กิจกรรมแจกหนังสือ : เว็บไซต์ห้องสมุดควรมีอะไรเพิ่มเติม

เรื่องของเว็บไซต์ห้องสมุดเป็นเรื่องที่ผมถูกถามบ่อยมากๆ ว่า “เว็บห้องสมุดควรจะมีอะไรนอกเหนือจากความสามารถในการสืบค้นหนังสือของห้องสมุด” ซึ่งผมเองเวลาไปบรรยายที่ไหนก็ตาม ผมก็จะยกเรื่องนี้มาพูดเช่นกัน …

ล่าสุดผมเลยจัดกิจกรรมนึงขึ้นมา คือ “กิจกรรมที่ให้เพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ช่วยกันเสนอความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ห้องสมุด” โดยคำถามมีอยู่ว่า “ท่านคิดว่าเว็บไซต์ห้องสมุดควรมีอะไรอีก นอกจากการสืบค้นหนังสือในห้องสมุด” และใครที่ตอบได้ถูกใจผมมากที่สุด ผมจะมอบหนังสือให้เป็นรางวัล

เอาหล่ะครับ เรามาดูคำตอบของเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์กันดีกว่า

คำตอบจากเพื่อนๆ ในกลุ่ม Librarian in Thailand

สุวิมล แสงม่วง – มีการแนะนำหนังสือที่น่าอ่าน คะ
Itj Pally Punyoyai – มีแฟนเพจห้องสมุดดีมั๊ยค่ะ ประมาณ แฟนพันธ์แท้ห้องสมุดอ่ะค่ะ
Aobfie Thiyaphun –  มีชีวิตชีวา..แลดูน่าใช้ อยากรู้เรื่องใดถามได้ทุกครา..(มีบรรณารักษ์ออนไลน์..
คอยให้ความช่วยเหลือและตอบคำถามค่ะ)
MineMim BabyBee – ความรู้ทั่วไปค่ะ ^^
Maymon Unratana – มีข่าวสารกิจกรรมให้ผู้ใช้ได้ร่วมสนุก เช่น กิจกรรมตอบคำถามในการสืบค้นฐานข้อมูลต่างๆ มีแฟนเพจเฉพาะของห้องสมุด แนะนำหนังสือใหม่ บทความแนะนำการสืบค้น วิดีโอแนะนำการใช้ห้องสมุด เป็นต้นค่ะ
Prissana Sirikul – ประชาสัมพันธ์หนังสือ – กิจกรรมห้องสมุดค่ะ
Podjamand Boonchai – เว็บควรมีเกมส์ชิงรางวัลอย่างนี้เยอะๆค่ะ
เมย์ เมย์ – ข่าวสารที่ทันสมัย..และกิจกรรมต่างๆภายในห้องสมุดค่ะ.
Cybrarian Cyberworld – แนะนำหนังสือใหม่ แนะนำบริการและแหล่งเรียนรู้ภายในห้องสมุด ที่สำคัญที่สุด แนะนำบุคลากรของหน่วยงานห้องสมุดด้วย
กุ้ยช่าย ยิ้มแป้นเล่น – มีข่าวสารแวดวงห้องสมุดอื่นๆ
นม ยัง อึน – นำเสนอข่าวที่อยู่ในกระแสปัจจุบันที่เป็นประโยชน์ค่ะ ลักษณะคล้ายๆข่าวกฤตภาคอะไรประมาณนี้
Wasabi Srisawat – แนะนำหนังสือที่ถูกยืมมากที่สุด20อันดับของแต่ละเดือน และหนังสือดีที่ไม่ค่อยมีคนยืม จะได้กระตุ้นการอ่านมากขึ้น
Yaowaluk Sangsawang Nontanakorn – เว็บไซต์ของห้องสมุด ตามความคิดนะคะ ควรมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับห้องสมุดในเรื่องระเบียบ กฎ นโยบาย ในการเข้าใช้ห้องสมุด บุคลากรห้องสมุด และเบอร์โทรติดต่อ หรือ e-Mail ที่ติดต่อห้องสมุดได้สะดวก รายการหนังสือใหม่ รายการฐานข้อมูลที่มีให้บริการ เพื่อเรียกความสนใจ ขั้นตอนการสมัครสมาชิกและ ขั้นตอนการใช้งานฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่ห้องสมุดมีให้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้ทราบในเบื้องต้น
Path Ch – ห้องสมุดสามารถเก็บทุกสิ่งทุกอย่างได้ เว็บไซต์น่าจะมีการเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลต่างๆที่สอดคล้องกับภารกิจขององค์กร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ในกรณีที่ห้องสมุดไม่มีข้อมูลนั้นๆ
Pimolorn Tanhan – มีรูปบรรณารักษ์สวยๆ น่ารักๆ มาเป็น Pretty แนะนำการใช้ห้องสมุด การสืบค้นข้อมูลต่างๆ ก็ดีนะคะ
Kru-u Tata – อยากได้งานวิจัยที่เกี่ยวกับห้องสมุดด้วยค่ะ
Lutfee Himmamad – ทำเกมส์ออนไลน์ที่มีทั้งสาระและความบันเทิง ที่ทำให้คนเล่นเรียนรู้การใช้ห้องสมุดได้ด้วยตนเอง ครับ
Tipbha Pleehajinda – เป็นช่องทางเข้าสู่แหล่งสารสนเทศที่มีประโยชน์
วราวรรณ วรรณ ส้ม – อยาก … มีประกาศหรือข้อมูลและบริการของห้องสมุดที่ใช้ภาษาเชิงโฆษณา ภาษาโฆษณาทั้งวจนภาษาและอวัจนะภาษาให้เกิด impact แก่ผู้อ่านให้มากกว่าการประกาศหรือป้ายธรรมดาๆ รวมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวงการห้องสมุด เช่นโฆษณา งานหนังสือแห่งชาติ ขายหนังสือ ขายอุปกรณ์+ebook computer tablet ฯลฯ
วราวรรณ วรรณ ส้ม – อยาก … มีนักโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้บริการให้ได้มากที่สุด และจะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
วราวรรณ วรรณ ส้ม – อยาก … มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้บริการด้วยกันเอง รวมถึงแลกเปลี่ยนกับห้องสมุดด้วย เช่น หนังสือที่อ่านจบแล้วก็นำมาแลกกันอ่าน หนังสือที่คิดว่าเราไม่ใช้แล้วก็นำมาแบ่งปันคนอื่น มีคนอีกมากมายที่ต้องการหนังสือของเรา หนังสือที่ห้องสมุดมีเกินต้องการ … นำมาแบ่งปันแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงการแลกเปลี่ยน/พูดคุยแสดงความคิดเห็น มี Discussion Group ฯลฯ
บรรณารักษ์ เจน – น่าจะมีเว็บให้ผู้ใช้บริการโหวตห้องสมุดและบรรณารักษ์ จะได้กระตุ้นให้พวกเราออกตัวแรงกันขึ้นหน่อย
Wilaiwan Runra – เล่าเรื่องหนังสือ แนะนำหนังสือ เล่านิทาน หน้าเว็บ เลือกคลิปรักการอ่านแชร์ หรือไม่ก็คลิปความรู้ที่คนทั่วไปไม่รู้มาแชร์ เป็นบริการที่ควรให้แก่ผู้อ่านที่ไม่อยากค้นหา แค่เปิดเว็บก็เจอเรื่องที่ใช่ก็ โอนะค่ะ
Kanokwan Buangam – เว็บไซต์ห้องสมุดนอกจากให้สืบค้น แนะนำหนังสือ แนะนำแหล่งสืบค้นแล้ว อยากให้มีแนะนำ สุดยอดบรรณารักษ์บ้างค่ะ เช่น ถ้าจะปรึกษาค้นข้อมูลด้านนี้ก็ไปคุยพี่คนนั้น อะไรประมาณนี้

