นายห้องสมุดพาชมห้องสมุดในสิงค์โปร์ (ภายใน Bishan Public Public)

นายห้องสมุดพาชมห้องสมุดในสิงค์โปร์ (ภายใน Bishan Public Public)

ดองอัลบั้มนี้มานานมาก จริงๆ ได้ภาพชุดนี้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 แต่เพิ่งจะนำมาลงให้เพื่อนๆ ชม
จริงๆ ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ “Bishan Public Library” ไปเมื่อปี 2012 ลองอ่านย้อนหลังที่
บรรณารักษ์พาเที่ยวห้องสมุดในสิงคโปร์ : Bishan Public Library

Read more

นายห้องสมุดพาเที่ยวอุทยานการเรียนรู้ระยอง (RK park)

เพิ่งจะเปิดปีใหม่มาได้ไม่ถึงอาทิตย์ วันนี้นายห้องสมุดเลยขออวดห้องสมุดใหม่ให้เพื่อนๆ วงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทยได้รับรู้กันสักหน่อย ที่แห่งนั่นคือ “อุทยานการเรียนรู้ระยอง” หรือ “Rayong Knowledge Park” หรือ “RK park” นั่นเอง

ปล. ที่ต้องอวดเพราะที่นี่เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ผมได้ร่วมทำงานด้วย (งานจาก TK park)

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งนี้

ชื่อห้องสมุดภาษาไทย : อุทยานการเรียนรู้ระยอง
ชื่อห้องสมุดภาษาอังกฤษ : Rayong Knowledge Park
ที่อยู่ : โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง เลขที่ 222 หมู่ 2 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง

ห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน คือ
– องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง
– บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)
– สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park)

อุทยานการเรียนรู้เพิ่งจะเปิดทดลองใช้งานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาครับ ซึ่งในช่วงทดลองการใช้งานนี้ เพื่อนยังไม่สามารถยืมหนังสือออกจากห้องสมุดได้นะครับ ให้บริการอ่านภายในห้องสมุดก่อน

วันและเวลาเปิดทำการในช่วงทดลองการใช้งานนี้ คือ
วันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.30 น.
และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 15.00 น.
ปิดให้บริการวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

การจัดหนังสือภายในห้องสมุดแห่งนี้ใช้การจัดหมวดหมู่แบบดิวอี้ครับ
ป้ายติดสันหนังสือจะมีแถบสีเพื่อแยกประเภทของหนังสือและสื่อด้วย

เทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของห้องสมุดแห่งนี้ คือ การนำ RFID มาใช้ในห้องสมุด ซึ่งได้แก่
– การใช้เข้าออกห้องสมุด
– การยืมคืนหนังสือด้วยตนเอง
– การใช้เล่นอินเทอร์เน็ต เกมส์ และสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์

พื้นที่ของอุทยานการเรียนรู้แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 ประกอบด้วย พื้นที่ของห้องสมุดเด็ก (Kid’s Room)
ชั้นที่ 2 ประกอบด้วย ห้องสมุดมีชีวิต นิทรรศการน้ำ มุมให้บริการอินเทอร์เน็ต มุมสร้างสรรค์ทางดนตรี ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องเงียบ ห้องประชุมกลุ่มย่อย มุมความรู้อาเซียน

เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอพาชมเท่านี้ก่อน ไว้วันหลังถ้าห้องสมุดแห่งนี้มีกิจกรรม ผมจะนำมารายงานให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีกที สำหรับวันนี้ขอปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศภายในอุทยานการเรียนรู้ระยองก็แล้วกันครับ

ภาพบรรยากาศภายในอุทยานการเรียนรู้ระยองทั้งหมด

[nggallery id=63]

บรรณารักษ์พาเที่ยวห้องสมุดในสิงคโปร์ : Bishan Public Library

วันนี้นายห้องสมุดพาเที่ยวขอพาเพื่อนๆ ไปชมห้องสมุดในต่างประเทศบ้าง ซึ่งห้องสมุดที่ผมจะพาไปชมวันนี้อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ห้องสมุดแห่งนี้โดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมมากๆ และห้องสมุดแห่งนี้ คือ “Bishan Public Library

