5 คำแนะนำเพื่อการเป็นห้องสมุด 2.0

วันนี้ผมมีเวลาเล่าเรื่องน้อยกว่าทุกวันนะครับ เนื่องจากงานเยอะมากๆ
แต่บังเอิญไปเจอบทความดีๆ มา เลยต้องรีบแนะนำก่อน บทความนี้เกี่ยวกับเรื่อง ห้องสมุด 2.0

gotolibrary20

หลังๆ มาผมได้เข้ากลุ่ม library2.0 network ในเมืองนอกบ่อยขึ้น
เว็บนี้ทุกคนได้เข้ามาแชร์กันในเรื่องของการสร้างแนวคิดเรื่องการจัดการห้องสมุด 2.0 เยอะมากๆ

บทความนึงที่ในชุมชนกล่าวถึง คือ 5 คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนห้องสมุดของคุณให้กลายเป็นห้องสมุด 2.0
5 Suggestions for Upgrading to Library 2.0 (or Some Easy Steps to Get Started?Really)
ซึ่งบทความนี้เขียนโดย อาจารย์ Michael Stephens

เอาเป็นว่าผมขอแปลแบบคร่าวๆ ให้เพื่อนๆ อ่านดีกว่า
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากอ่านต้นฉบับก็เข้าไปดูได้ที่ ชื่อเรื่องด้านบนเลยนะครับ

สำหรับคำแนะนำ หรือขั้นตอนง่ายๆ ในการพัฒนาห้องสมุดของคุณให้เป็น ห้องสมุด 2.0
เริ่มจาก ?..

1. Start a library blog (เริ่มจากการมีบล็อกห้องสมุดเสียก่อน)

เพราะว่าการทำบล็อกถือเป็นการแชร์ความรู้ แชร์ความคิด
นอกจากนี้ยังสามารถสร้างชุมชนหย่อมๆ ได้อีกด้วย
แถมขั้นตอนในการสร้าง หรือสมัครบล็อกทำได้ง่ายกว่าวิธีอื่น


2. Create an Emerging Technology Committee

ตั้งกลุ่มคณะกรรมการด้านเทคโนโลยีในห้องสมุด
เพื่อที่จะได้มีกลุ่มคนที่เชียวชาญด้านเทคโนโลยีคอยแนะนำในการทำงานด้านต่างๆ
โดยทั่วไปก็อาจจะดึงงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะกรรมการก็ได้
เช่น ส่วนงานไอที ส่วนงานพัฒนาระบบห้องสมุด ส่วนงานโสตฯ ฯลฯ


3. Train staff to use an RSS aggregator

จัดฝึกอบรม และให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับการใช้ RSS

4. Experiment and use 2.0 Tools

รู้จักเครื่องมือ และหัดใช้งานเว็บไซต์ 2.0 ทั้งหลาย
เช่น wikipedia, youtube, slideshare,?..
เมื่อเราเกิดความเคยชินแล้วการนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ในห้องสมุดก็จะเป็นการง่าย

5. Implement IM reference
การนำระบบ IM (Instant Messenger) มาใช้ในห้องสมุด

เป็นยังไงกันบ้างครับ เรื่องง่ายๆ เท่านี้ก็ทำให้ห้องสมุดของเพื่อนๆ กลายเป็นห้องสมุด 2.0 ได้แล้วนะครับ
เอาเป็นว่าลองดูก่อนนะ ถ้าสนใจเรื่องไหนอย่างเป็นพิเศษ ลองแนะนำมาดู เดี๋ยวผมจะเขียนเน้นให้อีกที

ผู้ใช้บริการห้องสมุดร้องไห้ เนื่องจากห้องสมุดถูกปิด

เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าห้องสมุดประชาชนสำคัญต่อคนอเมริกายังไง
วันนี้ผมมีคลิปวีดีโอนึงอยากให้ดูมากๆ ครับ (คลิปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศสหรัฐอเมริกา)

man-cry-library

จากข่าวที่พูดถึงการปิดตัวเองของห้องสมุดประชาชนในประเทศสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง
สาเหตุหนึ่งมาจากเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการเข้าถึงข้อมูล
ทำให้ผู้ใช้ลดลง ต้นทุนในการดูแลห้องสมุดสูงขึ้น นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ห้องสมุดปิดนั่นเอง

เข้าเรื่องดีกว่าวันนี้ผมมีคลิปวีดีโอผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา
เมื่อทราบข่าวการปิดห้องสมุดประชาชนในเมือง Philadelphia นั่นเอง

ไปชมกันก่อนเลยนะครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=81_rmOTjobk[/youtube]

คำบรรยายของคลิปวีดีโอนี้
?One local man was brought to tears over the City of Philadelphia?s plan to close his neighborhood library to help fend off the city budget crisis.?