คำตอบจากเพื่อนๆ ในหน้าเครือข่ายห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทย

Chairach Plewma – Blog เรื่องดี ๆ ที่อยากเล่า และ สื่อ ict ให้ดาวน์โหลด
Nadcha Thanawas – แนะนำหนังสือประจำสัปดาห์ วิดีโอแนะนำห้องสมุด และก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับห้องสมุดคร้า
Aom P. Chan – ช่องทางที่สามารถให้ผู้ใช้บริการมีfeedback มาที่ห้องสมุด
Kornsawan Chonphak – มีข้อมูลดีดี เช่น กฤตภาคในรูปแบบ e-book
Saowapa Sarapimsakul – ถาม-ตอบ กับuser คะ
Loveless Taew – มีลิงค์เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องคะ
Aun Un – บล็อกลิงค์หัวข้อต่างๆเสมือนเป็นหนังสือแต่ละชนิด
Jira Ping – แนะนำหนังสือดีที่น่าอ่านหรือ หนังสือที่ได้รับรางวัลต่างๆ
Piw Piw Arsenal – 1.สามารถ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือ 2.ให้คะแนนหรือเรตติ้งของหนังสือ 3.มีการแชร์ผลการสืบค้นไปยัง Social Network คะ
อาร์ต วชิร ขจรจิตร์จรุง – มีการเช็คสถานะของสมาชิก
Piw Piw Arsenal – เว็บห้องสมุดควรนำ เทคโนโลยี Web2.0 และ Social Network มาใช้ สาหรับเสริมการเรียนรู้ ทำให้ผู้ใช้บริการเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดคุณค่าของเนื้อหา เช่น สามารถวิจารณ์ (reviews) ให้คะแนนเพื่อจัดอันดับหนังสือ (ratings) การกำหนดกลุ่มข้อมูล (tagging) ที่น่าสนใจ ทำการบอกรับ (subscribe) RSS Feeds ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ใช้บริการ เมื่อมีทรัพยากรใหม่เข้ามายังห้องสมุด ทำการแบ่งปันข้อมูลที่น่าสนใจ (sharing) ไปยังกลุ่มSocial Network พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ใช้ด้วยการแสดงผลแบบ Facet นอกจากนี้ผู้ใช้บริการสามารถจัดเก็บผลการสืบค้นด้วยการ Print, E-mail, Save หรือเรียกประวัติการสืบค้นคืนโดย อัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ได้เข้าสู่ ระบบอีกครั้ง รวมถึงการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผู้ใช้ Upload ภาพของ ตนเอง แก้ไขข้อมูลส่วนตัว หรือขอใช้บริการอื่น ๆ ผ่านทาง Mobile Chamo Smart Device Interface ค่ะ
ห้องสมุด บุญเลิศอนุสรณ์ – กิจกรรมตอบคำถามอาเซียนประจำสัปดาห์
Pearlita Kled – หาข้อมูลที่ต้องการได้ง่าย มี Link แนะนำฐานข้อมูล หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มีช่องทางในการแนะนำหนังสือ หรือเสนอแนะความคิดเห็นต่าง ๆ
Jlo Home – บริการสารสนเทศท้องถิ่น
Sophit Sukkanta – 1. สถิติแสดงจำนวนหนังสือล่าสุดที่ตนเองยืมว่าได้จำนวนกี่เล่มแล้วตลอดอายุการเป็นสมาชิก แสดงถึงความภาคภูมิใจที่มีต่อนิสัยรักการอ่าน 2. สถิติแสดงรายชื่อหนังสือที่ถูกยืมมากที่สุด 10 อันดับ เพื่อแสดงถึงความต้องการและค่านิยมที่มีต่อหนังสือแต่ละเล่ม
Atchara Natürlich – บริการจองหนังสือใหม่ มีเดียใหม่ๆ ล่วงหน้าค่ะ (ไม่ทราบว่าที่เมืองไทยมีหรือยังนะคะ)
Titirat Chackaphan – ควรมีหน้าเว็ปที่สามารถตอบคำถามของผู้ที่สนใจ หรือไม่เข้าใจ เกี่ยวกับห้องสมุดค่ะ เพราะบางคนยังไม่เข้าใจว่าห้องสมุดมันคืออะไร หรือบางครั้งบรรณารักษ์เองยังไม่เข้าใจถ่องแท้เลยค่ะ สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ ให้คนเก่งๆ มาช่วยตอบคำถามให้น่ะค่ะ
Khunjom Akk – ประโยค คำคม สาระสั้นๆ จากหนังสือ / นิตยสาร เล่มต่างๆค่ะ
Chaiyaboon Bonamy – แนะนำเกี่ยวกับห้องสมุด เช่นห้องสมุดในดวงใจ , ความประทับใจเกี่ยวกับห้องสมุด
Sukanya Leeprasert – กิจกรรมของห้องสมุด และการรับคำเสนอแนะคำติชม รวมทั้งการดำเนินงานแก้ไขเรื่องต่างๆ
หวาน เย็น – นิทรรศการออนไลน์ เพื่อช่วยตัดปัญหาด้านเวลา สถานที่จัดงานและงบประมาณ
Aom P. Chan – ข่าวสารความเคลื่อนไหวของห้องสมุดที่น่าสนใจ รวมถึงรายการหนังสือใหม่ วารสารใหม่ และอะไรใหม่ๆในห้องสมุด
Jirawan Tovirat – กิจกรรมส่งเสริมการอ่านค่ะ
Phuvanida Kongpaiboon – บรรณารักษ์หน้าตาสดใสเต็มใจให้บริการทุกเรื่องพร้อมจักกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่กระตุ้นให้เกิดนิสัยรักการอ่านคะ
Emorn Keawman – เกมส์ค้นหา หรือไม่ก็เกมส์จับผิดภาพ 555 แบบว่าชอบอะ
Jib Wanlaporn – การ์ตูน animation แนะนำการใช้ระบบสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมุด หรือ สร้างหนังสั้นเป็นเรื่องราว การแนะนำการสืบค้นหนังสือภายใน หส. การเข้าห้องสมุดแนวสร้างสรรค์ นำกราฟิกเข้ามาช่วยดึงดูดใจผู้ใช้ คะ
Agogo Dogclub – มันต้องแนะนำหนังสือซิเพราะบางทีเราชอบน่ะแต่นึกไม่ออกว่าเรื่องไหนมันสนุก
Niramon Leekatham – แสดง pop-up New Window ขึ้นมาปรากฎเป็นสิ่งแรก ตอบคำถามสั้น ๆ ก่อนว่า “เหตุใดจึงเข้า Web ห้องสมุดนี้” หรือ “คุณรู้จักห้องสมุดนี้จากใคร” เพราะคิดว่า เป็นการทราบช่องทางการตลาดสำหรับห้องสมุด สามารถตอบโจทย์อื่นในยุคเทคโนโลยีที่ท่วมท้นปัจจุบัน
Thip Toh – ทำเป็นแหล่งชอปปิ้ง หนังสือ สื่อต่างๆ สร้างบรรยากาศให้น่าเข้าใช้บริการ เจ้าหน้าที่มีจิตให้บริการ
Wiramol Chanpoo – เป็นแหล่งชอบปิ้งหนังสือและเน้นบรรยากาศแบบห้างมีทุกอย่างมีมุมต่างๆมีร้านจำหน่ายหนังสือที่ใหม่เน้นความหลากหลาย
Watcharee Jaithai – เป็นเหมือนบ้าน เหมือนคาเฟ่ที่ประเทศญี่ปุ่น เปิด 24 ชั่วโมง
JoyLis Isaya Punsiripat – อยากให้เว็บไซต์ห้องสมุดมีความน่าสนใจเหมือนเว็บไซต์ทั่วไปๆเล่น kapook, sanook เป็นเว็บที่ทุกคนเข้ามาเป็นประจำเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ค่ะ แต่ในฐานะที่เป็นเว็บห้องสมุดก็อยากจะให้มีการแนะนำหนังสือ บอร์ดสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ รีวิวหนังสือ มีกิจกรรมตอบคำถาม มีสาระที่เป็นเกร็ดความรู้ต่างๆ นอกจากการเป็นแค่เว็บที่ทุกคนเข้ามาสำหรับสืบค้นหนังสือเพียงอย่างเดียว นอกจากมีข้อมูลพื้นฐานต่างๆที่เกี่ยวกับห้องสมุด เช่น ประวัติ ระเบียบห้องสมุดค่ะ เพราะเราเป็นห้องสมุด เว็บห้องสมุดก็ควรเป็นแหล่งความรู้ต่างๆที่ทุกคนสามารถหาความรู้ได้จากเว็บไซต์ด้วยค่ะ ^^

