คำมั่นสัญญา : 1 วัน 1 เรื่องกลับมาแล้วครับ

หลายเดือนแล้วที่ผมไม่ตรงต่อเวลาในเรื่องการอัพบล็อก “ผมขอโทษนะครับ”
เมื่อเวลาผ่านไปยิ่งนานยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเหมือนหายไปจากวงการบรรณารักษ์ซะเยอะเลย

วันนี้ผมจึงขอเริ่ม “อุดมการณ์เดิม” ของผม ซึ่งเป็นอุดมการณ์สมัยตอนยังเขียน projectlib
ยังจำประโยคนี้กันได้มั้ยครับ “365 days in library” นั่นหมายถึง 1 วัน 1 เรื่องห้องสมุดจะกลับมา

เรื่องราวต่างๆ ยังมีให้เขียนมากมายเช่นเดิม แต่ผมอาจจะเปลี่ยนรูปแบบการเขียนนิดหน่อย
เพราะเข้าใจว่าหลายคนไม่อยากอ่านอะไรยาวๆ ดังนั้นการเขียนของผมจะแตกต่างไปจากเดิมบ้าง
เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลา เข้ามาบล็อกนี้และใช้เวลาน้อยที่สุดแล้วกัน

วันนี้ก็เขียนแค่นี้แหละครับมาทักทายเล็กน้อย เดี๋ยวรออ่านเรื่องวงการบรรณารักษ์และห้องสมุดกันต่อเลยแล้วกัน

สุขสันต์วันเกิดนะ ?นายห้องสมุด?

แก่ขึ้นอีกปีแล้วเรา ปีนี้ก็ 23 เอ้ย 28 ปีแล้วนะ นี่ก็เกือบครึ่งชีวิตแล้วสินะ
ปีนี้ผมขอตัดหน้าเพื่อนๆ ด้วยการอวยพรวันเกิดตัวเองก่อนใครเลยแล้วกัน

อวยพรธรรมดาก็อาจจะแปลกๆ ก็เลยทำตามสไตล์ Libraryhub หน่อย คือเอามาเล่าบน Blog นี่แหละ

ปีนี้ก็เหมือนปีที่แล้ว คือ วันเกิดดันตรงกับวันทำงานพอดี เลยไม่ได้ไปฉลองที่ไหนแน่ๆ เลย
อาจจะได้ไปกินข้าวกับแฟนบ้างแต่ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร (ยังไม่ได้วางแผนอารายเลย)
เรื่องเค้กคงไม่มีอ่ะ เพราะว่าไม่ใช่คนที่ชอบกินเค้ก (ไม่ชอบของหวาน)

เอาเป็นว่าวันเกิดก็คือวันธรรมดาวันนึงเท่านั้นแหละ
อ๋อที่สำคัญ วันนี้ผมต้องไปทำบัตรประชาชนใหม่ด้วยนี่หน่า เพราะว่าบัตรหมดอายุไปเมื่อวานนี้ (28 กันยายน 2553)
(ถ้าไม่ทำเดี๋ยวตำรวจขอตรวจบัตรอาจจะเป็นเรื่องได้ ยิ่งผมหน้าตาเหมือนคนต่างด้าวอยู่)

ปีนี้ผมขอพรให้ตัวเองสักนิดดีกว่า :-

– ขอให้สอบ TOEFL ผ่านเร็วๆ (จาได้จบปริญญาโทสักที)
– ขอให้การงานประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ
– ขอให้สุขภาพแข็งแรงไม่ป่วยไม่ไข้
– ขอให้ครอบครัวมีแต่ความสุข
– ขอให้ความรักสมหวัง และรักกันมากๆ แบบนี้ตลอดไป
– ขอให้มีแรงในการทำงานเพื่อสังคม…

ปล. คิดไม่ออกแล้วอ่ะ เอาไว้ขอเพิ่มคราวหน้าได้ปล่าว……

สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุข แข็งแรง คิดในสิ่งที่ดีแล้วสิ่งดีๆ จะตามมาเอง
ท้ายสุดจริงๆ ขอให้วงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ต้องสู้ต้องรอด…ไม่สู้ก็ไม่รอด

