คลิปวีดีโอ : ทำไมพวกเรายังต้องไปห้องสมุด (2021)

คลิปวีดีโอ : ทำไมพวกเรายังต้องไปห้องสมุด (2021)

วันนี้มาอัพเดทบล็อก Libraryhub บ้าง เดี๋ยวจะหาว่าหายไปนาน …

ก่อนเริ่มงานวันนี้ ผมเข้าไปหาคลิปวีดีโอดูใน Youtube ก็เจอคลิปนี้ “Why do we visit the library? (2021)” หรือแปลตรงตัว คือ “ทำไมพวกเรายังต้องไปห้องสมุด” ซึ่งจัดทำโดย หอสมุดแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) https://www.youtube.com/watch?v=pvwVRY6RaPQ

เราไปดูคลิปวีดีโอกันก่อนเลย

เป็นยังไงกันบ้างครับ

ในคลิปวีดีโอได้มีการถามย้ำว่า “ทำไมพวกเรายังต้องไปห้องสมุด”
ซึ่งเชื่อว่ามีคำตอบมากมายและแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกัน คือ

“New Worlds” “A Better Tomorrow” “Endless Possibilities”
“โลกใบใหม่” “สิ่งที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้” และ “ความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด”

นอกจากนี้เราได้เห็น Keyword ที่น่าสนใจอีกมากมาย
โดยห้องสมุดยุคใหม่ที่หลายคนนึกถึง คือ “Connection, Communication, Experience, Discovery, Creation, Growth”

และอีกสิ่งหนึ่งที่หอสมุดแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) นำเสนอนิยามของห้องสมุดคือ
“A Knowledge platform that connects the world” เราได้เห็นการทำงานที่เชื่อมโยงโลกของหนังสือ ภูมิปัญญา ความคิด จากอดีต ถึงปัจจุบัน และก้าวสู่อนาคต

เอาเป็นว่าก็ขอชื่นชมคลิปวีดีโอนี้และอยากส่งต่อให้เพื่อนๆ ได้ชมครับ

นายห้องสมุดชวนดูวีดีโอ Austin Central Library (ห้องสมุดระดับโลกอีกแห่ง)

นายห้องสมุดชวนดูวีดีโอ Austin Central Library (ห้องสมุดระดับโลกอีกแห่ง)

วันนี้เปิด Youtube เพื่อหาแรงบันดาลใจในการทำห้องสมุด ปรากฎว่าเจอวีดีโอนี้ “A Building Shaped by Light Austin Central Library” ซึ่งความน่าสนใจคือ เป็นภาพยนตร์สารคดีแบบสั้นที่ได้รางวัลที่ 3 ของ AIA Film Challenge 2019

อีกความน่าสนใจ คือ

ตัวห้องสมุดแห่งนี้ = 1 ใน 6 ห้องสมุดที่ได้รับรางวัล “AIA/ALA Library Building Awards 2018”
อ่านข่าวได้จาก https://library.austintexas.gov/press-release/austin-central-library-wins-library-2018-aiaala-library-building-award-461312

Read more

นายห้องสมุดขอแนะนำครูบรรณารักษ์ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

วันนี้มีเวลาไม่ค่อยมาก ผมจึงเลือกที่จะนั่งดูวีดีโอเพื่อผ่อนคลายบนรถตู้ในระหว่างการเดินทางกลับบ้าน บังเอิญเจอคลิปวีดีโอตัวนึงที่น่าสนใจมากเลยเลือกที่จะแนะนำให้เพื่อนๆ ชม (ขณะที่ผมเขียนบล็อกเรื่องนี้ ผมต้องออกตัวก่อนว่ากำลังนั่งบนรถตู้ เพราะฉะนั้นอาจมีพิมพ์ผิดบ้างต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย)

วีดีโอนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวงการศึกษานะครับ บรรณารักษ์หลายคนคงอยากถามผมว่ามันเกี่ยวอะไร ผมขอชี้แจงแล้วกันว่า บรรณารักษ์ในโรงเรียน หรือ ครูบรรณารักษ์อาจดูแล้วนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้ครับ

คลิปวีดีโอนี้ ชื่อว่า “การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21” ลองชมกันได้เลยครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=tE32HERiEs4[/youtube]