คำตอบที่ถูกใจผมมากที่สุด มีอยู่ 2 คน คือ …..
1. “อยาก … มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้บริการด้วยกันเอง รวมถึงแลกเปลี่ยนกับห้องสมุดด้วย เช่น หนังสือที่อ่านจบแล้วก็นำมาแลกกันอ่าน หนังสือที่คิดว่าเราไม่ใช้แล้วก็นำมาแบ่งปันคนอื่น มีคนอีกมากมายที่ต้องการหนังสือของเรา หนังสือที่ห้องสมุดมีเกินต้องการ … นำมาแบ่งปันแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงการแลกเปลี่ยน/พูดคุยแสดงความคิดเห็น มี Discussion Group ฯลฯ” ความคิดเห็นนี้โดย “วราวรรณ วรรณ ส้ม
2. “1.สามารถ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือ 2.ให้คะแนนหรือเรตติ้งของหนังสือ 3.มีการแชร์ผลการสืบค้นไปยัง Social Network คะ” ความคิดเห็นนี้โดย “Piw Piw Arsenal

หนังสือที่จะแจกในเดือนนี้ "ประสบการณ์แอปเปิล"

ผู้ที่โชคดีได้รับหนังสือจากผม คือ คุณ “วราวรรณ วรรณ ส้ม” และ “Piw Piw Arsenal
เอาเป็นว่าส่งชื่อ-นามสกุลจริง สังกัดใด ที่อยู่ มาที่ dcy_4430323@hotmail.com ด้วยครับ

ปล. ว่าจะแจกแค่เล่มเดียว แต่คิดอีกทีแจกกลุ่มละ 1 เล่มดีกว่า กลายเป็น 2 รางวัลในแต่ละเดือน

สำหรับกิจกรรมแบบนี้ผมคิดว่าจะจัดอีกและจะจัดทุกเดือน
กติกาและการตัดสินจะมีกฎที่มากขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อด้วยนะครับ

บล็อกในวันนี้ผมยกความดีความชอบให้ทุกท่านที่ร่วมสนุกทุกคน
หวังว่าทุกท่านจะเข้ามาร่วมสนุกกันใหม่ในเดือนหน้าด้วยนะครับ

เว็บไซต์ห้องสมุดจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าท่านคิดและจะปรับปรุงมันหรือไม่
อยู่ที่ตัวท่านแล้วหล่ะครับ…

บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน

หัวข้อในวันนี้ที่ผมเอามาโพสลง เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ผมได้รับเกียรติให้ไปบรรยายและเป็นผู้ดำเนินรายการด้วย งานนี้เป็นงานสัมมนาวิชาการ ความรู้ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน สำหรับผู้ปฏิบัติงานสารสนเทศ ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2555 ณ ห้องประชุมป๋วย อึ๊งภากรณ์ อาคาร 1 ชั้น 4 ธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปฟังผมวันนั้น ผมจึงขอเอาเรื่องที่ผมบรรยายมานำเสนอให้อ่านสักหน่อย (http://www.libraryhub.in.th/2012/07/11/seminar-economic-finance-human-and-library-role/)

เอาเป็นว่าไปชมสไลด์ของผมกันก่อนดีกว่า
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน

[slideshare id=15010099&doc=libraryrolefordevelopsocial-121103113039-phpapp02]

สรุปจากสไลด์
ก่อนเริ่มต้นบรรยายอย่างเป็นทางการผมได้เกริ่นถึงความสำคัญของห้องสมุดที่เป็นมากกว่าแค่ห้องเก็บหนังสือ เพราะสถานที่แห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้ของประเทศได้อย่างดีทีเดียว ประเทศที่พัฒนาแล้วมักเห็นความสำคัญของการพัฒนาห้องสมุด…

ห้องสมุด ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของชุมชน เอาง่ายๆ ว่าห้องสมุดเหมือนกับ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วิทยศาสตร์ ท้องฟ้าจำลอง ฯลฯ

ห้องสมุดถูกจัดอยู่ในหน่วยงานที่สนับสนุนการศึกษานอกระบบ – เพราะการจะใช้ห้องสมุดเราไม่ได้มีแบบแผนตายตัวเหมือนหลักสูตรที่จัดในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยนั่นเอง

โครงสร้างพื้นฐานแบบไม่เป็นทางการเหล่านี้ จะช่วย :
– สนับสนุนแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ทุกคนมีโอกาสได้เข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน
– บ่มเพาะภูมิปัญญาในระดับบุคคลที่ทำให้ความรู้และรสนิยมของผู้คน
– ผลิตองค์ความรู้ที่หลากหลาย ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

ห้องสมุดช่วยพัฒนาเมืองได้อย่างไร
การเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นฟูตัวเมือง ตัวอย่างที่เห็นชัด คือ หอสมุดกลางซีแอตเติล (Seattle Public Library) ใครจะไปเมืองนี้ต้องไม่พลาดที่จะเข้าชมห้องสมุดแห่งนี้
ต้นแบบของสิ่งปลูกสร้างรุ่นใหม่ ตัวอย่างคือ อาคารหอสมุดกลาง ประเทศสิงคโปร์ อาคารห้องสมุดที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ปี 2005 หลังจากนั้นทำให้หลายๆ อาคารและหลายๆ หน่วยงานต้องเข้ามาศึกษาดูงานและขอคำปรึกษา
พัฒนาเมืองด้วยการเป็นศูนย์รวมและสถานที่ยึดเหนี่ยวของชุมชน ตัวอย่างอยู่ไม่ไกล คือ อุทยานการเรียนรู้จังหวัดยะลา (TK park Yala) อีกตัวอย่างของการพัฒนาเมืองด้วยการพัฒนาห้องสมุด เมื่อมีห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้ดีๆ ในพื้นที่ ผู้คนในพื้นที่ก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากช่วยพัฒนาเมืองแล้วยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจด้วย จากรายงานเรื่อง “ประโยชน์และผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ของห้องสมุดประชาชนในรัฐฟลอริดา” พบว่าผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจไม่เพียงแต่เห็นพ้องกันว่า “ธุรกิจท้องถิ่นได้ประโยชน์อย่างมากจากการที่ห้องสมุดทำหน้าที่สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ”