ข้อมูลทั่วไปของห้องสมุดแห่งนี้
ห้องสมุด : Bishan Public Library
ที่อยู่ : 5 Bishan Place, #01-01, Singapore 579841
เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : สถานีรถไฟฟ้า Bishan

อย่างที่เกริ่นไว้แหละครับว่าห้องสมุดนี้มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น อาคารห้องสมุดเป็นเอกลักษณ์มากๆ แถมเป็นอาคารเอกเทศ (ห้องสมุดประชาชนของประเทศสิงคโปร์หลายแห่งมักอยู่ในห้างสรรพสินค้าและใช้พื้นที่ของห้างสรรพสินค้า)

อาคารห้องสมุดประชาชน Bishan มี 5 ชั้น ประกอบด้วย
ชั้นใต้ดิน – ห้องสมุดสำหรับเด็กและเยาวชน – หนังสือเด็ก
ชั้น 1 เป็นโซนวารสาร นิตยสาร และเคาน์เตอร์บริการยืมคืน
ชั้น 2 มุมหนังสือนวนิยาย บันเทิงคดี
ชั้น 3 มุมหนังสือสารคดี และหนังสือทั่วไป และหนังสือที่เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์
ชั้น 4 มุมหนังสือเยาวชน และโซนมัลติมีเดีย

จุดเด่นของห้องสมุดแห่งนี้ที่ผมประทับใจ คือ
– มุมอ่านหนังสือหรือช่องทำงานส่วนตัว (ช่องที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารมีลักษณะเป็นช่องๆ กระจกสี) ซึ่งที่นี่เรียกว่า pods

– พื้นที่โซนเด็กที่แยกออกจากโซนอื่นๆ ทำให้เด็กๆ สามารถเล่นและเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
– การให้บริการยืมคืนหนังสือด้วยตัวเองผ่านตู้ Kiosk หน้าห้องสมุด (บริการ 24 ชั่วโมงจริงๆ)

– บริการบรรณารักษ์ตอบคำถาม แม้ว่าเคาน์เตอร์บรรณารักษ์จะอยู่ที่ชั้น 1 แต่ในชั้นอื่นๆ ก็มีบริการถามบรรณารักษ์เช่นกัน โดยสามารถโทรภายในลงมาถามก็ได้ หรือจะถามผ่านระบบ FAQ ก็ได้

เอาเป็นว่าก็เป็นห้องสมุดที่ให้แง่คิดและไอเดียกับผมอีกแห่งหนึ่ง
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้เพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมกันนะครับ

ชมภาพบรรยากาศที่ผมถ่ายมาได้ที่นี่

[nggallery id=57]

นายห้องสมุดพาชม พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน

นานๆ ทีจะมีโอกาสออกไปดูงานนอกสถานที่ วันนี้ผมมีอีกสถานที่นึงที่น่าสนใจมาฝาก
นั่นก็คือ “พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน” หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า “The Jim Thompson House

สถานที่นี้มีความน่าสนใจหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น…
– เรือนไทยที่มีการผสมผสานของชีวิตความเป็นอยู่อย่างคนตะวันตก
– เรื่องราวของสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในบ้านหลังนี้
– ความเป็นมาและเรื่องราวความเป็นอยู่ของเจ้าของบ้านหลังนี้ (คุณจิม)
ฯลฯ


เรื่องราวชีวประวัติของคุณจิมทอมป์สัน (เจมส์ แฮริสัน วิลสัน ทอมป์สัน) เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ
ตั้งแต่เรื่องของการก่อสร้างเรือนไทยหลังนี้ การทำงานของคุณจิม รวมถึงเรื่องของวงการอุตสาหกรรมผ้า
เรื่องที่คุณจิมหายสาบสูญนี่ก็เป็นอีกประเด็นที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้

การเดินในบ้านจิม (พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน) ครั้งนี้
จากเรื่องข้อมูลต่างๆ และรูปแบบของการจัดเรือนไทยทำให้ผมขนลุกอยู่ตลอดเวลา
(ที่ขนลุกนี้ไม่ได้หมายความว่าเพราะเรื่องไม่ดีนะครับ แต่เป็นเรื่องรายละเอียดในบ้านหลังนี้ต่างหาก)


การเข้าชมบ้านหลังนี้ต้องเสียค่าเข้าชมด้วยนะครับ

ผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาท ครับ
ซึ่งการเข้าชมจะมีไกด์เดินพานำชมและเล่าเรื่องราวต่างๆ ด้วยนะครับ