วันนี้ผมขอนำเพลงๆ นึงมาให้ฟัง แต่บอกก่อนนะว่าเพลงร็อค
แต่ผมคิดว่าเนื้อเพลงมันชัดเจนดี เหมาะกับคนที่ท้อแท้ในชีวิต ผิดหวัง สิ้นหวังที่จะทำอะไรก็ตาม

dsc00054

ช่วงนี้แรงใจในการทำงานผมมันก็ลดลงเรื่อยๆ อ่ะครับ
ดังนั้นผมจึงต้องหาที่เพิ่งที่ใช้ประจำ นั่นคือการฟังเพลงเพื่อให้กำลังใจตัวเอง

เพลงๆ นี้ชื่อเพลงว่า Survivor ซึ่งร้องโดยวง Ebola เอาเป็นว่าก็ลองฟังนะครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=b6JDmHhkxys[/youtube]

เนื้อเพลง ?Survivor?

สู้ ต้องสู้ ต้องรอด ไม่สู้ก็ไม่รอด
ต้องสู้ ต้องรอด ไม่สู้เราก็คงไม่รอด

นับดูนิ้วมือ สิบนิ้วยังอยู่ดี
เสียงของหัวใจ ยังร้องยังตะโกน
แม้จะใกล้ตาย วันนี้จะอดทน
ยากเย็นเท่าไหร่ ต้องหลุดต้องพ้นมันไป

* แม้เหลือโอกาสให้เรารอดตาย แค่เพียงหนึ่งในล้านก็ตาม
ยังฝืนชะตาดิ้นรนทุกอย่าง ยังคอยสั่งตัวเอง เราจะไม่ตาย
ต้องสู้ ต้องสู้ เราต้องรอด

ฟ้าที่มืดมน ชีวิตใกล้อับปาง
แสงที่ริบหรี่ แต่ว่าไม่เลือนลาง
สองมือที่มี ยังใช้มันเปิดทาง
ขอเพียงหัวใจ ไม่ยอม ไม่แพ้สักอย่าง

(*)

ต้องสู้ ต้องรอด เราจะไม่ตาย
ต้องสู้ ต้องรอด เราต้องรอดตาย
ต้องสู้ ต้องรอด เราจะไม่ตาย
ต้องสู้ ต้องรอด เราต้องรอดตาย

แล้ววันหนึ่ง เมื่อหมอกร้ายมันผ่านพ้น
แล้ววันหนึ่ง เราภูมิใจในความเป็นคน

เราต้องไม่ตาย ไม่ว่าจะยังไง เราต้องไม่ตาย ไม่ว่ายังไง

สู้ ต้องสู้ ต้องรอด ไม่สู้ก็ไม่รอด
ต้องสู้ ต้องรอด ไม่สู้ก็ไม่รอด
ต้องสู้ ต้องรอด ไม่สู้ก็ไม่รอด
ต้องสู้ ต้องรอด ไม่สู้ก็จะไม่รอด
เราจะต้องสู้ ต้องรอด

(*)

แม้เลือนลาง แม้หนทาง มีเพียงหนึ่งในล้านก็ตาม
ยังฝืนชะตาดิ้นรนทุกอย่าง ยังคอยสั่งตัวเอง เราจะไม่ตาย

ต้องสู้ ต้องรอด เราจะไม่ตาย
ต้องสู้ ต้องรอด เราต้องรอดตาย
ต้องสู้ ต้องรอด เราจะไม่ตาย
ต้องสู้ ต้องรอด เราจะต้องรอด ต้องไม่ตาย

เพลงนี้ก็อย่างที่เนื้อเพลงบอกแหละครับ ว่าอย่ายอมแพ้กับชะตาชีวิตของตัวเอง
ให้เราสู้แม้ว่าโอกาสจะเหลือน้อยมากแค่ไหนแต่เราต้องสู้ สู้ และสู้เท่านั้น

อย่างน้อยถ้าเราต้องสูญเสียก็จงรู้ไว้ว่าเราพยายามถึงที่สุดแล้ว
ดีกว่าล้มเหลวเพราะมัวแต่กลัวว่าจะไม่สำเร็จเลยไม่ได้ทำอะไร