ห้องสมุดประชาชนกรีนส์โบโร (Greensboro (NC) Public Library) ร่วมกับโครงการประกาศนียบัตรด้านการจัดการที่ไม่หวังผลกำไร มหาวิทยาลัยดุ๊คส์ (Duke University) จัดการอบรมและเวิร์คช็อปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจำนวน 35 คอร์ส หัวข้อต่างๆ เช่น การเขียนเอกสารขอทุน การหาทุน การเขียนแผนธุรกิจ และการตลาด

ห้องสมุดสามารถช่วยพัฒนาคนทำให้คนได้งานทำ ซึ่งห้องสมุดประชาชนยุคใหม่ จะมีการนำเสนอข้อมูลตำแหน่งงานว่าง การฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ การอ่านออกเขียนได้ ให้คำปรึกษาด้านการเขียนใบสมัครงาน ประวัติย่อ และจดหมายนำการสมัครงาน

บทบาทที่กล่าวมาถูกพิสูจน์ได้ด้วยเครื่องมือในการวัดผลตอบแทนของการมีห้องสมุด (เรื่องนี้ผมเคยเขียนไปแล้ว อ่านต่อได้ที่ http://www.libraryhub.in.th/2011/08/19/cost-benefit-analysis-for-us-public-libraries/)

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นเพียงผลสรุปที่ผมนำมาฝากให้เพื่อนๆ อ่านนะครับ
ปล. ต้องขออภัยผู้ร่วมบรรยายอีกท่านด้วย ที่ไม่ได้สรุปข้อมูลของท่านในครั้งนี้ แล้วผมจะนำมาสรุปอีกครั้งให้เพื่อนๆ อ่านนะครับ

บทบาท PULINET ในการเตรียมการห้องสมุดมหาวิทยาลัยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

กระแสอาเซียนมาแรงฉุดไม่อยู่จริงๆ วงการห้องสมุดมหาวิทยาลัยจึงต้องขอนำเรื่องนี้มาเป็นหัวข้อใหญ่อีกสักครั้ง โดยการสัมมนา PULINET วิชาการ ครั้งที่ 3 ที่จะจัดในระหว่างวันที่ 23-25 มกราคม 2556 นี้ มีธีมใหญ่ คือ “บทบาทของ PULINET ในการเตรียมการห้องสมุดมหาวิทยาลัยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

รายละเอียดงานสัมมนาเบื้องต้น
ชื่องาน : สัมมนา PULINET วิชาการ ครั้งที่ 3
ธีมงาน : บทบาทของ PULINET ในการเตรียมการห้องสมุดมหาวิทยาลัยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
สถานที่จัดงาน :
ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
วันที่จัด : วันที่ 23-25 มกราคม 2556
จัดโดย : ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค (PULINET)

ปี 2558 ประชาคมอาเซียนจะร่วมกันเป็นหนึ่ง ซึ่งถ้านับเวลาจริงๆ ตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง บางคนอาจจะมองว่าเหลือเวลาอีกเยอะ แต่จริงๆ แล้วผมว่าไม่มากหรอกครับ ดังนั้นเราต้องเริ่มเตรียมตัวกันแล้ว

ยิ่งห้องสมุดในมหาวิทยาลัยผมว่าโอกาสในการเตรียมตัวต้องมีสูงกว่าห้องสมุดในระดับอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ เนื่องจากเราต้องเตรียมการผลิตบัณฑิตที่จะจบออกมาด้วยความพร้อมในเรื่องของอาเซียนด้วย ดังนั้นพี่น้องชาวห้องสมุดและบรรณารักษ์ในสถาบันอุดมศึกษาจึงควรเข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้

หัวข้อที่น่าสนใจในงานสัมมนาครั้งนี้
– ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคกับการปรับตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
– ห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคกับการรวบรวม จัดเก็บ และให้บริการทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะทางด้านอาเซียนศึกษา
– The Idea and Management of Collection of ASEAN Countries by Each University Library

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอผลงานทางวาจาและงานโปสเตอร์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมของงานสัมมนาวิชาการ PULINET ในวันที่สองด้วย และแน่นอนครับมีการศึกษาดูงานในวันสุดท้ายเช่นเคย

การสัมมนาในครั้งนี้มีค่าลงทะเบียนด้วย โดย
สถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ในข่ายของ PULINET จะเสียค่าลงทะเบียนคนละ 1,000 บาท
ส่วนองค์กรที่อยู่นอกข่ายของ  PULINET จะเสียค่าลงทะเบียนคนละ 1,500 บาท

ส่วนค่าเดินทางและที่พักก็เบิกจากต้นสังกัดกันเองนะครับ

เอาเป็นว่ากิจกรรมดีๆ แบบนี้ก็ขอแนะนำไว้แล้วกันนะครับ
สำหรับใครที่ได้ไปก็อย่าลืมเอามาเล่าสู่กันฟังในคราวหลังจากกลับมาก็ได้ครับ

ติดตามข้อมูลทั้งหมดได้จากเว็บไซต์ http://clm.wu.ac.th/pulinet3/index.php

บรรณารักษ์ขอบอก : การเดินทางของหนังสือ 1 เล่มในห้องสมุด

นานๆ ทีจะเอาเรื่องราวการทำงานส่วนตัวมาเขียนให้เพื่อนๆ อ่าน วันนี้เลยขอเอาเรื่องราวแบบเบาๆ ที่อ่านได้ทั้งคนที่ทำงานบรรณารักษ์ คนทำงานห้องสมุด คนที่สนใจด้านห้องสมุด และคนทั่วๆ ไปในฐานะคนใช้บริการห้องสมุด สรุปง่ายๆ ว่าอ่านได้ทุกคน

กว่าหนังสือ 1 เล่มจะเข้ามาที่ห้องสมุด ขึ้นไปอยู่บนชั้นหนังสือ และถูกนำออกจากห้องสมุด เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง

ผู้บริหารบางคน ผู้ใช้บริการบางคน คิดง่ายๆ ว่า การทำห้องสมุดเป็นเรื่องง่าย แค่ซื้อหนังสือแล้วเอาไปวางไว้บนชั้นก็เป็นห้องสมุดได้แล้ว วันนี้เรามาลองคิดกันใหม่นะครับ

ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าผมขอแยกหนังสือออกเป็น
1. หนังสือที่ห้องสมุดจัดซื้อมาใหม่
2. หนังสือที่ห้องสมุดจัดพิมพ์ในโอกาสต่างๆ
3. หนังสือที่ห้องสมุดขออภินันทนาการจากหน่วยงานอื่นๆ
4. หนังสือที่ได้รับบริจาคจากคน/หน่วยงานอื่นๆ