สรุปสาระที่ได้จากวีดีโอ
ความรู้ที่เด็กยุคใหม่ควรรู้ในศตวรรษที่ 21 แนวคิดของโลกยุคใหม่
– ความรู้ที่เกี่ยวกับโลก
– ความรู้ด้านการเงิน
– ความรู้ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี
– ความรู้ด้านสุขภาพ
– ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม


นอกจากนี้เด็กยุคใหม่ควรถูกปลูกฝังทักษะสำคัญอีก 3 เรื่อง
ได้แก่
1. ทักษะชีวิตและการทำงาน
– ความหยืดหยุ่นและการปรับตัว
– การคิดริเริ่มสร้างสรรค์
– ทักษะด้านสังคมและการข้ามวัฒนธรรม
– การเป็นผู้สร้างและรับผิดชอบ
– ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ


2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม

– ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม
– การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา
– การสื่อสารและความร่วมมือ


3. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี

– การใช้และประเมินสารสนเทศ
– วิเคราะห์และเลือกใช้สื่อได้อย่างเหมาะสม
– การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงสร้างพื้นฐาน 4 ด้านเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
1. มาตรฐานและการประเมินในยุคศตวรรษที่ 21
2. หลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับศตวรรษที่ 21
3. การพัฒนาครูในศตวรรษที่ 21 – ไม่ใช่แค่การอบรม
4. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้

ประโยคเด็ดที่นายแพทย์วิจารณ์ได้กล่าวไว้ในวีดีโอ คือ
“Teach Less, Learn More”
“เปลี่ยนเป้าหมายจาก ความรู้ ไปสู่ ทักษะ”

นอกจากนี้ในวีดีโอยังพูดถึงเรื่อง การเรียนโดยการปฏิบัติ หรือ Project Based Learning

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นสาระสำคัญที่ผมดึงมาจากวีดีโอนะครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ ผมแนะนำว่าต้องดูครับ ย้ำว่า ต้องดู

ห้องสมุดจะเพิ่มการบริการให้กับผู้ใช้กลุ่ม “ซอมบี้” ในปี 2017

เพื่อนๆ รู้จัก “ซอมบี้ (Zombie)” กันมั้ยครับ ที่ผมเขียนบล็อกเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ใช่ว่าผมอยากจะแนะนำเพลงโปรดของผมหรอกนะครับ แต่ “ซอมบี้” ที่ผมหมายถึง นั่นหมายความถึง “ศพเดินได้” นั่นเอง

ในช่วงแรกๆ เราคงจะจินตนาการถึงความน่ากลัวของ “ซอมบี้” ได้มากมาย หลังจากที่ได้ดูถาพยนตร์ เรื่อง “ผีชีวะ (Resident Evil)” หรือเกมส์ Resident Evil ที่ให้เรายิงปืนฆ่า “ซอมบี้” กัน

ในช่วงสองถึงสามปีนี้เราพบว่า “ซอมบี้” ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแล้ว เพราะ “ซอมบี้” เองออกมาปรากฎตัวในเกมส์ ชื่อ Plants vs. Zombies ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิวัติความน่ากลัวของ “ซอมบี้อย่างแท้จริง” เพราะจากเกมส์เราจะเห็นว่าดอกไม้หรือต้นไม้สามารถเอาชนะ “ซอมบี้” ได้ โหน่ากลัวกว่าอีก

เอาหล่ะครับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า เรื่องที่ผมจะนำมาเล่าในวันนี้จริงๆ แล้วก็ คือ
เรื่อง “ห้องสมุดจะเพิ่มการบริการให้กับผู้ใช้กลุ่มใหม่ “ซอมบี้” ในปี 2017″
ซึ่งเป็นวีดีโอที่จัดทำขึ้นโดย Rapid City Public Library

ซึ่งในวีดีโอได้กล่าวถึงการให้บริการของเจ้าหน้าที่ห้องสมุดกับผู้ใช้บริการที่เป็น “ซอมบี้”
(ซอมบี้ หมายถึง ศพเดินได้ และพูดได้แค่คำเดียว คือ Brain–)

เราไปดูวีดีโอนี้กันดีกว่า

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=5Md4ELD4tAA[/youtube]

จริงๆ แล้ว “ซอมบี้” มีความน่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ brainnnnn “ซอมบี้จะกินแต่สมอง” ซึ่งในการประชุม conference ของวงการห้องสมุดครั้งหนึ่งก็มีการพูดแบบติดตลกว่า ผู้ใช้บริการที่เข้ามาห้องสมุดก็เพื่อมาหาความรู้ เหมือนการกินสมองของ “ซอมบี้” นั่นแหละ และนี่เองเป็นที่มาของเรื่องในวันนี้