เมื่อผม (Projectlib & Libraryhub) ถูกสัมภาษณ์ลงเว็บไซต์อื่นๆ…

วันนี้ผมขอรวบรวม link บทสัมภาษณ์ของผมจากหลายๆ เว็บไซต์มาไว้ที่นี่เพื่อให้เพื่อนๆ อ่านนะครับ
ซึ่งบทสัมภาษณ์ที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไป ไม่ได้มีแต่เรื่องส่วนตัวเท่านั้นนะครับ
แต่ยังมีเรื่องประสบการณ์ในการฝึกงาน แรงบันดาลใจ และอีกหลายๆ เรื่องที่อยากให้อ่านจริงๆ

libraryhub-interview

เราไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่านะครับ

————————————————————————————————————

เริ่มจากการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของผมผ่านเว็บไซต์ Tag in thai

taginthai

การสัมภาษณ์ในครั้งนั้น ผมได้กล่าวถึงเรื่องส่วนตัว เช่น เรียนจบที่ไหนมา ปัจจุบันทำงานที่ไหน เป็นต้น
นอกจากนั้นยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวงการห้องสมุดในเมืองไทย
และวัตถุประสงค์ในการเขียนบล็อก พร้อมแนะนำบล็อกในหน้าต่างๆ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร

เพื่อนๆ สามารถอ่านต่อที่ http://tag.in.th/interview?show=projectlib

————————————————————————————————————

ต่อมาการสัมภาษณ์ครั้งที่สอง ได้ลงทั้งในหนังสือเรียนรอบโลก และ เว็บไซต์เรียนรอบโลก

learn-around-the-world

ซึ่งประเด็นหลักของการสัมภาษณ์ในครั้งนั้นคือ ?ฝึกงานบรรณารักษ์ ต้องใฝ่รู้คู่ให้บริการ?
โดยผมได้กล่าวถึงเรื่องการฝึกงานของเด็กเอกบรรณรักษ์โดยเน้นงานบริการเป็นหลัก
และการฝึกงานในลักษณะต่างๆ ของเด็กเอกบรรณารักษ์

เพื่อนๆ สามารถอ่านต่อที่ http://eaw.elearneasy.com/Print_News.php?news_id=269

————————————————————————————————————

ครั้งที่สามต่อเนื่องจากครั้งที่สอง แต่เปลี่ยนไปลงในคอลัมน์นานาสาระ เว็บไซต์ eJobEasy

ejobeasy

ซึ่งประเด็นหลักของการสัมภาษณ์ในครั้งนั้นจะเหมือนในครั้งที่สองนั่นแหละครับ
เพราะว่าใช้คำถามในการสัมภาษณ์เหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนสื่อในการนำเสนอ
ให้อยู่ในเว็บไซต์หางาน และแนะนำการทำงานเป็นหลัก
ซึ่งข้อมูลที่ผมให้ คือ ข้อมูลจากการฝึกงานที่ ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น

เพื่อนๆ สามารถอ่านต่อที่ http://www.ejobeasy.com/kmdetail.php?n=80820180723

————————————————————————————————————

ครั้งที่สี่ เป็นการให้สัมภาษณ์กับ LibrarianMagazine เล่มที่ 7

librarianmagazine

การสัมภาษณ์ครั้งนั้นเป็นกล่าวกล่าวถึงเรื่องส่วนตัว และเรื่องของบล็อกเป็นหลัก
เช่น อนาคตของบล็อกนี้ และโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นใน projectlib.in.th
นอกนั้นก็จะมีการแสดงความคิดเห็นในมุมมองที่บรรณารักษ์หลายคนมองข้าม เช่น
ภาพลักษณ์ของบรรณารักษ์ และการทำบล็อกของห้องสมุด ฯลฯ

เพื่อนๆ สามารถอ่านต่อที่ http://www.librarianmagazine.com/VOL1NO7/projectlib.html

————————————————————————————————————

เอาเป็นว่าก็อ่านกันได้ตามสะดวกเลยนะครับ…

ผู้หญิงส่วนใหญ่หงุดหงิดกับเรื่องไอทีมากกว่าผู้ชาย

เพื่อนๆ หลายๆ คนคงเข้าใจความอาร์ทของผู้หญิงดี
วันนี้ผมเลยขอนำเสนอเรื่องราวอาร์ทๆ ของผู้หญิงในแง่ของโลกไอทีกันบ้าง

