สูตรสำเร็จของการพัฒนาห้องสมุด บรรณารักษ์ ในมุมมองนายห้องสมุด

หลังจากที่เปลี่ยนบทบาทจากผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้บริหารน้อยๆ ชีวิตผมก็เริ่มเปลี่ยนไป
เริ่มมีเวลาดูข้อมูล อ่านหนังสือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ วันนี้ได้อ่านเจอประโยคนึงแล้วรู้สึกว่ามันโดนใจ
วันนี้จึงขอนำประโยคนี้มาวิเคระห์และเชื่อมโยงกับวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ดู

library success

ประโยคที่ว่านี้คือ Knowledge + Connection = Success
การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ นอกจากมีความรู้แล้วยังต้อง “รู้จักคน” ด้วย

เริ่มจากการวิเคราะห์ว่า “ความสำเร็จในการพัฒนาห้องสมุดและบรรณารักษ์” คืออะไร

ห้องสมุดควรเป็นเช่นนี้
– สถานที่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ
– สถานที่ที่คนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เวลาต้องการความรู้หรือต้องการคำตอบ
– สถานที่ที่คนเข้ามาใช้แล้วไม่มีคำว่า “น่าเบื่อ” “ไม่น่าใช้”
– สถานที่ที่เข้ามาแล้วทุกคนจะต้องพูดว่า “ขอบคุณนะที่มีสถานที่แบบนี้”
ฯลฯ

บรรณารักษ์ควรเป็นคนแบบนี้
– ผู้ที่ผู้ใช้เข้ามาทักทาย พูดคุย และถามในสิ่งที่ตนเองต้องการจากห้องสมุด
– ผู้ที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาความรู้ หรือ ค้นหาคำตอบ
– ผู้ที่ทุกคนไม่นำไปพูดถึงในทางที่แย่ๆ
– ผู้ที่ไม่ได้เป็นเพียงคนนั่งเฝ้าในสายตาของผู้ใช้บริการ
ฯลฯ

ความสำเร็จที่ว่ามีความหมายมากมาย เอาเป็นว่าโดยรวมคือสิ่งที่ดี
และเพื่อนๆ เองก็พยายามจะทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้

เอาหล่ะเมื่อสูตรความสำเร็จมาจาก “ความรู้” และ “การเชื่อมโยง”
Success = Knowledge + Connection

Knowledge ผมคงไม่เจาะจงหรอกนะครับว่าต้องมีความรู้อะไร
ขอเพียงแค่เพื่อนๆ “ฉลาดที่จะเรียนรู้” “รักในการเรียนรู้” “ประยุกต์ใช้ความรู้ที่มี”
เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะมีความรู้ในการพัฒนาห้องสมุดและบรรณารักษ์ได้เอง

Connection ผมคงไม่เจาะจงอีกว่าจะต้องติดต่อกับใคร
ขอเพียงแค่เพื่อนๆ รู้ว่า “ใครที่จะต้องติดต่อ” “หน่วยงานไหนมีอะไรดี”
โลกนี้คนเก่งทำงานคนเดียวก็สู้คนที่ทำงานเป็นทีม หรือ ทำงานแบบเครือข่ายไม่ได้
นอกจากเรื่องติดต่อแล้ว ผมขอย้ำคำเดิมว่า “Sharing Knowledge is power
คนที่ชอบแบ่งปันความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นคนที่ได้เปรียบกว่าคนอื่น

ดังนั้นจงเก่งที่จะเรียนรู้และเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้กับเรื่องที่ทำ
จะทำให้วงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทยพัฒนาไปได้อีกไกล

นายห้องสมุดชวนฟัง : “น้องเอ๋ย” เพลงเพื่อวันนี้และวันพรุ่งนี้

นานแล้วที่ไม่ได้เขียนเรื่องส่วนตัวเลย ซึ่งปกติพอเขียนเรื่องอะไรที่เป็นส่วนตัวหน่อย เพื่อนๆ จะมองว่าเพราะช่วงนั้นผมคงเครียดอะไรสักอย่างแน่เลย วันนี้เลยขอออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ใช่ ไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไรหรอกครับ

ประเด็นมันอยู่ที่ว่าผมชอบฟังเพลงของพี่บอย โกสิยพงษ์มากๆ เพราะเพลงแต่ละเพลงมีความหมายที่ดี

วันนี้เลยขอแนะนำเพลง “น้องเอ๋ย” ให้เพื่อนๆ ได้ฟัง

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=zNcKaf4XUiI[/youtube]