สมมุติฐานของการทำคลิปวีดีโอนี้
1. อาจจะต้องการโปรโมต pathfinder หรือ SubjectGuide หัวข้อเรื่องของ “ซอมบี้” ก็ได้ เพราะมีทิ้งท้ายเรื่องนี้ให้ด้วยที่ http://zombiespathfinder.weebly.com/

2. อาจจะเป็นการสังเกตเห็นพฤติกรรมของคนบางลักษณะที่วันๆ เล่นคอมหรือนอนดึกดื่น เวลามาเข้าใช้บริการก็จะมีหน้าตาหมองๆ คล่ำๆ และบางทีอาจจะพูดไม่รู้เรื่องเหมือน “ซอมบี้” ซึ่งในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการ เราก็ต้องให้บริการถึงที่สุดเช่นกัน


เอาเป็นว่าที่เขียนมานี้ก็ไม่ได้จะล้อเลียนหรอกนะครับว่าจะมีผีมาใช้ห้องสมุดจริงๆ
ที่เอามาลงให้อ่านเพราะอยากให้เห็นเทคนิคการนำเสนอของห้องสมุดในต่างประเทศ
ว่ามีไอเดียที่เฉียบขาด และนำเสนอได้น่าสนใจพอสมควร

เว็บไซต์ของ Rapid City Public Library คือ http://www.rcgov.org/Library/
และ Youtube Channel ของ Rapid City Public Library คือ http://www.youtube.com/user/rapidcitylibrary

ตัวแทนคนในยุคดิจิทัล อยากบอกสิ่งที่ต้องการจากห้องสมุด

ภาวะน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้หลายๆ คนเครียดและหลายๆ คนก็ประสบปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมที่ห้องสมุดที่ทำงานหรือท่วมที่พักอาศัย หรือไม่ได้ท่วมแต่หาของกินลำบาก

เอาเป็นว่าผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่านผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้นะครับ

วันนี้ผมเองก็ได้รับอีเมล์จากเพื่อนชาวต่างชาติคนนึง เขาถามถึงปัญหาน้ำท่วมในไทย
ซึ่งรวมถึงถามเกี่ยวกับห้องสมุดที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมด้วย

เพื่อนผมเลยส่งคลิปวีดีโอนี้มาให้ดูแบบขำขำคลายเครียด
ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอที่พูดถึง “ในยุคดิจิทัลแบบนี้คนต้องการอะไรจากห้องสมุด”

ไปดูคลิปวีดีโอกันได้เลยครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=7_zzPBbXjWs[/youtube]

คลิปวีดีโอนี้เป็นคลิปที่ถูกเปิดในงาน VALA 2010 ภายในคลิปวีดีโอนี้เพื่อนๆ จะพบกับสาวน้อย Abbey (เด็กอายุ 3 ขวบ) ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของเด็กที่เกิดในยุคดิจิทัล เธอจะมาพูดให้ฟังว่าเธอต้องการอะไรจากห้องสมุดของเธอ

สรุปสิ่งที่คนในยุคดิจิทัลอยากได้จากห้องสมุด
– ห้องสมุดออนไลน์
– สื่อมัลติมีเดียมากๆ
– บริการที่รวดเร็วและง่าย
– อยากแชร์สิ่งที่ต้องการให้คนอื่นได้รู้ด้วย (อยากบอกต่อ)
– บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ (iphone)
– อ่านหนังสือผ่าน Ebook reader
– Mash up content
– Sematic search
– ข้อมูลแบบ real time
– เทคโนโลยี AR (Augmented Reality)
– ระบบ tagging
– ระบบโต้ตอบด้วย Touch screen

เอาหล่ะครับ ได้ดูแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
สำหรับผมต้องขอบอกก่อนว่าแอบอึ้งมากๆ ที่เด็ก 3 ขวบสามารถพูดได้ขนาดนี้
จริงๆ แล้วผมก็คิดว่าคงมีคนเขียนบทให้เด็กอ่านแน่ๆ เพราะไม่งั้นน้องเขาคงพูดแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ
แต่ก็เอาเถอะครับ อย่างน้อยที่น้องเขาพูดก็เป็นสิ่งที่คนในยุคดิจิทัลต้องการจริงๆ