ภาพประกอบจาก www.disaboom.com/womens-health-care
ภาพประกอบจาก www.disaboom.com/womens-health-care

ก่อนอื่นต้องขอนำผลการสำรวจจากนิตยสารไอทีฉบับหนึ่งมาให้เพื่อนๆ ดูกันก่อน
ซึ่งการสำรวจในครั้งนี้ได้สำรวจกลุ่มเป้าหมายทั้งชายและหญิงวัยทำงานจำนวน 3,812 คน
ซึ่งผลการสำรวจนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า “ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องไอทีมากกว่าผู้ชาย”

เราลองไปดูตัวอย่างคำถามในและผลการสำรวจกันหน่อยดีกว่า

1. Frustrated by slow load times for web pages
(ความหงุดหงิดเกี่ยวกับความช้าของการโหลดเว็บไซต์)
ผู้ชายมีจำนวน 56 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 66 %

2. Frustrated by ads on the Internet
(ความหงุดหงิดเกี่ยวกับโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต)

ผู้ชายมีจำนวน 47 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 52 %

3. Frustrated by keeping track of multiple passwords
(ความหงุดหงิดเกี่ยวกับการใส่รหัสผ่านมากๆ)

ผู้ชายมีจำนวน 32 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 34 %

4. Frustrated when their computer crashes
(ความหงุดหงิดเกี่ยวกับการผิดพลาดของคอมพิวเตอร์)

ผู้ชายมีจำนวน 77 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 85 %

5. Frustrated if their broadband connection doesn?t reach the promised speed
(ความหงุดหงิดเกี่ยวกับการ เชื่อมต่อไม่เป็นไปตามความเร็วที่กำหนดไว้)

ผู้ชายมีจำนวน 48 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 56 %

6. Frustrated by (interacting with) computer support
(ความหงุดหงิดเกี่ยวกับฝ่ายเทคนิคในการดูแลคอมพิวเตอร์)

ผู้ชายมีจำนวน 38 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 42 %

ดังนั้นจากการสรุปผลทั้งหมด เราจะพบว่าอัตราความหงุดหงิดของผู้หญิงชนะไปที่
ผู้ชายมีจำนวน 49.7 % แต่ผู้หญิงมีจำนวน 55.8 % นะครับ

เป็นไงกันบ้างครับ คุณผู้หญิงทั้ง หลายเมื่ออ่านจบก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดนะครับ
ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงแค่ผลสำรวจในสวีเดน แต่ผมเชื่อว่าของคนไทยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้

ว่าแต่คุณผู้หญิง และคุณผู้ชายทั้งหลายคิดว่า ข้อมูลนี้ถูกหรือปล่าว?

ข้อมูลสนับสนุนจาก http://royal.pingdom.com/2008/07/09/women-more-frustrated-by-the-web/

ขออภัยที่หายไปจากบล็อกห้องสมุดเกือบหนึ่งเดือน…

ไม่ได้เขียนบล็อกมาเกือบหนึ่งเดือนเพื่อนๆ ยังคิดถึงผมกันบ้างหรือปล่าวครับ
วันนี้ผมกลับมาแล้ว และจะมาเล่าให้ฟังว่าหาไปไหนมาบ้าง…

welcomebacklibraryhub

หลายๆ คนที่ติดตามบล็อกผมมานานคงจะรู้ว่า…
ปกติต่อให้มีงานเยอะแค่ไหนผมก็จะเขียนบล็อกอยู่ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ผมเรียนปริญญาโท สอบปริญญาโท
ผมก็ยังคงเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวให้เพื่อนๆ อ่านอยู่ทุกวัน

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องหยุดเขียนบล็อกในช่วงที่ผ่านมา
เช่น
– ไม่สบาย ปวดหัว ซึ่งจะหยุดเขียนประมาณ 1-2 วัน
– การเดินทางไปต่างจังหวัด (ไปแต่ละครั้ง 3-4 วัน) ซึ่งจะหยุดเขียนประมาณ 2-3 วัน
– การปรับปรุงและเปลี่ยนจาก Projectlib มาเป็น Libraryhub หยุดเขียนประมาณ 1 เดือน