เนื้อเพลง เพลงนี้ สรุปง่ายๆ ว่า
“เวลาที่เราเศร้าก็ขอให้เศร้าและปล่อยให้มันจบในวันนั้นเลย อย่าเอาความเศร้ามาคิดในวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เราควรจะทำสิ่งใหม่ๆ จะดีกว่า”

ไปอ่านเนื้อเพลงกันดีกว่า เนื้อเพลง “น้องเอ๋ย”

น้ำตาที่ไหลหยดลงเปื้อนที่ข้างในไม่ว่านานสักเท่าไร
ไม่ยอมลบเลือนจากใจ ของเธอครั้งนั้น
วันคืนโหดร้ายที่ผ่านพ้นความวุ่นวาย ยังตอกย้ำในจิตใจ
ให้ส่วนลึกนั้นหวั่นไหว เมื่อคิดถึงทุกครั้ง

อย่ายอมให้อดีตกลับมาทำร้าย
อย่ายอมให้หัวใจไม่มีความหวัง
โอ้…น้องเอ๋ย อยากขอให้เธอช่วยฟัง
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เจ็บ
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เศร้า…เสียใจ
แล้วเธอนั้นยังจะยอมรึป่าว
หากวันนี้จะทำพรุ่งนี้ให้หมดความหมาย

วินาทีนี้ กำหนดวินาทีหน้า
ชั่วโมงที่เพิ่งผ่านมา
กำหนดชั่วโมงข้างหน้า เป็นอยู่อย่างนั้น

อย่ายอมให้อดีตกลับมาทำร้าย
อย่ายอมให้หัวใจไม่มีความหวัง
โอ้…เกลอ อยากขอให้เธอช่วยฟัง
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เจ็บ
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เศร้า…เสียใจ
แล้วเธอนั้นยังจะยอมรึป่าว
ถ้าวันนี้จะทำพรุ่งนี้ให้หมดความหมาย

หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เจ็บ
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เศร้า…เสียใจ
แล้วเธอนั้นยังจะยอมรึป่าว
ถ้าวันนี้จะทำพรุ่งนี้ให้หมดความหมาย
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เจ็บ
หากว่าเมื่อวานทำวันนี้เศร้า…ร้องไห้
แล้วเธอนั้นยังจะยอมรึป่าว
ให้วันนี้กำหนดพรุ่งนี้ให้ต้องเสียใจ

เอาเป็นว่าก็ขอฝากเพลงนี้ไว้ให้ฟังและคิดอะไรต่อด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณวีดีโอจาก youtube และเนื้อเพลงจาก Siamzone

10 อย่างที่นายห้องสมุดต้องทำให้ได้ภายในปี 2556

ไปดูหนังเรื่อง “ยอดมนุษย์เงินเดือน” แล้วเอาข้อคิดจากในหนังมาเล่าให้เพื่อนๆ ชาวห้องสมุดและบรรณารักษ์ได้อ่านครับ ประเด็นในหนังที่ผมชอบมากตอนหนึ่ง คือ เรื่องการวางแผนในอนาคต เราเคยตั้งความหวังอะไรกันบ้างหรือเปล่า สำหรับผมพอออกจากโรงหนังมาก็เริ่มคิด และเรียบเรียงออกมาสัก 10 ข้อแบบคร่าวๆ เหมือนกัน ลองอ่านกันดูนะ

10 อย่างที่นายห้องสมุดต้องทำให้ได้ภายในปี 2556
1. ต้องลองไปออกค่ายพัฒนาห้องสมุดกับเพื่อนๆ ให้ได้สักครั้งนึง
2. ต้องเขียนรีวิวหนังสือดีๆ ให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 เล่ม
3. ต้องไปเยี่ยมห้องสมุดอื่นๆ ให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 1 แห่ง
4. ต้องปรับปรุงบล็อก libraryhub ใหม่
5. จัดกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ เครือข่ายห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทยใน Facebook
6. จัดทำของที่ระลึกสำหรับเพื่อนๆ ที่รักในวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์
7. ต้นแบบอะไรใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทย สัก 2-3 ชิ้น
8. เขียนบทความหรือจัดทำหนังสือของตัวเองให้ได้สัก 1 เล่ม
9. บรรยายเกี่ยวกับเรื่องห้องสมุดให้ได้สัก 10 ครั้ง
10. เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ให้ได้อย่างน้อย 4 เรื่อง

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นเพียงสิ่งที่ผมต้องการจะทำในปี 2556 นะครับ
ไม่รู้ว่าจะสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน แต่บันทึกนี้ผมจะจำเอาไว้
และนำมาเล่าให้ฟังในปีหน้าว่าอะไรที่สำเร็จ อะไรที่ไม่สำเร็จ

แต่ถึงที่สุดแล้วก็อยากให้ทำได้สำเร็จทุกอย่างจริงๆ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