ข่าวการปิดห้องสมุดประชาชนในเมือง Philadelphia อ่านได้ที่
Free Library of Philadelphia Closing 11 of 54 Branches
ห้องสมุดประชาชนในเมือง Philadelphia ถูกปิด 11 แห่งจากทั้งหมด 54 แห่ง

สำหรับข่าวการปิดห้องสมุดในเมือง Philadelphia นี้
สะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่ห้องสมุดก็สามารถถูกปิดกิจการได้เช่นกัน

ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ห้องสมุดถูกปิด คือ
– ห้องสมุดเป็นสถานที่ที่มุ่งให้ความรู้และไม่หวังผลกำไร
– เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต
– การบริการแบบเก่าๆ ไม่ทันใจผู้ใช้บริการ
ฯลฯ

ดังนั้นข้อคิดที่ได้จากข่าวนี้ คือ
?หากเรายังไม่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการห้องสมุดของเราก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกปิดกิจการเป็นรายต่อไป?

กลับมาที่เรื่องวีดีโอดีกว่า เพื่อนๆ คิดยังไงกับวีดีโอชุดนี้

สำหรับผมเห็นว่า ผู้ใช้ห้องสมุดในเมืองๆ นั้น มีความผูกพันกับห้องสมุดของเขาอย่างมาก
ถึงขนาดว่า พอรู้ข่าวก็ตกใจ และเสียใจกับห้องสมุดอย่างมากมาย
แสดงว่าห้องสมุดมีคุณค่า และความสำคัญต่อพวกเขามากๆ เลยใช่มั้ยหล่ะครับ

แผนกลยุทธ์และธุรกิจในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์

การบรรยายรื่อง ?แผนกลยุทธ์และธุรกิจในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์?
จัดโดย สถาบันสอนภาษา บริติช เคาน์ซิล และสถานพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)

ดูผิวเผินเพื่อนๆ อาจจะบอกว่าไม่น่าเกี่ยวกับห้องสมุด
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หรือ หอศิลป์ ต่างก็ถูกจัดเป็นองค์กรทางวัฒนธรรมเหมือนๆ กัน

musuem

การไปฟังบรรยายครั้งนี้จึงถือว่าได้ไอเดียในการทำงานมามากมาย
บางเรื่องสามารถนำมาประยุกต์กับการคิดแผนกลยุทธ์ของห้องสมุดก็ได้ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการบรรยายในครั้งนี้
ชื่อการบรรยาย ?แผนกลยุทธ์และธุรกิจในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์?
ผู้บรรยาย
?Michael Day (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักพระราชวังแห่งสหราชอาณาจักร)?
วันและเวลาในการบรรยาย ?วันที่ 13 มกราคม 2552 เวลา 9.00 – 12.00?
สถานที่ที่บรรยาย ?สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)?

หัวข้อในการบรรยาย แบ่งเป็น 2 หัวข้อดังนี้
– Leadership, Strategy and Planning in non-profit cultural institutions
– Museum Futures – What is the 21st century bringing?