เอาเป็นว่าก็ขอฝากให้ดูแล้วกันครับ

คลิปวีดีโอ : Google ก็ดีอยู่แล้ว แต่ห้องสมุดดีกว่านะ

วันนี้บังเอิญไปเจอคลิปวีดีโอตัวนึงมา เห็นชื่อเรื่องก็ตกใจเล็กน้อย “Google is good. Libraries are better.” แต่พอดูๆ ไปก็เข้าใจแล้วว่าห้องสมุดดีกว่ากูเกิลยังไง เลยขอแนะนำคลิปวีดีโอนี้ให้เพื่อนๆ ดู

ไปดูวีดีโอกันก่อนเลยดีกว่าครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ พบคำตอบหรือยังว่าห้องสมุดดีกว่ากูเกิลยังไง

อธิบายง่ายๆ คือ กูเกิลเป็นเพียงแค่หุ่นยนต์ (robot) ในการสืบค้น
มันสามารถสืบค้นข้อมูลได้มากมาย แต่มันไม่สามารถตอบคำถามเราได้ชัดเจน
ส่วนใหญ่จะเน้นไปทาง “คำสำคัญ หรือ Keyword” มากกว่า

แต่ถ้าเราตั้งเป็นประโยคคำถามไปตรงๆ กูเกิลก็คงตอบเราไม่ได้เช่นกัน
กูเกิลเป็นเพียงหุ่นยนต์ ไม่ใช่คน ดังนั้นเรื่องของความรู้สึก กูเกิลก็คงตอบเราไม่ได้ด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างจากในวีดีโอ

“Do you have any books on the moon” คุณมีหนังสือที่เกี่ยวกับดวงจันทร์หรือปล่าว
ถาม google – google แสดงผลการสืบค้นอะไรออกมาก็ไม่รู้เยอะแยะ
ถามห้องสมุด – คุณก็เดินไปที่ชั้นหนังสือในกลุ่มดาราศาสตร์ได้เลย

“Can you help me find out about my grandmother?” คุณช่วยฉันตาหาย่าของฉันได้มั้ย

ถาม google – google แสดงผลการสืบค้นอะไรออกมาก็ไม่รู้เยอะแยะ
ถามห้องสมุด – โอเค งั้นเราไปช่วยกันตามหาท่านกันดีกว่า

เป็นไงบ้างครับ นี่ก็เป็นตัวอย่างเล็ก ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า ระหว่าง google กับ ห้องสมุด ใครเหนือกว่ากัน
เอาเป็นว่าวันนี้ก็ฝากเอาไว้ให้คิดเล่นๆ กันเท่านี้ก่อนนะครับ

คลิปวีดีโอคนต่อแถวแย่งกันเข้าห้องสมุดประชาชนเป็นไปได้หรือนี่

วันนี้วันเสาร์ผมขอนำคลิปวีดีโอที่เกี่ยวกับวงการห้องสมุดมาลงให้เพื่อนๆ ดูแล้วกัน
เพราะเข้าใจว่าหลายคนคงไม่อยากจะอ่านอะไรยาวๆ คลิปวีดีโอนี้อยากให้ดูมากๆ

วีดีโอที่ผมนำมาลงนี้เกี่ยวกับการเปิดห้องสมุดประชาชนแห่งใหม่ที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (เมื่อวานที่ผมเขียนถึงนั่นแหละ “ห้องสมุดประชาชนที่เปิดใหม่ในสิงคโปร์ 2011“)

ห้องสมุดประชาชนที่เปิดใหม่นี้ คือ Serangoon Public Library ซึ่งเปิดบนห้าง Nex Mall
ห้องสมุดแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีมุม Digital Media ซึ่งเน้นให้บริการเกมส์เพื่อการศึกษา

ห้องสมุดแห่งนี้เพิ่งเปิดในเดือนมีนาคม 2011 เราไปดูวันแรกของการเปิดห้องสมุดดีกว่า

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=6rTBn2NotCU[/youtube]

สังเกตเห็นอะไรในวีดีโอกันมั้ยครับ
นี่ไม่ใช่งานเปิดตัวสินค้าของ apple หรือเปิดตัว game เครื่องใหม่
แต่ดูคนเข้าแถวสิครับว่าเยอะแค่ไหน นั่นคือคนที่มารอเข้าชมห้องสมุดใหม่นะครับ
แล้วทันทีที่ห้องสมุดเปิดให้เข้าชม คนต่างวิ่งเข้าไปในห้องสมุดหยิบหนังสือกันแบบว่า
เหมือนกับว่าเข้ากำลังจะแย่งซื้อสินค้ากันเลยทีเดียว

