์ฉบับนี้ออกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้วนะครับ
แต่ในช่วงนั้นผมหยุดเขียนบล็อกก็เลยไม่ได้เอามาลง ตอนนี้เริ่มกลับมาเขียนใหม่จึงขอลงย้อนหลังให้
เอาเป็นว่าเล่มนี้ก็เป็นเล่มแรกของปีที่ 4 นับว่าอยู่คู่กับบล็อกผมมานานจริงๆ

เรื่องเด่นของเล่มนี้ก็อยู่ที่บทสัมภาษณ์ของห้องสมุดมีชีวิตอันดับหนึ่งของไทย
นั่นก็คือ ห้องสมุดอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ นั่นเองครับ

เอาเป็นว่าเกริ่นมาเยอะแล้ว เราไปดูเนื้อหาในฉบับนี้กันดีกว่า

เรื่องจากปก : บทสัมภาษณ์บรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนอำเภอขุขันธ์

บทสัมภาษณ์ : คุณสมพงษ์ เจริญศิริ ผู้พัฒนาโปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ULibM

บทความ : หนังสืออิเลคทรอนิกส์ด้านการเกษตรเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

บทความ : แปลงร่างตู้บัตรรายการเป็นตู้รับจดหมายด้วยเทคนิคเดคูพาจ (D?coupage)

บทความ : อาสาทำดีเพื่อพ่อ

บทความ : เปิดบ้านห้องสมุดหนังสือหายากของจุฬา

บทความ : ห้องสมุดศิลปะ ( Art Library)

พาเที่ยว : ห้องสมุดประชาชน Deichmanske Bibliotek

แนะนำฐานข้อมูล : CAB Direct

เรื่องแปล : หนังสือเล่มโตจริง ๆ

เรื่องแปล : ห้องสมุดดิจิทัลจอห์น เอฟ. เคนเนดี้

เป็นยังไงกันบ้างครับกับสาระที่มาเต็มๆ แบบนี้ ยังไงก็ลองอ่านดูกันนะครับ
สำหรับฉบับนี้ก็จบไว้เท่านี้ดีกว่า ไว้ติดตามดูฉบับหน้าอีกทีนะ

เว็บไซต์บรรณารักษ์ออนไลน์ : http://www.librarianmagazine.com

ไอเดียจากร้านหนังสือที่ห้องสมุดน่าทำบ้าง : หนังสือละครทีวี

วันนี้ผมเข้าไปที่ร้านหนังสือบีทูเอสแห่งหนึ่งใกล้ๆ บ้าน เพื่อหาหนังสือที่น่าสนใจมาแนะนำ
แต่เดินไปเดินมาในร้านสักแป๊บก็เจอมุมนึงที่น่าสนใจมาก เลยอยากนำมาเล่าให้ชาวห้องสมุดได้อ่าน

มุมที่ผมเห็นว่าน่าสนใจก็คือ “มุมหนังสือขายดี ละครออนแอร์”
ที่ร้านนี้จะมีชั้นหนังสือที่รวบรวมหนังสือบทละครที่กำลังฉายอยู่ในโทรทัศน์ช่องต่างๆ

ดูจากรูปได้เลยครับ

สังเกตจากในรูปนะครับ จะมีหนังสือละครกำลังฉาย เช่น ดอกส้มสีทอง, เคหาสน์สีแดง, ตลาดอารมณ์ ฯลฯ
นอกจากนี้ด้านหลังของชั้นหนังสือนี้จะมีหนังสือละครที่เคยฉายไปแล้ววางแสดงไว้ด้วย
เช่น รหัสทรชน, ธาราหิมาลัย, ดวงใจอัคนี, ปฐพีเล่ห์รัก, วายุภัคมนตรา ฯลฯ

ในร้านหนังสือเองก็ยังเรียกความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาชมหนังสือเหล่านี้ได้
ผมก็เลยคิดไปถึงห้องสมุดว่า หนังสือในห้องสมุดเองเราก็มีวรรณกรรมมากมาย
เราน่าจะหาวิธีนำเสนอหนังสือในรูปแบบนี้บ้าง
เอาเป็นว่าก็ลองคิดๆ เล่นกันดูนะ

สำหรับ หนังสือในกลุ่มละคร ผมว่าผู้ใช้บริการของห้องสมุดจำนวนหนึ่งก็อยากจะอ่านเช่นกัน
เพราะว่าอยากรู้ว่าหนังสือที่อ่าน กับละครที่ดูมันเหมือนหรือต่างกันแค่ไหน
แต่จากที่เคยๆ คุยกับผู้ใช้บริการหลายๆ คน ส่วนหนึ่งก็บอกว่า “หนังสือให้รายละเอียดที่ชัดกว่าในทีวี”