หลายๆ ครั้งก่อนที่ผมจะหยุดเขียนบล็อก ผมก็จะแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบก่อนทุกครั้ง
แต่ในครั้งนี้ผมหายไปโดยไม่ได้แจ้งใครไว้เลย ทำให้มีเพื่อนๆ ส่งเมล์มาถามข่าวคราวมากมาย

ถ้าเพื่อนๆ สังเกตก็คือ ผมเขียนเรื่องสุดท้ายเมื่อเดือนที่แล้ววันที่ 23 กุมภาพันธ์ แล้วผมก็หายไป
จนวันนี้วันที่ 19 มีนาคม 2553 เท่ากับว่าผมหายไปเกือบ 1 เดือนเลย…

สาเหตุหลักมาจากงานที่ผมได้รับมอบหมายในช่วงนี้ ที่มีเยอะมากและต้องรีบสะสางให้เสร็จ
ผมทำงานอย่างไม่มีวันหยุด 7 วันทำงาน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ที่ต้องอยู่ที่ออฟฟิต
ทำงานเสร็จพอกลับถึงบ้านก็ไม่มีแรงที่จะเขียนบล็อกเหมือนเช่นเคย

ความรู้สึกที่อยากเขียนบล็อกของผมก็ยังคงมีนะครับ แต่กำลังกายก็ไม่เอื้ออำนวย
เวลาผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนผมเองก็มีเรื่องให้คิดอะไรมากมายอยากเขียนอยากระบายอะไรมากมาย
แต่ก็ทำได้แค่โทรไปบ่นๆ หรือตอบเมล์เพื่อนๆ หลายๆ คนแล้วบอกว่า “อีกไม่นานผมจะกลับมา”

เมื่อวานนี้ขณะที่ผมนอนป่วยอยู่ที่บ้าน ผมก็เริ่มทบทวนเรื่องราวต่างๆ มากมายว่า
ตกลงผมจะกลับมาเขียนบล็อกได้อีกหรือปล่าว สมองผมเริ่มสั่งการว่า…

ถ้าผมปล่อยให้บล็อกว่างปล่าวไปอีกสักระยะ ผมคงอาจจะไม่มีแรงอยากเขียนบล็อกอีกแล้วก็ได้
ดังนั้นอย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้เลย รีบๆ กลับมาเขียนบล็อกให้เพื่อนๆ อ่านเหมือนเดิมดีกว่า

ว่าแล้วผมก็เริ่มที่จะเขียนบล็อกเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อ :-
– เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ว่าผมหายไปไหนมา
– ขอโทษเพื่อนๆ ที่ไม่ได้อัพเดทความเคลื่อนไหวของข่าวคราวในวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์
– ประกาศจุดเริ่มต้นของการเขียนบล็อกต่อไป

เอาเป็นว่าอย่างที่เกริ่นไว้ว่า วันนี้จะมาขอโทษเพื่อนๆ ผมก็ต้องขอกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการว่า
“ขอโทษที่หายหัวไปจากบล็อกทำให้เพื่อนๆ หลายๆ คนเป็นห่วงและไม่ได้อัพเดทเรื่องราวในวงการฯ”

วันนี้ผมจะขอเริ่มต้นใหม่ในการอัพเดทบล็อกให้เพื่อนๆ ได้อ่านนะครับ
หวังว่าเพื่อนๆ คงจะกลับมาอ่านและติดตามข่าวสารในวงการบรรณารักษ์เช่นเคย

Welcome Back Libraryhub….