ภายในเรือนไทยหลัก (ตัวบ้านหลัก) ไม่ให้ถ่ายภาพนะครับ แต่เพื่อนๆ สามารถถ่ายภาพจากนอกอาคารเข้ามาในตัวบ้านได้
สาเหตุก็เพราะว่า ถ้าเราเข้าไปถ่ายภาพอย่างนี้เราจะไม่ตั้งใจฟังเรื่องราวจากไกด์ไงครับ

เอาเป็นว่าถ้าใครพอมีเวลาว่างและสะดวกผมก็ขอแนะนำให้เป็นสถานที่ที่เรียนรู้ด้านวัฒนธรรมที่ดีแห่งหนึ่งนะครับ
การเดินทางบอกตรงๆ ว่านั่งรถไฟฟ้าไปก็สะดวกครับ ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติและเดินอีกนิดก็ถึงและ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของ “พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน
สามารถชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.jimthompsonhouse.com/thai/index.asp

ชมภาพบรรยากาศใน “พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน” ทั้งหมด

[nggallery id=53]

พาชมอาคารใหม่ของหอสมุดแห่งชาติฉบับนายบรรณารักษ์พาเที่ยว

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเที่ยวและเยี่ยมชมอาคารใหม่ของหอสมุดแห่งชาติมา
จึงอยากแชร์ความคิดเห็นและนำเสนอรูปภาพภายในอาคารใหม่ของหอสมุดแห่งชาติให้เพื่อนๆ ได้เห็น

เพื่อนๆ หลายๆ คนคงทราบว่าเมื่อไม่นานมานี้หอสมุดแห่งชาติได้มีการเปิดตัวอาคารใหม่ที่ได้จัดสร้างจนเสร็จและถยอยย้ายของ (หนังสือวิทยานิพนธ์ รายงานวิจัย หนังสือหายาก เอกสารโบราณ) มาไว้ที่นี่จนเสร็จ

การเดินทางมาที่นี่ผมยังคงใช้รถเมล์โดยสารสาย 9 เช่นเคย (วงเวียนใหญ่ – หน้าหอสมุดแห่งชาติ)

หอสมุดแห่งชาติด้านหน้าเมื่อเรามองเขาไป เราก็ยังคงเห็นอาคารเดิมอ่ะครับ (อาคารใหม่อยู่หลังอาคารเก่า)
เมื่อผ่านประตู รปภ. ก่อนเข้าไปในอาคารเก่า ผมก็สะดุดกับป้ายที่อยู่ที่โต๊ะของพี่ รปภ. มีข้อความสรุปง่ายๆ ว่า

หอสมุดแห่งชาติเป็นสถานที่ราชการ ไม่อนุญาตให้คนที่แต่งกายไม่สุภาพเข้ามาใช้บริการ……” (อันนี้เดี๋ยวผมขอยกยอดไว้เขียนวิจารณ์คราวหน้านะ)

เข้ามาดูที่ตึกใหม่กันดีกว่า หลักๆ แล้วแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง

ชั้นที่ 1 บรรณารักษ์ในส่วนงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ (งาน ISBN, CIP) + ห้องสมุดวชิรญาณ พื้นที่ลานเอนกประสงค์
ชั้นที่ 2 ห้องวิทยานิพนธ์และงานวิจัย
ชั้นที่ 3 ห้องบริการหนังสือหายาก
ชั้นที่ 4 ห้องจัดเก็บเอกสารโบราณ ตู้พระธรรม

หลักๆ ในวันนั้นผมลองเดินตรวจสอบจากชั้น 1 (ลานอเนกประสงค์) และ ชั้น 2 นะครับ (ชั้นอื่นๆ ในวันเสาร์อาทิตย์ไม่เปิดบริการอ่ะครับ)

การเดินทางเข้าไปที่อาคารใหม่ของหอสมุดแห่งชาติมีหลายวิธีครับ เช่น
– เดินอ้อมอาคารเดิมไปทางห้องสมุดดนตรี
– เดินอ้อมอาคารเดิมไปทางหอจดหมายเหตุ
– ทางเชื่อมจากอาคารเดิม ชั้น 1
– ทางเชื่อมจากอาคารเดิม ชั้น 2