เห็นหัวข้อการบรรยายแล้วน่าสนใจมากเลยใช่หรือปล่าวครับ
เอางี้ดีกว่าไปอ่านเรื่องที่ผมสรุปมาเลยดีกว่าครับ

????????????????-

Leadership, Strategy and Planning in non-profit cultural institutions
การเป็นผู้นำ กลยุทธ์ และการวางแผนในองค์กรทางวัฒนธรรมที่ไม่แสวงหากำไร

– แนะนำหน่วยงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ Historic Royal Palaces
ได้แก่ Tower of London, Hampton Court Palace, Banqueting House, Kensington Palace, Kew Palace

– บทเรียนที่ได้จากการทำงานมีทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้
1. การตั้งเป้าหมาย และอุดมการณ์ให้องค์กร ถือว่าเป็นหัวใจของการปฏิบัติงานต่างๆ
อุดมการณ์ – เป็นสิ่งที่มีพลัง, เป็นแรงขับเคลื่อนในการทำงาน, มีเหตุมีผล, ?
2. กาลเวลา ความต่อเนื่อง จะมีความสัมพันธ์กันทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
3. กฎยุทธศาสตร์ของ Norman Flynn?s ตลอดการทำงานขององค์กรจะมีเพียง 3-4 อย่างเท่านั้นที่สำคัญ
และถ้าเราหาสิ่งเหล่านั้นเจอและทำมันให้ดีจะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างมาก
4. ผู้นำขององค์กรทางวัฒนธรรม มักจะเป็นที่พึ่งพาของบุคคลอื่นๆ สูงมาก
5. คุณจะต้องยอมรับกับข้อเรียกร้องต่างๆ ได้ ไม่ว่าข้อเรียกร้องนั้นจะมีความขัดแย้งกับความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
เช่น การตั้งเป้าหมายให้สูงแม้ว่าจะมีเงินสนับสนุนเพียงน้อยนิด,
โบราณสถานถึงแม้ว่าองค์กรจะต้องดูแลรักษา แต่ก็ต้องเปิดให้คนอื่นเข้ามาชมด้วย,
อยากให้คนเข้ามาชมโบราณสถานมากๆ แต่เราก็ต้องเก็บเงินจากผู้เข้าชมเหล่านั้น
6. การสร้างความรู้สึกให้ผู้ใต้บัญชาเข้าใจ และรักในองค์กรที่ทำงานอยู่
7. การบริหารงานที่ดีต้องให้ความสำคัญทั้งกับเบื้องบน สิ่งรอบข้าง และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร
8. การบริหารคนในองค์กร สนับสนุนคนที่ทำงานในองค์กรให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ เขาจะรักองค์กร?
9. มันไม่ใช่เพียงแค่อะไรที่คุณทำ แต่คุณต้องรู้ว่าทำอย่างไรมากกว่า
(ไม่ใช่ทำงานตามคำสั่งอย่างเดียว แต่คุณต้องเข้าใจถึงงานที่คุณทำด้วย)
10. ถึงแม้ว่าสภาพทั่วไปขององค์กรจะดี หรือราบรื่น
แต่ปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมอาจจะทำให้องค์กรของเราเกิดผลกระทบได้
และถึงตอนนั้นเราต้องยอมรับสภาพให้ได้ และแก้ไขให้ดีที่สุด

– ก่อนจบผู้บรรยายได้ฝากไว้อีกว่า ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ และคนเรายังสามารถเรียนรู้อะไรต่างๆ ได้ตลอดชีวิต

????????????????-

Museum Futures – What is the 21st century bringing?
อนาคตของพิพิธภัณฑ์ ศตวรรษที่ 21 นำอะไรมาบ้าง

– อนาคตของพิพิธภัณฑ์จะถูกผูกติดกับสังคม และชุมชน

– การเปลี่ยนแปลงทั้ง 9 ข้อที่มีผลต่อพิพิธภัณฑ์ มีดังนี้
1. ประชากรเปลี่ยนแปลงไป เช่น การย้ายถิ่น, อายุเฉลี่ย, บทบาทของผู้หญิง ฯลฯ
2. การกำเนิดอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และเทคโนโลยีดิจิทัล
เมื่อสิบปีที่แล้วยังไม่มี google เลย จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
3. ราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกลง และวิถีการเดินทางของคนมีมากขึ้น
4. วัฒนธรรมดั้งเดิม และพรมแดนของประเทศเริ่มจางหายไป
สินค้าที่มีแบรนด์ และสร้างวัฒนธรรมของแบรนด์เนมมีมากขึ้น
5. การลงทุนในแง่ของวัฒนธรรมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
(การสร้างพิพิธภัณฑ์ประจำท้องถิ่น อาจจะทำให้เกิดการบูรณะเมืองเลยก็ได้)
6. วิถีการใช้ชีวิตของตัวเองนำมาสู่ครอบครัวมากขึ้น เช่น การนำงานจากที่ทำงานมาทำที่บ้าน
7. ลูกค้า หรือ ผู้ใช้บริการ มีการคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไป
เช่น เด็กมักจะเห็นคุณค่าทางวัตถุมากกว่าความรู้ (เห็นเงินดีกว่า)
แต่สำหรับคนที่เรียนจบปริญญาจะเห็นค่าความรู้มากกว่าวัตถุ
8. ภาคการเมืองมีการคาดหวังในพิพิธภัณฑ์ที่เปลี่ยนไป
เช่นให้การสนับสนุน รวมถึงการคาดหวังผลตอบแทนที่จะได้กลับมา เช่น การท่องเที่ยว การสร้างงาน ฯลฯ
9. โลกใบนี้มีอะไรที่ไม่แน่นอน คาดเดาอะไรไม่ได้