จุดเด่นอีกจุดนึงของที่นี่คือมุม Digital media ซึ่งเน้นเกมส์เพื่อการศึกษา เรามาดูกันดีกว่า

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=Lf8DKcQT6Wo&NR=1[/youtube]

เห็นวีดีโอนี้แล้วมานั่งคิดถึงห้องสมุดประชาชนในเมืองไทย
ถ้าวันเปิดห้องสมุดมีคนมาต่อแถว แย่งกันเข้าแบบนี้ก็คงดีไม่น้อย

เอาเป็นว่าก็ขอยกเอามาให้ดูเท่านี้ก่อนนะครับ

ปล. ผมขอไปนอนฝันก่อนนะครับ เพื่อจะได้เหนห้องสมุดในเมืองไทยเป็นแบบนี้บ้าง

สำหรับเรื่องห้องสมุดประชาชนในสิงคโปร์เพื่อนๆ อ่านได้ที่ ห้องสมุดประชาชนที่เปิดใหม่ในสิงคโปร์ 2011

วีดีโอเสวนาก้าวทันสื่อออนไลน์ ในงานสัปดาห์ห้องสมุด ม.รังสิต

ในที่สุดคลิปวีดีโอที่ผมบรรยายเรื่องเสวนาก้าวทันสื่อออนไลน์ ในงานสัปดาห์ห้องสมุด ม.รังสิต ก็ออกมาให้ได้รับชม
วันนี้เลยขอนำมาให้เพื่อนๆ บรรณารักษ์ที่ไม่ได้มาร่วมงานได้ชมกัน

งานเสวนานี้มีวิทยากร คือ คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ, คุณฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ และผมเอง
ซึ่งดำเนินรายการโดย อาจารย์บุญญาณิศา อ.ตันติพิบูลย์

วันนั้นเสวนาร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ในคลิปวีดีโอนี้ขอสรุปแต่ตอนไฮไลท์มาให้ชม 18 นาที
ซึ่งผมได้ดูเบื้องต้นแล้วเป็นช่วงที่เด่นๆ และมีไอเดียที่น่าสนใจดีครับ

ไปชมคลิปวีดีโอนี้กัน

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=Qe_4qWGUFsk[/youtube]

เป็นไงกันบ้างครับ ยังไงก็ติชมกันได้ ด้านล่างนี้เลยนะครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับงานนี้ผมสรุปไว้ที่เก็บตกงานสัปดาห์ห้องสมุด ม.รังสิต

ปล. ขอบคุณ สำนักหอสมุด ม.รังสิต ที่จัดทำคลิปนี้มาเผยแพร่

แง่คิดจากคลิปวีดีโอสวยใสไร้สมอง ณ ห้องสมุด

คลิปวีดีโอที่ผมจะนำมาให้ดูวันนี้เป็นคลิปวีดีโอโฆษณาสินค้าอย่างหนึ่ง อยากให้เพื่อนๆ ลองเดากันดูว่าสินค้าอะไร
แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่สินค้านั้นหรอกครับ มันอยู่ที่โฆษณาตัวนี้ใช้ห้องสมุดเป็นฉาก และมีแง่คิดขำๆ ซ่อนอยู่

อยากให้ดูคลิปวีดีโอก่อน แล้วค่อยมาอ่านสรุปแล้วกัน

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=0eN0b5qdmrA[/youtube]

เรื่องย่อๆ ของโฆษณาตัวนี้ “มีผู้หญิงหน้าตาดีเข้าใจผิดเดินเข้ามาสั่งอาหารเสียงดัง เจ้าหน้าที่คนนึงหันไปบอกว่าที่นี่ห้องสมุดนะ ผู้หญิงงงๆ แล้วสั่งอาหารกลับไปใหม่ด้วยเสียงที่เบาลง”

จริงๆ แล้วอยากให้มองสองแง่ว่า
1. ผู้หญิงคนสวยอาจจะไม่รู้เรื่องจริงๆ ว่าห้องสมุดไม่มีอาหารขาย (แอบโง่)
2. ผู้หญิงคนสวยอาจจะปล่อยมุขเพื่อแก้สถานการณ์หน้าแตก (รู้จักแก้ปัญหา)