ถ้าห้องสมุดมีมุมนี้บ้าง ผมว่านะ “ผู้ใช้บริการ” ก็คงประทับใจกับห้องสมุดบ้างแหละ
และถ้าจะให้ดีนะอย่ามีแค่ 1 copy ห้องสมุดอาจจะต้องหามาไว้ 2-3 copy ได้เลย
เพราะผมเชื่อว่าคนต้องยืมไปอ่านมากๆ แน่ๆ แล้วก็อย่าลืมเหลือติดไว้ที่ชั้นสักเล่มบ้างหล่ะ

เอางี้ทำแบบให้น่าสนใจเพิ่มโดยการบอกด้วยว่า
“หนังสือเล่มนี้เป็นละครจากช่องไหนเวลาที่ฉายเมื่อไหร่”
ผู้ใช้จะได้รู้รายละเอียดและติดตามชมได้ด้วย

เอาเป็นว่าไอเดียนี้ก็ขอฝากให้คิดและลองนำไปทำดูกันบ้างหล่ะ
รอบๆ ตัวเรามีไอเดียในการพัฒนางานห้องสมุดมากมาย ขอแค่สังเกต คิด วางแผน และทำมัน

ปล. สุดท้ายนี้ขอบคุณ บีทูเอส นะที่ทำให้ผมพบกับไอเดียนี้

สวัสดีปีใหม่ไทยและทักทายวันสงกรานต์

วันนี้วันที่ 13 เมษายน 2554 ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่า “สวัสดีปีใหม่ไทย” ครับเพื่อนๆ และผู้เข้าชมบล็อก
อย่างที่รู้กันวันนี้เป็นวันปีใหม่ไทยและวันสงกรานต์ หลายๆ คนคงไม่อยากอ่านเรื่องหนักๆ
ผมเองก็ไม่อยากเขียนอะไรเป็นวิชาการมากมายหรอก เลยแวะมาทักทายและเอาเพลงสงกรานต์มาฝาก


ขออวยพรสักหน่อยนะ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทยและวันสงกรานต์ผมเองก็ขออวยพรให้เพื่อน :-
– พบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้น
– คิดสิ่งใดที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ก็ขอให้ได้ตามประสงค์
– สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ทั้งทางกายและทางใจ

วันนี้ก็ขอเขียนแค่นี้แล้วกันนะครับ ไม่อยากกวนเวลาเพื่อนๆ นาน เอาเป็นว่าขอฝากเพลงอีกสักเพลงแล้วกัน

ชื่อเพลง : รำวงเริงสงกรานต์
นักร้อง : สุนทราภรณ์

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=OUqJqE2dOJc[/youtube]

เนื้อเพลงรำวงเริงสงกรานต์

(สร้อย-หมู่) ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง
สงกรานต์เร้าร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะโทนป๊ะโท่นโทน
ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
(ช.) วันตรุษหยุดการหยุดงาน สังคมชาวบ้านสิคร้านครึกครื้น
เริงสงกรานต์กัน พอขวัญชื้น ๆ
ฉลองวันคืน จนครื้นเครงคลาน
ดอกเอ๋ยมะเขือ แม้ตัวเนื้อมันเต้น
เชิญน้องมาเล่นสงกรานต์
(หมู่ ช.) เอ้าเชิญน้องขึ้นวิมาน รับฟ้าสงกรานต์กันกะพี่ปะไร
เอ้าเชิญน้องขึ้นวิมาน รับฟ้าสงกรานต์กันกะพี่ปะไร
(สร้อย-หมู่)
(ญ.) ฟังพี่ที่ชวนที่เชิญ ขวัญเอยมันเปิ่นสะเทิ้นท้อถอย
ชีวิตชีวาน้องหนาน้อย ๆ
รำแล้วจะพลอยลอยคว้างกลางลาน
ดอกเอ๋ยฟักทอง รักจะร้องรำเต้น
ประสาเราเล่นสงกรานต์
(ญ.) เอ้ามาซิถ้าต้องการ สำเริงสำราญกันเป็นคู่ ๆ ไป
(หมู่ ญ.) เอ้ามาซิถ้าต้องการ สำเริงสำราญกันเป็นคู่ ๆ ไป
(สร้อย-หมู่)
(ช.) รำคู่อยู่เคียงใกล้กัน สายทรวงมันสั่นมันซึ้งเสียว ๆ
งามแท้รำไทยเรื่อยไหลลดเลี้ยว
เราร้อยกรเกลียว เพรียวพลิ้วปลิวลม
ดอกเอ๋ยชะบา เหมือนนางฟ้ามาใกล้
มาเย้ายวนให้หลงชม
อ๋อนางฟ้าน่าชื่นชม สวยจริงสวยจมงามตรงห่มสไบ
(หมู่ ช.) อ๋อนางฟ้าน่าชื่นชม สวยจริงสวยจมงามตรงห่มสไบ
(สร้อย-หมู่)
(ญ.) รำคู่อยู่เคียงพี่ชาย หัวใจมันส่ายโยนซ้ายย้ายขวา
เพลินคล้ายคนธรรพ์ เคล้าขวัญคล้อยฟ้า
ไปค้างไปคา สุขาวดี
สวรรค์สงกรานต์แสนสนานสนุก
รำแล้วเป็นสุขทุกที
(ญ.) ซิเออถึงว่าน่ะสิ สงกรานต์ทั้งทีรำกะพี่เรื่อยไป
(หมู่ ญ.) ซิเออถึงว่าน่ะสิ สงกรานต์ทั้งทีรำกะพี่เรื่อยไป
(สร้อย-หมู่)
(สร้อย-หมู่)
ขอบคุณที่มาของเนื้อเพลงจาก http://lyrics.ohozaa.com

ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์ (Librarians’ Licensure)

คำถามในเรื่องวิชาชีพที่หลายๆ คนอยากรู้เรื่องหนึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่อง “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์”
ซึ่งผมเองก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่า ทำไมวิชาชีพของเราจึงไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เรื่องราวที่ผมจะเขียนต่อไปนี้อาจจะอ้างอิงจากประเทศฟิลิปปินส์นะครับ แต่ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจเหมือนกัน


เรื่องของเรื่องผมตามอ่านบล็อก filipinolibrarian มาสักระยะหนึ่งแล้ว
และพบบทความชื่อเรื่องว่า “Librarians’ Licensure Examination 2010: Results

ซึ่งเมื่อเข้าไปอ่านแล้ว ผมก็พบข้อมูลว่า
“ผลการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์ในปี 2010 มีคนผ่าน 27% (191 จาก 699 คน) ซึ่งน้อยกว่าปี 2009 ซึ่งมี 30% ที่ผ่าน”

เพียงแค่ประโยคนี้ประโยคเดียวมันก็ทำให้ผมสนใจเรื่องนี้มากขึ้นแล้ว “เรื่องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์”
ในประเทศฟิลิปปินส์บรรณารักษ์ที่จะประกอบวิชาชีพได้ต้องมีใบอนุญาตเท่านั้นนะครับ
คนที่ไม่มีใบอนุญาตแล้วทำงานบรรณารักษ์ถือว่าผิดกฎหมายด้วย

ซึ่งแตกต่างจากประเทศของเรานะครับ “เอาใครก็ได้มาเป็นบรรณารักษ์”
เมื่อได้ “ใครก็ได้” มาทำงาน “มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง” ผมว่าเพื่อนๆ หลายคนคงรู้นะครับ

แต่ก็มีหลายๆ คนคงคิดต่อไปอีกว่า แล้วในประเทศฟิลิปปินส์เขาไม่ถกเถียงกันเรื่องนี้บ้างหรอ
จริงๆ แล้วมีการถกเถียงเรื่องนี้กันมากๆ เลย ลองอ่านได้จาก “Unlicensed Librarians and R.A. 9246

เอกสาร R.A. 9246 คือ กฎหมายหรือบทบัญญัติที่เกี่ยวกับวิชาชีพบรรณารักษ์ในฟิลิปปินส์ ออกมาตั้งแต่ปี 2004
(ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.congress.gov.ph/download/ra_12/RA09246.pdf)

ตัวอย่างบทบัญญัติที่น่าสนใจ

SECTION 31. Employment of Librarians. ? Only qualified and licensed librarians shall be employed as librarians in all government libraries. Local government units shall be given a period of three (3) years from the approval of this Act to comply with this provision.

SECTION 32. Penal Provisions. ? Any person who practices or offers to practice any function of a librarian as provided for under Section 5 of this Act who is not registered and has not been issued by the Commission a Certificate of Registration and Professional Identification Card, or a temporary license/permit or who violates any of the provisions of this Act, its Implementing Rules and Regulations, shall, upon conviction, be penalized by a fine of not less than Thirty thousand pesos (P30,000.00) nor more than One hundred thousand pesos (P100,000.00), or imprisonment of not less than one (1) month nor more than three (3) years at the discretion of the court.