OMG : บล็อกบรรณารักษ์ของผมโดนลอกหรือนี่

อ่านข่าววงการบรรณารักษ์ไปเรื่อยๆ แล้วบังเอิญเจอบทความของตัวเองในบล็อกของคนอื่น
แถมอ่านไปอ่านมาก็ไม่พบข้อความอ้างอิงเลยสักนิด แบบว่าแอบเซ็งนิดนึงนะครับ

libraryhub-copy

เรื่องของเรื่องจริงๆ แล้วก็ไม่อยากจะบ่นหรอกครับ
แต่เหตุการณ์เรื่องลอกบทความแล้วไม่อ้างอิงมันเกิดขึ้นบ่อยมากๆ
แล้วที่สำคัญเป็นบล็อกของวงการห้องสมุดด้วยกันเนี้ยสิ —> ทำกันได้ลง (เสียความรู้สึกมาก)

ผมลองเข้าไปดูบล็อกห้องสมุดแห่งนี้อย่างจริงจังปรากฎว่า
1. ไม่ได้ลอกแค่บทความเดียว (มีหลายบทความ)
2. เอาเนื้อความในบล็อกของผมมาเปลี่ยนจาก “ครับ” เป็น “คะ”
3. เอารูปที่อยู่ในบล็อกของผมมาลงด้วย
4. ไม่พบข้อความที่บอกว่ามาจากบล็อกของผม

เอาเป็นว่าแค่นี้ผมก็เสียความรู้สึกมากมายแล้วครับ

ไม่ได้งกบทความตัวเองหรอกนะครับ
ไม่ได้อยากดังหรือทวงสิทธิอะไรมากมายหรอก
ไม่ได้อยากต้องการคำขอโทษอะไรเลย

แค่ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวก็เท่านั้นเอง

cc-by-nc-sa_340x340

ในบล็อกห้องสมุดแห่งนี้มีการใช้อนุสัญญา creative common ด้วย
แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจเรื่องนี้จริงหรือปล่าว หรือแค่ติดเพื่อตามกระแสก็ไม่รู้
เอาเป็นว่าอยากให้ลองศึกษาเรื่องสัญลักษณ์ใน Creative common ให้ดี โดยเฉพาะ “BY” นะครับ

เอาเป็นว่าผมคงไม่เจอเรื่องราวเช่นนี้อีกนะครับ ขอบคุณมากมาย

ปล. ผมไม่บอกนะครับว่าห้องสมุดไหน เอาเป็นว่าถ้ายังมีเหตุการณ์เช่นนี้อีกผมจะเอามาลงอีกแน่ๆ

เก็บตกความประทับใจในงาน #Twtparty

งานเลี้ยงสังสรรค์ของเราชาว twitter หรือที่มีชื่องานว่า #TWTparty ก็ผ่านไปแล้วนะครับ
วันนี้ผมขออาสาเล่าเรื่องความประทับใจที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงานให้เพื่อนๆ ฟังนะครับ

twtparty2

งานเลี้ยง #Twtparty ที่จัดไปเมื่อวันที่ 30ธันวาคม 2552 ณ ร้าน Kin Ramen
มีผู้ร่วมกินทั้งหมด 27 คน ซึ่งมีรายนามดังต่อไปนี้
@ylibraryhub @junesis @jaaja @bankkung @jazzanovalerm @jenospot @tomorn @maeyingzine @ladynile @aircoolsa? @oiil @CCCheezEEE @zetsuboublogger @exzign @eCybermania @panj @muenue @neokain @goople @lwkl @pimoooo @MeetTrend @Meetmeal @dominixz @eiiiie @Reind33r @FordAntiTrust

บทสรุปที่ร้าน Kin Ramen ก็คือ
ทุกคนอิ่มกันมากมาย แม้จะมีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง 45 นาทีก็เถอะ
แต่พวกเราก็สั่งกันเต็มที่ งานนี้ต้องขอขอบคุณ @pimoooo ที่แนะนำเมนูต่างๆ ให้เรา
(พวกเราไม่ค่อยรู้จักเมนูอาหารอ่ะ เลยบอกพี่แกว่า ขอ 3 ชุด เลย อิอิ)

ค่าเสียหายที่เฉลี่ยรายคน ตกคนละ 315 บาทเอง เนื่องจากเราไปกัน 26 คน เลย เข้าแก็บว่า มา 10 คน ฟรี 1 คน
ดังนั้นเราเลยประหยัดกันได้นิดนึง เอาเป็นว่าราคาก็ไม่แพงมากเกินไป ใช่มั้ย ?????