ชั้น 1 วันอาทิตย์นี่แบบว่าอย่างเงียบเลย อาจเพราะว่าปิดไฟในลานอเนกประสงค์จึงทำให้มีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะแก่การนั่งเล่นละมั้ง เดินอยู่คนเดียวแบบว่าน่ากลัวมากๆ เลย แม้ว่าจะเป็นอาคารใหม่ก็เถอะแต่ดูเงียบมากๆ

ชั้น 2 เป็นห้องวิทยานิพนธ์และงานวิจัย แต่ถ้าเพื่อนๆ ต้องการจะค้นวิทยานิพนธ์ เพื่อนๆ ก็ควรปฏิบัติดังนี้

“ค้นคว้าวิทยานิพนธ์และรายงานวิจัย โปรดค้นข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือชั้น 2 อาคารเดิม และจดเลขหมู่หนังสือหรือรหัสเลขและปีพ.ศ. ก่อนเข้าใช้บริการชั้น 2 อาคารใหม่”

ข้อความที่ผมนำมาลงนี้เป็นข้อความที่มาจากคำแนะนำที่ทางหอสมุดแห่งชาตินำมาติดไว้ที่ชั้น 1 และหน้าประตูห้องวิทยานิพนธ์และงานวิจัยของอาคารใหม่ด้วย

ไม่ต้องแปลกใจครับ ว่าเพราะอะไร เอาเป็นว่าลองดูรูปนี้ครับ แล้วจะเข้าใจ

(ตึกใหม่แต่ระบบไอทียังไม่พร้อมครับ)

ภายในห้องวิทยานิพนธ์เข้าไปแล้วบรรยากาศดีกว่าอาคารเดิมเยอะมาก โต๊ะเก้าอี้เยอะมากๆ เลย ณ เวลาที่ผมเข้าไปนี้มีผู้ใช้บริการ 3 คน บวกบรรณารักษ์อีก 2 คน สรุปว่าห้องนั้นมีแค่ 6 คน (รวมผมด้วย) ห้องใหญ่บรรยากาศดี จริงๆ อยากให้มีการใช้เยอะๆ นะ จะได้คุ้มค่าไฟหน่อย แต่คงต้องค่อยเป็นค่อยไปอ่ะครับ

การใช้บริการห้องวิทยานิพนธ์และงานวิจัยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. สืบค้นวิทยานิพนธ์ที่ต้องการ (ที่อาคารใหม่นี้จะเก็บวิทยานิพนธ์ตั้งแต่ปี 2547 ขึ้นมาจนถึงปัจจุบันเท่านั้น หากต้องการฉบับเก่ากว่านี้ต้องไปที่หอสมุดแห่งชาติ เขตลาดกะบัง เฉลิมพระเกียรติ)
2. กรอกแบบฟอร์มขอใช้บริการ (ใส่ชื่อ-นามสกุลผู้ที่ขอยืม, เลขหมู่และปีของหนังสือ)
3. รอบรรณารักษ์ไปหยิบ
4. แลกบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ไว้ที่เคาน์เตอร์
5. นำไปใช้ได้เลย
6. นำมาคืนที่เคาน์เตอร์เพื่อแลกบัตรคืน

หนังสือวิทยานิพนธ์ที่จัดเก็บที่นี่มีการลงเลขหมู่ในลักษณะนี้
ตัวอย่าง 054/51 = หนังสือวิทยานิพนธ์ปี 2551 เล่มที่ 54

เอาหล่ะครับวันนี้ก็ขอ Review เท่านี้ก่อนแล้วกันครับ เนื่องจากเวลามีจำกัดมาก
วันหลังจะกลับมา Review แบบละเอียดอีกทีนึงแล้วกัน เอาเป็นว่าก็ขอชื่นชมในส่วนดีและขอติเพื่อปรับปรุงในส่วนที่ต้องเสริม

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาคารใหม่ของหอสมุดแห่งชาติ

“เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงนามอนุมัติ ให้ก่อสร้างอาคารใหม่หอสมุดแห่งชาติด้วยงบประมาณ จำนวน 438,000,000 บาท (สี่ร้อยสามสิบแปดล้านบาท) และวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 2 กันยายน พุทธศักราช 2552 และเปิดให้ใช้บริเวณอาคารใหม่ในวันที่ 3 ตุลาคม 2554”