– ไอเดียสำหรับเตรียมรับกับการเปลี่ยนแปลงของพิพิธภัณฑ์ 9 ประเด็น ดังนี้
1. มีจุดมุ่งหมาย และอุดมการณ์
2. หาแนวทางในการนำเสนอความรู้ในรูปแบบใหม่
3. คนจำนวนมากสนใจเรื่องราวมากกว่าวัตถุ
4. พิพิธภัณฑ์หลายๆ แห่งดูน่าเบื่อ (ลองเปรียบเทียบกับโรงภาพยนตร์)
5. ทุกจุดบริการสำคัญหมดสำหรับผู้ใช้
ถ้าผู้ใช้เจอจุดที่ไม่ดีเพียง 1 จุด เราจะต้องให้เขาประทับใจเพิ่มถึง 27 จุด เพื่อดึงความพอใจกลับคืนมา
6. เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และสื่อดิจิทัลมากขึ้น
7. ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมกับพิพิธภัณฑ์ เพราะคนในชุมชนจะเข้าใจ และเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์อย่างแท้จริง
8. พิพิธภัณฑ์ต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกปัจจุบันตลอดเวลา
9. คนที่ทำงานในองค์กรทุกคนมีความสำคัญ

– อนาคตของพิพิธภัณฑ์จะสดใสได้ ถ้าเราสามารถตอบโจทย์ของสังคมได้

????????????????-

เป็นยังไงกันบ้างครับ เสียดายที่การบรรยายในครั้งนี้ไม่มีเอกสารในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์แจก
ไม่งั้นผมคงจะแจกให้เพื่อนๆ นำไปอ่านต่อกันแล้ว เพราะว่ารู้สึกว่าได้แง่คิดมากมายเลยทีเดียว

สำหรับข้อมูลที่ผมอยากให้เพื่อนๆ ลองไปดูต่อ มีดังนี้

– เว็บไซต์ของ Historic Royal Palaces
http://www.hrp.org.uk

– เว็บไซต์ของ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)

http://www.ndmi.or.th

งานสัมมนาความร่วมมือระหว่างห้องสมุดฯ ครั้งที่ 26 พร้อมเอกสารประกอบ

งานสัมมนาความร่วมมือระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา ครั้งที่ 26
ชื่อหัวข้อ คือ ?รวมพลังสู่ความเป็นเลิศ : ความร่วมมือระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาในทศวรรษใหม่?

banner1

รายละเอียดทั่วไปของงานนี้
ชื่องาน : งานสัมมนาความร่วมมือระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา ครั้งที่ 26
หัวข้อ : รวมพลังสู่ความเป็นเลิศ : ความร่วมมือระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาในทศวรรษใหม่
วันที่จัด : วันที่ 19 – 21 พฤศจิกายน 2551
สถานที่ : ห้องประชุม 1 – 301 อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ มหาวิทยาลัยรังสิต