ระหว่างที่กิน กิจกรรมที่เกิดขึ้น เช่น แจกของขวัญปีใหม่ พูดคุยเฮฮา ถ่ายรูปสนุกสนาน ฯลฯ
แบบว่าจริงๆ ถ้าจะจัดคราวหน้าแนะนำว่าเหมาทั้งชั้นเลยน่าจะดี เพราะพวกเราใช้เสียงกันแบบเต็มที่มากๆ

เอาเป็นว่า สนุกมากๆ ครับ

ประมวลภาพ #Twtparty ณ ร้าน Kin Ramen

[nggallery id=21]

แต่อย่างที่เกริ่นไปในกำหนดการของ #Twtparty เรายังเหลืออีกกิจกรรมนึงคือถ่ายรูปหน้า Q-House สาธร
ซึ่งมีการจัดไฟ และสถานที่เพื่อให้เข้ากับงานคริสต์มาส ดังนั้นหลังกินเสร็จพวกเราจึงมุ่งหน้าไปต่อที่ Q-House ทันที
งานนี้มี @nuboat มาแจมด้วย เอาเป็นว่าเราก็ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานจริงๆ

กิจกรรมเด่นๆ ที่หน้า Q-House เช่น ถ่ายรูป นั่งเสวนาเรื่องวิชาการ และชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืน

เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกิจกรรมหน้า Q-House กันด้วยดีกว่า

[nggallery id=20]

เป็นยังไงกันบ้างครับกับกิจกรรมทั้งหมด

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ตอบรับเข้าร่วมงานทุกคนนะครับ
มิตรภาพใหม่ๆ ก็เกิดขึ้น และสานสัมพันธ์เพื่อนๆ เก่าที่เคยเจอกัน
งานหน้าจะมีอีกแน่นอน ผมสัญญาและจะมีกิจกรรมดีๆ มาฝากเรื่อยๆ ครับ

อัพเดท ขอเพิ่มวีดีโอที่ถ่ายในงาน #twtparty โดย @dominixz ในบล็อกครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=S2x0p3Fkoxs[/youtube]

Happy New Year 2010 ครับ

อัพเดทข้อมูลงาน #TWTparty – 30/12/2009

หลังจากการประชุมกันนอกรอบของผู้ที่ร่วมจัดงาน #TWTparty

twtparty

ผลสรุปเรื่องกิจกรรม เวลา สถานที่ และผู้ที่เข้าร่วมงานมีดังนี้

1. กิจกรรมที่จะจัดในงาน #TWTparty
– พบปะสังสรรค์ พูดคุย และทักทายกัน
– รับประทานอาหารร่วมกัน (ร้าน Kin Ramen)
– ถ่ายรูปร่วมกัน (หน้าอาคาร Q-house ลุมพินี)
– มอบของขวัญแด่กันในโอกาสปีใหม่ (แล้วแต่ว่าใครจะเตรียมมาก็ได้)

2. เวลาในการจัดงาน #TWTparty ในวันที่ 30 ธันวาคม 2552
18.30 รวมตัวกันที่หน้าลานน้ำพุ สยามพารากอน
19.00 รับประทานอาหารที่ร้าน Kin Ramen
21.00 เดินทางไปที่ Q house ลุมพินี และถ่ายรูป #Twtphotocamp
22.30 แยกย้ายกันกลับบ้าน

ปล. สำหรับคนที่ไม่สามารถมาร่วมรับประทานอาหารแล้วสนใจจะมาถ่ายรูปก็ขอเชิญนะครับ

3. สถานที่ที่จัดงาน #TWTparty

Kin Ramen ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น ชั้นบนของร้าน R BURGER อยู่ติดกับธนาคารกรุงเทพ (อยู่หน้าสยามสแควร์ซอย 5)

พิกัดของสถานที่

shop_kinramen_map

– อาคาร Q-house ลุมพินี (สำหรับถ่ายรูป)

พิกัดของสถานที่

map_qhouselumpini_new

4. รายชื่อผู้ที่เข้าร่วมงาน #TWTparty confirm แล้ว
– @ylibraryhub
– @junesis
– @jaaja
– @bankkung
– @jazzanovalerm
– @jenospot
– @tomorn
– @maeyingzine
– @ladynile
– @aircoolsa
– @oiil
– @CCCheezEEE
– @zetsuboublogger
– @exzign
– @eCybermania