หนังสือทั้ง 4 แบบมีเส้นทางการเดินทางต่างกัน เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ
(ผมขอเล่าเป็นภาพแล้วกันนะครับ)

1. หนังสือที่ห้องสมุดจัดซื้อมาใหม่


1.1 กระบวนการจัดซื้อจัดหา
– กำหนดกรอบเนื้อหาของหนังสือที่ห้องสมุดต้องการ (อาจทำร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ)
– รวบรวมรายชื่อหนังสือที่ต้องการจัดซื้อ + ตรวจสอบรายชื่อหนังสือซ้ำกับห้องสมุด
– ดำเนินการสั่งซื้อ กระบวนการส่งของ กระบวนการตรวจรับ
1.2 กระบวนการลงรายการในฐานข้อมูลห้องสมุด
– คีย์ข้อมูลรายการบรรณานุกรมลงในฐานข้อมูลห้องสมุด
– กำหนดเลขหมู่ เลขผู้แต่ง ให้หัวเรื่อง
– เพิ่มรายการตัวเล่ม (Add item)
1.3 กระบวนการเตรียมตัวเล่มเพื่อให้บริการ
– ประทับตรา ติดสัน ติดบาร์โค้ต ติดแถบแม่เหล็ก ห่อปก
– สแกนปกหน้า ปกหลัง ข้อมูลตัวเล่ม สารบัญ
– นำขึ้นชั้นหนังสือเพื่อให้บริการ
1.4 กระบวนการซ่อมแซมหนังสือที่ชำรุด
1.5 กระบวนการคัดออก (กรณีที่หนังสือชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือ เนื้อหาไม่ทันสมัย)

2. หนังสือที่ห้องสมุดจัดพิมพ์ในโอกาสต่างๆ


2.1 กระบวนการจัดทำเนื้อหาและจัดพิมพ์
– กำหนดกรอบเนื้อหาของหนังสือ ตั้งโครงร่างของเนื้อหา (อาจทำร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ)
– เขียนเนื้อหา เรียบเรียงข้อมูล ใส่ภาพประกอบ
– ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา
– ออกแบบและจัดหน้า วาง lay out ออกแบบกราฟิค
– พิสูจน์อักษร ตรวจเรื่องสี
– จัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ
2.2 กระบวนการลงรายการในฐานข้อมูลห้องสมุด
– คีย์ข้อมูลรายการบรรณานุกรมลงในฐานข้อมูลห้องสมุด
– กำหนดเลขหมู่ เลขผู้แต่ง ให้หัวเรื่อง
– เพิ่มรายการตัวเล่ม (Add item)
2.3 กระบวนการเตรียมตัวเล่มเพื่อให้บริการ
– ประทับตรา ติดสัน ติดบาร์โค้ต ติดแถบแม่เหล็ก ห่อปก
– นำเข้าภาพหน้าปกจากไฟล์อิเล็คทรอนิคส์
– นำขึ้นชั้นหนังสือเพื่อให้บริการ
2.4 กระบวนการซ่อมแซมหนังสือที่ชำรุด
– นำเล่มที่สมบูรณ์มาเปลี่ยน (หนังสือที่ห้องสมุดจัดพิมพ์สามารถเก็บในชั้นปิดได้กรณีมีจำนวนมาก)
– ซ่อมแซม (กรณีที่หนังสือมีจำนวนจำกัด)
2.5 กระบวนการคัดออก (กรณีที่หนังสือชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือ เนื้อหาไม่ทันสมัย)

3. หนังสือที่ห้องสมุดขออภินันทนาการจากหน่วยงานอื่นๆ


3.1 กระบวนการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่ต้องการขอรับหนังสืออภินันทนาการ
– รวบรวมรายชื่อหนังสือที่ต้องการขอรับอภินันทนาการ
– ทำหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานเจ้าของหนังสือ
– เมื่อได้รับหนังสืออภินันทนาการแล้วต้องทำหนังสือขอบคุณตอบกลับ
3.2 กระบวนการลงรายการในฐานข้อมูลห้องสมุด
– คีย์ข้อมูลรายการบรรณานุกรมลงในฐานข้อมูลห้องสมุด
– กำหนดเลขหมู่ เลขผู้แต่ง ให้หัวเรื่อง
– เพิ่มรายการตัวเล่ม (Add item)
3.3 กระบวนการเตรียมตัวเล่มเพื่อให้บริการ
– ประทับตรา ติดสัน ติดบาร์โค้ต ติดแถบแม่เหล็ก ห่อปก
– สแกนปกหน้า ปกหลัง ข้อมูลตัวเล่ม สารบัญ
– นำขึ้นชั้นหนังสือเพื่อให้บริการ
3.4 กระบวนการซ่อมแซมหนังสือที่ชำรุด
3.5 กระบวนการคัดออก (กรณีที่หนังสือชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือ เนื้อหาไม่ทันสมัย)

4. หนังสือที่ได้รับบริจาคจากคน/หน่วยงานอื่นๆ


4.1 กระบวนการลงทะเบียนหนังสือรับบริจาค
– กรอกข้อมูลผู้บริจาคหนังสือพร้อมรายชื่อหนังสือที่ได้รับบริจาค
4.2 กระบวนการคัดสรรหนังสือ
– คัดเลือกหนังสือที่เหมาะสมกับห้องสมุดเพื่อดำเนินการต่อไป หนังสือที่ไม่เหมาะสมก็เก็บไว้เพื่อรอจำหน่ายออกภายหลัง
– คัดเลือกหนังสือที่ต้องซ่อมแซมเพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป
4.3 กระบวนการลงรายการในฐานข้อมูลห้องสมุด
– คีย์ข้อมูลรายการบรรณานุกรมลงในฐานข้อมูลห้องสมุด
– กำหนดเลขหมู่ เลขผู้แต่ง ให้หัวเรื่อง
– เพิ่มรายการตัวเล่ม (Add item)
4.4 กระบวนการเตรียมตัวเล่มเพื่อให้บริการ
– ประทับตรา ติดสัน ติดบาร์โค้ต ติดแถบแม่เหล็ก ห่อปก
– สแกนปกหน้า ปกหลัง ข้อมูลตัวเล่ม สารบัญ
– นำขึ้นชั้นหนังสือเพื่อให้บริการ
4.5 กระบวนการซ่อมแซมหนังสือที่ชำรุด
4.6 กระบวนการคัดออก (กรณีที่หนังสือชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือ เนื้อหาไม่ทันสมัย)

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นภาพแบบกว้างๆ นะครับ ผมเชื่อว่าห้องสมุดบางแห่งก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ หรือบางห้องสมุดอาจจะมีวิธีการจัดการที่ดีกว่านี้ เอาเป็นว่าก็เอามาแชร์กันอ่านบ้างนะครับ และพร้อมรับฟังความเห็นและวิธีการของทุกท่านเช่นกัน ร่วมกันแชร์แนวทางเพื่อการพัฒนาห้องสมุดที่ยั่งยืนนะครับ

นายห้องสมุดชวนอ่าน : มาตรฐานและตัวชี้วัดสำหรับห้องสมุดมีชีวิต

เพิ่งจะผ่านพ้นการประกวดห้องสมุดมีชีวิตของ TK park มาไม่นาน วันนี้ผมจึงขอแนะนำหนังสือและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับงานห้องสมุดมีชีวิตสักหน่อยนะครับ