นอกจากนี้สำหรับชาวต่างชาติที่จะเข้าไปเป็นบรรณารักษ์ในฟิลิปปินส์ ในบทบัญญัติก็กล่าวไว้ว่าต้องสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเช่นกัน เป็นไงกันบ้างครับแรงไปหรือปล่าว แต่เหตุผลหลักๆ ที่เขาปฏิบัติกันมาเช่นนี้เพราะเขาต้องการรักษามาตรฐานความเป็นวิชาชีพบรรณารักษ์ นั่นเอง

สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนบรรณารักษ์แต่อยากเป็นบรรณารักษ์ที่ฟิลิปปินส์ก็เปิดโอกาสนะ แต่ต้องไปเรียนหรือเข้าคอร์สตามมหาวิทยาลัยที่รับรองมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งจะมีประกาศออกมาทุกปี ดูได้จากตัวอย่างนะครับ “The Best and the Worst LIS Schools, 2007-2009.”

Librarian Licensure Examination 2009

ขอสรุปแบบคร่าวๆ เลยแล้วกันครับว่า “หากบรรณารักษ์ไทยอยากมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์” บ้างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้
– สภาวิชาชีพบรรณารักษ์
– สภาทนายความ
– วุฒิสภา
– มหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรบรรณารักษ์
– ผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพ
ฯลฯ

ซึ่งถามว่า “ยากมั้ย”? คำตอบ “ยากครับ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
เอาเป็นว่าก็ขอเอาใจช่วยลุ้นก็แล้วกันนะครับ (ใจจริงอยากให้มีนะ วงการห้องสมุดจะได้พัฒนากันมากกว่านี้)

คู่มือสำหรับเลือกใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติในต่างประเทศ

ปัญหาใหญ่ของห้องสมุดหลายๆ แห่ง คือ ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติของเจ้าไหนดี
นิตยสาร Computers in libraries จึงรวบรวม vendor และ product ไว้ให้ห้องสมุดต่างๆ ศึกษา

ก่อนอื่นก็แนะนำให้ดาวน์โหลดมาดูกันก่อนนะครับ
ดาวน์โหลดตัวเล่มได้ที่ http://www.infotoday.com/cilmag/CILMag_ILSGuide.pdf

เนื้อหาภายในเล่มก็อย่างที่เกริ่นไว้นั่นแหละครับ ประกอบไปด้วย
– ชื่อของ vendor (ตัวแทนจำหน่าย)
– โปรแกรมที่ vendor ต่างๆ นำเสนอ

ซึ่งโปรแกรมที่ vendor บางตัวผมก็อดสงสัยไม่ได้ เช่น KOHA
ทั้งๆ ที่เป็น Opensource นะครับ แต่ก็อยู่ใน LIST ของการนำเสนอ
แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับ ว่านำเสนอ KOHA แต่ในแง่การพัฒนาและการดูแลรักษา

นอกจากนี้รายละเอียดของแต่ละ vendor ที่ให้จะบอกรายละเอียด เช่น
– ปีที่ออก (ซอฟท์แวร์ออกมาปีไหน)
– จำนวนห้องสมุดที่นำไปใช้
– กลุ่มเป้าหมาย (ห้องสมุดประชาชน,โรงเรียน,มหาวิทยาลัย,เฉพาะ,ราชการ)
– ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์สำหรับติดต่อ
– เว็บไซต์ของบริษัท

ชื่อ ILS แปลกมากมายที่ผมก็เพิ่งจะเคยได้ยิน เช่น AGent VERSO, CyberTools for Libraries, Amlib, KLAS, LibraryWorld ฯลฯ อีกมากมายเลย

จริงๆ แล้วผมก็อยากรวบรวมของเมืองไทยแล้วทำเป็นรูปเล่มแบบนี้บ้างนะ
อย่างน้อยผมก็จะได้รู้จักระบบห้องสมุดต่างๆ หรือระบบห้องสมุดใหม่ในเมืองไทย

เอางี้ดีกว่าผมอยากให้เพื่อนๆ มีส่วนร่วม เพื่อนๆ ลองส่งชื่อ ILS ที่คิดว่าแปลกๆ หรือ ใหม่ๆ ในเมืองไทยให้ผมหน่อย (Comment ไว้ด้านล่าง) แล้วว่างๆ ผมจะศึกษาและนำมา review ให้เพื่อนๆ อ่านกัน