โฆษณาตัวนี้มีประโยคเด็ดอยู่ตรงที่ “Beauty is nothing without brains”
มันทำให้ผมนึกถึงคำที่หลายๆ คนชอบพูดว่า “สวยใสแต่ไร้สมอง”

ในโฆษณาและสำนวนอาจจะดูเหมือนกับว่าเป็นการพูดถึงผู้หญิงอย่างเดียว (ผมไม่ได้เจตนาจะว่าผู้หญิงนะครับ)
แต่ผมอยากจะพูดแบบกลางๆ ว่า ไม่ว่าจะหญิงหรือชายหากคุณมีเพียงแค่หน้าตาดี รูปร่างดี เพียงอย่างเดียว
ก็คงใช้ชีวิตในสังคม ประกอบอาชีพ หรือเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ได้ยาก หากปราศจากความรู้
ดังนั้นความรู้ ความคิด ไหวพริบต่างๆ จะช่วยเสริมให้คนเราสามารถดำรงชีวิตได้อย่างสบายมากขึ้น

และหนทางนึงที่จะช่วยให้เรามีสมองหรือมีความคิดดีๆ ได้ก็มาจากการอ่านมากๆ การดูมากๆ การคิดมากๆ การฝึกมากๆ
ซึ่งผมว่าห้องสมุดก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยสร้างประสบการณ์และความรู้ต่างๆ ได้
นะครับ

เอาเป็นว่า ผมก็ขอฝากไว้ “สวยหรือหล่อเพียงอย่างเดียวคงกินไม่ได้ ต้องอาศัยความรู้ถึงจะช่วยให้เอาตัวรอดในสังคมได้”

หวังว่าเพื่อนๆ คงรู้แล้วแหละว่าสินค้าตัวนี้คืออะไร ยังไงก็ฝากเอาไปดูขำๆ นะครับ
คิดเห็นยังไงก็แสดงความคิดเห็นมาได้ในกรอบด้านล่างแล้วกัน

โฆษณาการอ่านทำให้เกิดสติปัญญา (Ad. by Posttoday)

โฆษณาที่ผมนำมาให้ดูในวันนี้มาจากโฆษณาของหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ที่นำเสนอเรื่องราวและสนับสนุนให้คนไทยสนใจเรื่องการอ่าน บอกตามตรงเห็นโฆษณานี้ครั้งแรกแล้วโดนใจมากๆ และคิดว่านี่คือการนำเสนอที่ดีจริงๆ

หลายคนคงเห็นโฆษณาตัวนี้ได้มาสักระยะนึงแล้ว เอาเป็นว่าไปชมคลิปโฆษณาตัวนี้กันอีกสักรอบดีกว่า

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=Titse-luroU[/youtube]

จากคลิปวีดีโอโฆษณาตัวนี้เพื่อนๆ ได้แง่คิดอะไรกันบ้าง เห็นข้อดีของการอ่านหรือยัง

ขอเสริมจากคลิปวีดีโอโฆษณาตัวนี้ เรื่องการอ่านจริงๆ แล้ว ไม่ได้เจาะจงแค่ “อ่านหนังสือ” เท่านั้น
เรายังเรียนรู้จากการอ่านสื่ออื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น อ่านบทความในอินเทอร์เน็ต อ่านจดหมายข่าว ฯลฯ
นอกจากนี้การรับความรู้หรือการทำให้มีสติปัญญา อาจจะมีหนทางมาจากการรับความรู้แบบอื่นๆ ด้วย เช่น การดู การฟัง การพูดคุย ฯลฯ

สิ่งสำคัญของการเกิดสติปัญญา มาจากการเลือกที่จะรับความรู้ที่ดี และต้องมีสติ คิด และวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ด้วย
ไม่ใช่แค่อ่านออก อ่านได้ แต่เราต้องอ่านแล้วเข้าใจ รู้ความหมาย และรู้ว่าสื่อต้องการบอกอะไร

“อย่าสักแต่ว่าอ่านเพียงแค่อ่านออก แต่จงอ่านแล้วทำความเข้าใจและคิดตามด้วย”
อย่างนี้สิจึงจะเรียกว่าการอ่านทำให้เกิดสติปัญญา

เอาเป็นว่าผมก็ขอฝากเรื่องการอ่านแบบมีสติไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