หนังสือที่ผมจะแนะนำในวันนี้ คือ “คู่มือการใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิตรูปแบบอุทยานการเรียนรู้” ซึ่งเป็นคู่มือที่ออกมาเพื่อใช้เป็นหลักในการประเมินห้องสมุดมีชีวิต

ห้องสมุดไหนอยากรู้ว่าห้องสมุดตัวเองจะเข้าข่ายการเป็นห้องสมุดมีชีวิตหรือไม่ ก็สามารถนำความรู้จากหนังสือเล่มนี้มาเทียบดูได้

ข้อมูลทั่วไปของหนังสือเล่มนี้

ชื่อเรื่องภาษาไทย : คู่มือการใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิตรูปแบบอุทยานการเรียนรู้
ผู้จัดทำ : ศาสตราจารย์ ดร.ชุติมา สัจจานันท์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.บุญศรี พรหมมาพันธุ์
จัดพิมพ์โดย : สำนักงานอุทยานการเรียนรู้
ปีพิมพ์ : 2554
จำนวนหน้า : 48 หน้า

มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิตในรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ มี 5 มาตรฐาน 21 ประเด็นย่อย 100 ตัวชี้วัด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

มาตรฐานที่ 1 ด้านกายภาพ – เน้นเรื่องสภาพทางกายภาพและบรรยากาศของห้องสมุด
มาตรฐานที่ 2 ด้านสาระและกิจกรรม – เน้นเรื่องสื่อที่มีในห้องสมุด และการจัดกิจกรรมต่างๆ
มาตรฐานที่ 3 ด้านการบริการ – เน้นเรื่องการบริการเชิงรุกและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ
มาตรฐานที่ 4 ด้านบุคลากร – เน้นเรื่องของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานในห้องสมุด
มาตรฐานที่ 5 ด้านการบริหารจัดการ – เน้นข้อมูลบริหารและการจัดการห้องสมุด เช่น เครือข่ายห้องสมุด

(สำหรับประเด็นและตัวชี้วัดสามารถอ่านได้ในหนังสือครับ หรืออ่านออนไลน์ได้จาก link ด้านล่าง)

มาตรฐานและตัวชี้วัดทั้งหมดอาจจะมองว่ามีจำนวนมาก ห้องสมุดบางแห่งอาจจะมองว่าไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แล้วห้องสมุดสามารถหยิบตัวชี้วัด  หรือ มาตรฐานมาใช้ขึ้นอยู่กับบริบท หรือเรื่องที่จะเน้นก็ได้ ซึ่งแนวทางการวัดผลมีอยู่ในหนังสือคู่มือเรียบร้อยแล้ว โดยรวมค่าเฉลี่ยที่ถือว่าผ่านจะอยู่ที่คะแนน 3.50

ห้องสมุดสามารถนำมาตรฐานและตัวชี้วัดนี้ไปประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น ตัวชี้วัดต่างๆ สามารถใช้เป็นตัวตั้งต้นในการประเมินห้องสมุดของเพื่อนๆ ได้ หรืออาจจะนำมาเป็นข้อมูลเพื่อการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตต่อไป

เพื่อนๆ ที่อยากอ่านตัวเล่มก็สามารถมายืมได้ที่ TK park นะครับ
แต่ใครไม่สะดวกก็สามารถอ่านออนไลน์ได้ที่นี่ “มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิตในรูปแบบอุทยานการเรียนรู้

เอาเป็นว่าก็ฝากไว้เท่านี้นะครับ

สั้นๆ ง่ายๆ บรรณารักษ์ยุคใหม่ในสายตาผม

คำถาม : บรรณารักษ์ยุคใหม่คืออะไร บรรณารักษ์ยุคใหม่หมายถึงบรรณารักษ์อายุน้อยๆ หรือไม่ บรรณารักษ์ที่อายุมากแล้วมีโอกาสเป็นบรรณารักษ์ยุคใหม่หรือไม่

คำถามข้างต้นนี้ผมได้รับฟังมากจน ผมรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
เอาเป็นว่าวันนี้เลยขอนำเสนอภาพการ์ตูนสักนิดนึง แล้วคำอธิบายสักหน่อยแล้วกัน

ชมภาพกันก่อนเลยครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับภาพดังกล่าว
จริงๆ แล้วข้อความผมว่าก็อธิบายด้วยตัวของมันแล้วนะครับ

บรรณารักษ์ยุคใหม่ =?
แน่นอนครับว่าบรรณารักษ์ยุคใหม่ไม่ได้หมายความถึงความหนุ่มสาวและไม่ได้ยึดติดที่อายุ
แต่บรรณารักษ์ยุคใหม่ในสายตาของผม คือ
– บรรณารักษ์ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการทำงานได้ตามยุคตามสมัย
– บรรณารักษ์ที่สามารถแสดงให้ผู้ใช้บริการเห็นได้ว่าห้องสมุดเป็นสถานที่ที่มากกว่าห้องเก็บหนังสือ
– บรรณารักษ์ที่ไม่ต้องเก่งไอทีเหมือนโปรแกรมเมอร์แต่สามารถประยุกต์ใช้ไอทีกับงานห้องสมุดได้
– บรรณารักษ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์คิดกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้บริการ
– บรรณารักษ์ที่สามารถทำให้ห้องสมุดธรรมดาๆ เป็นห้องสมุดที่มีชีวิตชีวาได้

ฯลฯ

เอาเป็นว่าสั้นๆ ง่ายๆ คือ บรรณารักษ์ที่เป็นมากกว่าคนเฝ้าหนังสือในห้องสมุดแล้วกัน ซึ่งผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนมีความเป็นบรรณารักษ์ยุคใหม่อยู่ในตัวอยู่แล้ว ดังนั้นดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้กันมากๆ นะครับ

สุดท้ายนี้ ชวนคิดต่อ เพื่อนๆ หล่ะคิดว่าบรรณารักษ์ยุคใหม่ต้องเป็นอย่างไร
ส่งมาให้ผมอ่านบ้างแล้วกัน สู้ๆ ครับคุณบรรณารักษ์ยุคใหม่

สรุปผลการประกวดห้องสมุดมีชีวิต ครั้งที่ 4

สวัสดีครับเพื่อนๆ วงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ วันนี้ผมขอสรุปผลการประกวดห้องสมุดมีชีวิตครั้งที่ 4 ที่สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมและเพิ่งจะประกาศผลเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2555

อ่านข้อมูลโครงการอบรมและประกวดห้องสมุดมีชีวิตครั้งที่ 4 ย้อนหลังได้ที่
http://www.libraryhub.in.th/2012/06/28/living-library-award-2012/

ผมขอสรุปผลการประกวดเลยแล้วกันนะครับ

รางวัลชนะเลิศ ห้องสมุดมีชีวิต TK park ได้แก่……
ห้องสมุดประชาชนอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ (เยเย้ ยินดีด้วยนะครับ)

รางวัลรองชนะเลิศ ห้องสมุดมีชีวิต TK park ลำดับ 1 (อันดับสอง) ได้แก่
ห้องสมุดประชาชนอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี

รางวัลรองชนะเลิศ ห้องสมุดมีชีวิต TK park ลำดับ 2 (อันดับสาม) ได้แก่
ห้องสมุดประชาชนจังหวัดสงขลา