ชมภาพบรรยากาศอาคารใหม่ของหอสมุดแห่งชาติทั้งหมด

[nggallery id=51]

นายบรรณารักษ์พาเที่ยวห้องสมุดการรถไฟฯ หัวหิน

ไปเที่ยวหัวหินกันมั้ยๆๆๆๆ ไหนๆ ก็มีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดทั้งที ก็ขอแวะห้องสมุดแถวๆ นั้นกันสักหน่อย
ห้องสมุดแห่งหนึ่งที่น่าสนใจของหัวหินและอยู่ใกล้จุดที่คนชอบไปถ่ายรูป คือ ห้องสมุดการรถไฟฯ หัวหิน


ห้องสมุดการรถไฟฯ หัวหิน แค่ชื่อเพื่อนๆ ก็คงเดาได้ว่าหน้าตาของห้องสมุดมันต้องเป็นห้องสมุดที่อยู่บนรถไฟแน่ๆ
อ่ะ ถูกต้องครับ “ห้องสมุดที่อยู่บนรถไฟ” และที่สำคัญมันอยู่ที่ “หัวหิน” และตั้งอยู่ใกล้ๆ “สถานีรถไฟหัวหิน”

ห้องสมุดแห่งนี้เป็นห้องสมุดการรถไฟแห่งที่ 3 ของประเทศนะครับ เปิดให้บริการในวันที่ 26 กันยายน 2552
โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด

ความคิดริเริ่มในการเปิดห้องสมุดแห่งนี้เกิดจากการรถไฟแห่งประเทศไทยมีแนวคิดที่จะนำตู้รถไฟเก่ามาปรับปรุงให้เป็นห้องสมุดรถไฟ เพื่อที่จะขยายการบริการด้านการศึกษาค้นคว้าและเป็นแหล่งเรียนรู้แก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และนักท่องเที่ยว นั่นเอง

ห้องสมุดการรถไฟฯ หัวหิน ได้รับความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานในการพัฒนาและปรับปรุง ได้แก่
– การรถไฟแห่งประเทศไทย นำรถไฟเก่ามาปรับปรุงใหม่
– กศน ดูแลในส่วนการจัดการสื่อและการให้บริการห้องสมุด
– จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บริจาคเงินเพื่อตกแต่งภายใน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องสมุด
– เทศบาลเมืองหัวหิน ดูแลเรื่องการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านนอกห้องสมุด และสนับสนุนอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง


ภายในภาพรวมยังคงมีกลิ่นความเป็นรถไฟอยู่ด้วย โดยเฉพาะที่นั่งอ่านหนังสือยังคงใช้เก้าอี้ที่ใช้ในตู้รถไฟปรับอากาศ (คิดถึงภาพเก้าอี้นวมในรถไฟได้เลย) แถมด้วยเฟอร์นิเจอร์บางอย่างก็ยังคงใช้อุปกรณ์ที่มาจากตู้รถไฟเดิมด้วย


การจัดการเรื่องสื่อ (หนังสือ วารสาร นิตยสาร….)

– มีการรับสมัครสมาชิกเหมือนห้องสมุดประชาชน
– ระบบห้องสมุดอัตโนมัติที่ใช้คือ PLS 5 (ของกศน.)
– การจัดหมวดหมู่แบบดิวอี้
– การจัดวางหนังสือยึดหลักหมวดหมู่ไม่ได้เรียงตามเลขหมู่ เช่น หมวดอาหาร หมวดธรรมะ หมวดภาษา


ใครที่สนใจอยากจะไปเยี่ยมชมต้องมาในวันจันทร์-เสาร์เท่านั้นนะครับ และในช่วงเวลา 9.00-17.00
ด้วย
เพราะนอกนั้นในวันอาทิตย์ หรือวันหยุดอื่นๆ ห้องสมุดปิดนะครับ

เอาหล่ะพาเที่ยวพอแล้วดีกว่า ใครมีโอกาสก็ลองไปชมกันดูเองนะครับ
หรือจะดูรูปภาพห้องสมุดโดยรวมจากด้านล่างนี้ก็ได้ สำหรับวันนี้ก็ไปแล้วนะครับ

ชมภาพห้องสมุดการรถไฟฯ หัวหินทั้งหมดได้ที่

[nggallery id=44]