สรุปจำนวนล่าสุดที่คอนเฟิม ณ วันนี้มีจำนวน 15 คนครับ
หากใครที่สนใจเพิ่มก็ติดต่อผมมาได้นะครับ แต่อย่าเกินวันอังคารนะครับ เพราะต้องยืนยันกับทางร้านด้วย

รวมบล็อกที่รีวิวร้านที่พวกเราจะไปกินกัน – Kin Ramen
บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นกลางสยาม @ Kin Ramen
บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น Kin Ramen @ Siam Square
@ป๋าเดียชวนชิม@ .. บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ที่ Kin Ramen ณ SiamSquare

ขอสรุปง่ายๆ เลยนะครับ ในวันนั้น 18.30 น. เราจะเจอกันหน้าลานน้ำพุสยามพารากอน
และเราจะเริ่มเข้าร้าน kin Ramen เวลา 19.00 น. หากใครมาแล้วไม่เจอผมกรุณา DM มาหาได้ครับ

อัพเดทเพิ่มรายชื่อ @muenue @neokain @goople @lwkl @pimoooo @MeetTrend @dominixz

TWTparty งานเลี้ยงสังสรรค์ก่อนสิ้นปี 2552

จากการที่เพื่อนๆ หลายคนอยากให้มีการจัดงาน Twtparty ในวันที่ 30 ธันวาคม ช่วงเย็น
และต่างคนต่างเริ่มสับสนว่าเอาไงแน่ จัดจริงปล่าว จัดที่ไหน ใครมาบ้าง
ผมจึงขอเขียนเรื่องนี้เพื่อ ย้ำตวามมั่นใจให้เพื่อนๆ ทุกคนอีกครั้งว่า “จัดจริงๆ ครับ”

twtparty

ในงาน Twtparty เป็นงานเลี้ยงส่งท้ายปี 2552 ครับ
เป็นงานพบปะสังสรรค์กินข้าวกัน ถ่ายรูปกัน และกิจกรรมอื่นๆ ที่พอจะคิดออก

ทำไมต้องจัดวันที่ 30 ธันวาคม ????
เพราะว่าวันที่ 31 ธันวาคม หลายๆ คนคงจะกินเลี้ยงหรือ countdown อยู่ที่บ้านนั่นสิครับ
หรือไม่ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน ดังนั้นถ้าจัดวันนั้นคงไม่สะดวก

นอกจากนี้ผมจึงขอสำรวจความต้องการของเพื่อนๆ ที่ต้องการมาร่วมกันหน่อยนะ
เริ่มจากสถานที่เพื่อนๆ อยากให้จัดที่ไหน

[poll id=”13″]

อ๋อ อีกกิจกรรมที่ผมคิดว่าน่าจะมีคือกิจกรรมการจับฉลากกัน
เพื่อนๆ คิดยังไงช่วยตอบด้วยนะ จะได้รู้ว่าจะจัดดีมั้ย

[poll id=”14″]

อ๋อ ถ้าจะจับฉลากของขวัญ ผมอยากรู้ว่าราคาของขวัญขั้นต่ำคือเท่าไหร่ดี

[poll id=”15″]

กิจกรรมที่ผมอยากให้มีในวันนั้น คือ
– พบปะพูดคุยกัน (แนะนำตัว)
– กินข้าว (ดินเนอร์ร่วมกัน)
– ถ่ายรูป (เก็บภาพความทรงจำ)
– คาราโอเกะ (ถ้าเป็นไปได้)
– จับฉลากแลกของขวัญ (ถ้าเป็นไปได้)

อ๋อ ที่สำคัญผมอยากรู้ว่าใครจะมาร่วมบ้าง ดังนั้นกรุณาลงชื่อใน Comment ด้นล่างนี้ด้วยนะครับ
รอกชื่อ username (ใน twitter ก็ดี)
กรอกอีเมล์ของเพื่อนๆ ไว้ด้วย เพื่อจะส่งข่าวยืนยันการจัดงานครับ
ส่วนในช่อง URL ให้เอา URL ใน twitter ก็ได้ เช่น http://twitter.com/Ylibraryhub

ขอบคุณทุกคนนะครับ