รางวัลรองชนะเลิศ ห้องสมุดมีชีวิต TK park ลำดับ 3 (อันดับสี่)
ได้แก่
ห้องสมุดประชาชนอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

รางวัลรองชนะเลิศ ห้องสมุดมีชีวิต TK park ลำดับ 4 (อันดับห้า)
ได้แก่
ห้องสมุดประชาชนอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย

รางวัลชมเชย ห้องสมุดมีชีวิต TK park (อันดับที่ 6 – 10) ได้แก่
ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ลาดกระบัง กทม.
ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่
ห้องสมุดกองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา
ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้มีนบุรี กทม.
ห้องสมุดโรงเรียนบุญวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา

รางวัลผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ห้องสมุดมีชีวิต TK park (อันดับที่ 11 – 20) ได้แก่
ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้สวนลุมพินี กทม.
ห้องสมุดประชาชนจังหวัดตราด
ห้องสมุดเพชรรัตน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ห้องสมุดโรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง จังหวัดลำปาง
ห้องสมุดประชาชนอำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย
ห้องสมุดโรงเรียนวัดพุทธบูชา กทม.
ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ห้องสมุดประชาชนอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี
ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
ห้องสมุดประชาชนจังหวัดสุโขทัย

ขอแสดงความยินดีกับห้องสมุดทั้ง 20 แห่งด้วยนะครับ คุณเป็นสุดยอดห้องสมุดมีชีวิตจริงๆ

สำหรับรางวัลที่ห้องสมุดมีชีวิตจะได้รับผมแนะนำว่าให้เพื่อนๆ กับไปอ่านในบล็อก
โครงการอบรมและประกวดห้องสมุดมีชีวิตครั้งที่ 4 ดีกว่าครับ
http://www.libraryhub.in.th/2012/06/28/living-library-award-2012/

ปล. ขอบคุณข้อมูลและภาพจากกล้องพี่นุ้ย TK park ด้วยนะครับ

นิยามการอ่านแบบสั้นๆ ฉบับคนทำงานห้องสมุดและบรรณารักษ์

เมื่อสองวันก่อนเปิดประเด็นชวนคิดให้ชาวห้องสมุดและบรรณารักษ์ได้ตอบกัน โดยคำถามมีอยู่ว่า “เพื่อนๆ คิดว่าการอ่านมีประโยชน์อย่างไรบ้าง” (ขอนิยามแบบสั้นๆ นะครับ) ซึ่งเพื่อนๆ ได้ตอบกันมาเยอะพอสมควร ผมจึงขอนำมาลงให้ทุกท่านได้อ่านกัน

ปล. บล็อกเรื่องนี้ถือว่าเพื่อนๆ ทุกคนช่วยกันเขียนนะครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่มีส่วนร่วม

“เพื่อนๆ คิดว่าการอ่านมีประโยชน์อย่างไรบ้าง” (ขอนิยามแบบสั้นๆ นะครับ)

คำตอบจากกลุ่ม Librarian in Thailand ใน Facebook

1. Improvised Heart – การอ่านมีประโยชน์ ดังนี้ 1. ทำให้เกิดจินตนาการ เพราะการอ่านจะทำให้เราคิดภาพไปด้วย (แต่จินตนาการแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน) และ 2. ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้น (แน่ล่ะ)
2. Cybrarian Cyberworld – Open my life,open my world ,change my life ,change my world & change one’s idea…
3. Aobfie Thiyaphun – อ่านเพื่อ.. ได้รู้ ได้คิด
4. สุดหล่อ ก่ะ เด็กซื่อ – Today a reader, tomorrow a leader
5. Sornor Toom – การอ่านคือ ขุมทรัพย์แห่งปัญญา
6. บรรณารักษ์ เจน – เปิดหูเปิดตา , เกิดปัญญา , มีเรื่องคุย
7. Aobfie Thiyaphun – อ่านเพื่อ…กด Like และ กด แชร์ ^^
8. Jakapon Patpongpun – เรียนรู้เพื่อรับปริญญาชีวิต
9. Aobfie Thiyaphun – อ่านเพื่อ.. เสริมสร้างภูมิปัญญา พัฒนาความคิด เพิ่มคุณภาพชีวิต อุทิศคืนสู่สังคม…
10. Sorravee Tungwongthavornkij – การอ่านคือ การพัฒนาชีวิต
11. Alich Jutarat Chomsuntia – การอ่านเป็นประตูบานแรกที่จะเปิดสู่โลกของการศึกษาค่ะ^^
12. Jung Bi Yoon – การอ่านคือการเรียนรู้แบบ hi speed เพราะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์คนอื่น 😉
13. เสาวณีย์ เจ๊ะหนุ่ม – การอ่านทำให้คุยกับคนในสังคมรู้เรื่อง
14. Aobfie Thiyaphun การอ่าน “เรื่องจริง” ทำให้เข้าใจถูก…การอ่าน “เรื่องเท็จ” ทำให้เข้าใจผิด…การอ่านจึงต้องใช้ “วิจารณญาน” ประกอบด้วย ^^
15. สุนทรี เซี่ยงว่อง – การอ่านทำให้เราฉลาดขึ้น เข้าใจตัวเอง และเข้าใจคนรอบข้าง รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
16. Cabinlazz Lizzie – การอ่านคือชีวิต เพราะถ้าไม่ได้อ่านกระทั่งฉลากยา ก็คงกินยาผิดค่ะ
17. ประพาฬรัตน์ เจริญศิริรุ่งเรือง – ‎”การอ่าน” คือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตประจำวัน ค่ะ
18. Kritsana C Thipsy – การอ่านมาจากความความ “อยาก” สิ่งที่ได้คือ ฉันรู้แล้ว
19. Thung Thailife – การอ่านคือ การที่เราทำความเข้าใจกับข่าวสารหรือเรื่องราวที่เราสนใจและนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง สังคม ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
20. Aom Khontharose – ทำให้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของนักเขียน เช่น หนังสือที่ไปเที่ยวแต่ละประเทศก่อนที่จะได้ไปสัมผัสประสบการร์จริง
21. Nantana Krodtem – การอ่านเป็นการออกกำลังสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
22. Marootpong Aimmo – การอ่าน เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิตครับ
23. Chattayathorn Lapath – การอ่าน ทำให้ได้ฝึกคิดจินตนาการ
24. เสือทอม สุดแรงปั่น – การอ่าน คือการแสวงหาความรู้
25. Chatchaya Kuntakate – การอ่าน คือ การเรียนรู้โลกและสังคม

คำตอบจาก Fanpage เครือข่ายห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทย ใน Facebook

1. Nawapat Chanloy – เกิดจินตนาการกว้างไกล…
2. Maykin Likitboonyalit – เหงา เศร้า ซึม หนังสือช่วยแก้ได้นะ #การอ่านช่วยบำบัด
3. Pong Ping – ช่วยเปิดกระโหลก ให้ ความคิดกว้างไกล ไม่เป็นกบในกะลา
4. Somchai Tinyanont – การอ่านคือการพัฒนาตนเองที่ดีที่สุด
5. Nit Kumansit – การอ่าน คือ การรับความรู้ มาสร้างปัญญา เพื่อพัฒนาตน
6. บริการแปลล่ามอังกฤษไทย และเรียนภาษาออนไลน์ – การอ่านเป็นการเปิดประตูรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ที่จะนำมาใช้ให้อยู่รอดได้ทุกสถานการณ์
7. Chattayathorn Lapath – การอ่านทำให้เราเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต และเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ไม่จำกัดเวลาสถานที่^^
8. น้อยใจยา จ๋าจ๊ะ – การอ่านคือการพัฒนาชีวิตทำให้เกิดความคิดที่ก้าวไกล
9. Aom P. Chan – การอ่านทำให้คนเราเกิดการเรียนรู้และฉลาดมากยิ่งขึ้น
10. Porntip Mung – การอ่านเป็นการเปิดความคิด
11. Sophit Sukkanta – การอ่านช่วยให้เรารู้เขารู้เรา
12. Wanpen Srisupa – การอ่านคือบุญกับบาป
13. ขวัญจิตร เดชเดชะสุนันท์ – เปิดหนังสือเปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน

เอาหล่ะครับเป็นยังไงกันบ้าง นี่แหละความมีส่วนร่วมของพี่น้องวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์แหละครับ
ถ้าเพื่อนๆ อ่านแล้วอยากเพิ่มเติมอะไรก็สามารถเข้ามา comment ต่อได้ด้านล่างนี้เลยนะครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ทำงานห้องสมุดอย่างสนุก…ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่อง “ทำงานห้องสมุดอย่างสนุก…ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)” ที่อุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK park Yala) เลยอยากเอามาสรุปให้เพื่อนๆ ได้อ่าน

ไปชมสไลด์ที่ใช้บรรยายกันก่อน

[slideshare id=13954579&doc=libraryworkisfunbysocialmedia-120813010522-phpapp01]

เนื้อหาการบรรยายโดยสรุปมีดังนี้

จุดเริ่มต้นของสื่อสังคมออนไลน์และเครือข่ายสังคมออนไลน์คงหนีไม่พ้นเรื่องเว็บ 2.0 ซึ่งความหมายและจุดเด่นของเว็บ 2.0 คือ เป็นยุคใหม่ของการพัฒนาเว็บไซต์ และมีรูปแบบการพัฒนาเว็บไซต์ที่ให้ความสำคัญกับ “ผู้ใช้เว็บ” มากกว่า “ผู้พัฒนา” หรือ “เจ้าของเว็บไซต์” นอกจากนี้ยังเน้นแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ให้ความสำคัญกับการปฏิสัมพันธ์ การทำงานร่วมกัน การผสานความร่วมมือทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบ ซอฟต์แวร์ และเนื้อหาเว็บ

จากความหมายและจุดเด่นข้างต้นของ “เว็บ 2.0” จะพบว่า”ผู้ใช้บริการมีความสำคัญอย่างมากต่อเว็บไซต์” และสิ่งที่ตามมา คือ “สังคมแห่งการแบ่งปันข้อมูล” โลกของการแบ่งปัน โลกของเว็บ 2.0 ทำให้เกิดเครื่องมือที่ใช้ในการแบ่งปันมากมาย เช่น

– ใครชอบแชร์เรื่องที่เขียนก็เน้น Blog
– ใครชอบแชร์รูปภาพก็ใช้บริการ Flickr
– ใครชอบแชร์วีดีโอก็ใช้บริการ Youtube
– ใครชอบแชร์เอกสารก็ใช้บริการ Scribd
– ใครชอบแชร์ไฟล์นำเสนอก็ใช้บริการ Slideshare

กรณีศึกษาสื่อสังคมออนไลน์ที่ควรนำมาใช้ : แนะนำวิธีใช้งานและการนำสื่อสังคมออนไลน์มาใช้สำหรับงานห้องสมุด ดังนี้ Blog, Facebook, Pinterest, Social cam และ Twitter ซึ่งเมื่อห้องสมุดหรือบรรณารักษ์นำมาใช้แล้วก็ควรจัดทำแผนและกำหนดทิศทางในการใช้งาน รวมถึงประเมินและวัดผลสัมฤทธิ์ของการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ด้วย ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล เช่น
Facebook Insight
Google Analytic

เอาเป็นว่าเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้เมื่อใช้ให้ถูกจุด มีเป้าหมาย กลยุทย์ และการวัดผลที่ชัดเจน จะทำให้เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้มีประสิทธิภาพในการใช้งานขึ้นมากกว่าเดิม

นี่ก็เป็นบทสรุปของสไลด์เรื่อง “ทำงานห้องสมุดอย่างสนุก…ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)” ครับ

ภาพบรรยากาศในช่วงที่บรรยาย

[nggallery id=60]

มาเรียนเรื่องการจัดหมวดหมู่หนังสือแบบดิวอี้ออนไลน์กันดีกว่า

การจัดหมวดหมู่และการจัดเรียงหนังสือในห้องสมุดหลายๆ แห่ง (โดยเฉพาะห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดโรงเรียน….) มักจะใช้หลักการจัดหมวดหมู่ระบบทศนิยมดิวอี้กัน วันนี้ผมจึงอยากแนะนำข้อมูลและแหล่งข้อมูลที่ใช้เพื่อการเรียนรู้เรื่องการจัดหมวดหมู่นี้

ปีที่แล้วผมได้เขียนเกี่ยวกับเรื่อง “DDC23 กำลังจะมา ห้องสมุดของคุณเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง

ในครั้งนั้นผมให้ข้อมูลว่า OCLC ไปพัฒนาระบบ WebDewey 2.0 เพื่อช่วยให้บรรณารักษ์ทำงานง่ายขึ้น ซึ่งการใช้งาน WebDewey 2.0 ห้องสมุดและบรรณารักษ์จะต้องเป็นสมาชิกและเสียค่าใช้จ่ายให้กับ OCLC

ซึ่งหากห้องสมุดของท่านไม่ได้เป็นสมาชิกกับ OCLC แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า DDC23 มีการเปลี่ยนแปลงในหัวข้อไหนบ้าง และการจัดหมวดหมู่ยังคงรูปแบบเหมือนที่เราเรียนมาเมื่อ 10 – 20 ปีก่อนหรือไม่

ซึ่งทำให้ OCLC ไปเปิดบริการ Dewey Teaching Site ขึ้น และจัดทำเอกสารเพื่อให้ผู้ที่สนใจ คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ได้นำไปใช้เพื่อให้เข้าใจที่มาของการจัดหมวดหมู่ระบบทศนิยมดิวอี้


เว็บไซต์ที่เก็บเอกสารที่ใช้สำหรับการเรียนรู้การจัดหมวดหมู่ระบบทศนิยมดิวอี้

(http://www.oclc.org/dewey/resources/teachingsite/courses/default.htm)

เอกสารประกอบด้วย
– Technical Introduction to the DDC
– Choice of Number Review
– Number Building: Add Tables
– Introduction to WebDewey 2.0
– Introduction to Table 1
– Introduction to 000, 100, 200
– Introduction to 300 and Table 5
– Introduction to 400 and Tables 4 and 6
– Introduction to 500
– Introduction to 600
– Introduction to 700
– Introduction to 800 and Table 3
– Introduction to 900 and Table 2

เอกสารทั้งหมดอยู่ในรูปแบบไฟล์ PDF
นอกจากเนื้อหาที่ใช้สำหรับอ่าน หรือ สอนแล้ว ยังมีในส่วนที่เป็นแบบฝึกหัดให้ทำด้วย เพื่อทบทวนการเรียนรู้ของเรา

เอาเป็นว่าใครที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เข้าไปชมกันได้ครับ