หัวข้อเด่นๆ ที่น่าสนใจในงานสัมมนา
– ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง เครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษากับความเป็นเลิศทางวิชาการ
– การอภิปราย เรื่อง เครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาไทย : ความร่วมมือสู่ความเป็นเลิศ
– การอภิปราย เรื่อง การเทียบสมรรถนะเพื่อความเป็นเลิศ พร้อมหรือไม่ และทำอย่างไร
– ประชุมกลุ่มย่อยและเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เพื่อหาวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด
– การอภิปรายเรื่อง มาตรฐานห้องสมุดมหาวิทยาลัยกับการประเมินคุณภาพ
– การบรรยายเรื่อง การจัดการความรู้ในห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา : จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ
– การบรรยายเรื่อง ห้องสมุดกับการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น
– การบรรยายเรื่อง การสร้างและปรับปรุงแบรนด์ห้องสมุด (Branding & Re-branding in Library)
– การอภิปราย เรื่อง มาตรฐานคุณภาพของห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา

เอกสารการสัมมนาที่สามารถดาวน์โหลดได้มีดังนี้

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551

ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ?เครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษากับความเป็นเลิศทางวิชาการ?
โดย ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคระกรรมการอุดมศึกษา

การอภิปรายเรื่อง ?เครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาไทย : ความร่วมมือสู่ความเป็นเลิศ?
ดร.มลิวัลย์ ประดิษฐ์ธีระ ผู้อำนวยการสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยรังสิต
ผู้บริหารเครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

การอภิปรายเรื่อง ?เครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาไทย : ความร่วมมือสู่ความเป็นเลิศ?
รศ.ดร.อรุณี อินทรไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี
ผู้บริหารเครือข่ายห้องสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล

– ประชุม กลุ่มย่อย : กลุ่มคณะทำงานด้านพัฒนาทรัพยากรสานิเทศ
อาจารย์ จรินทร์ คิดหมาย สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตท่าพระ

ประชุม กลุ่มย่อย : กลุ่มคณะทำงานด้านวิเคราะห์ทรัพยากรสารนิเทศ
อาจารย์ บุญสม เล้าพูนพิทยะ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร

ประชุม กลุ่มย่อย : กลุ่มคณะทำงานด้านบริการ
อาจารย์ ภาวณา เขมะรัตน์ สำนักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2551

การอภิปราย เรื่อง ?มาตรฐานห้องสมุดมหาวิทยาลัยกับการประเมินคุณภาพ?
รศ. อิ่มจิต เลศพงษ์สมบัติ คณบดีคณะวิทยาการสื่อสารและผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

การอภิปราย เรื่อง ?มาตรฐานห้องสมุดมหาวิทยาลัยกับการประเมินคุณภาพ?
นางวราภรณ์ สีหนาท ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและประเมินผลอุดมศึกษา

การบรรยายทางวิชาการ เรื่อง?การสร้างและปรับปรุงแบรนด์ห้องสมุด?
ดร.ชันนยา รอดสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์เสริมยศ ธรรมรักษ์ หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารแบรนด์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

การอภิปรายเรื่อง ?มาตรฐานคุณภาพของห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา
ดร.พฐา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

การอภิปรายเรื่อง ?มาตรฐานคุณภาพของห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา
ดร.สุวิมล ธนะผลเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บรรณสารสนเทศทางการศึกษา คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เป็นยังไงกันบ้างครับเอกสารต่างๆ ในการสัมมนา
ผมคิดว่ามีประโยชน์ และคุณค่าสำหรับวงการบรรณารักษ์ และห้องสมุดเลยทีเดียว

หลายๆ ครั้งที่มีการจัดงานสัมมนาห้องสมุด บางครั้งผมเองก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้
ก็หวังว่าจะมีเอกสารให้ได้อ่านย้อนหลังบ้าง แต่บ่อยครั้งที่มักจะไม่มีให้ดาวน์โหลด
ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผมอยากเข้าร่วมงาน แต่ไม่สามารถไปได้
ก็ได้แต่หวังว่าผู้จัดงานจะส่งเอกสารมาให้อ่าน ซึ่งคงเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ
แต่วันนี้ฝันของผมก็ได้เป็นจริง เมื่อการสัมมนาครั้งนี้นำเอกสารประกอบการสัมมนาขึ้นบนอินเทอร์เน็ต
นับว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนคงจะอยากได้เหมือนผม

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ส่งข้อมูลมาให้
ขอบคุณผู้ที่จัดงานทุกคน
ขอบคุณผู้ร่วมงานสัมมนาทุกคน
และขอบคุณผู้ร่วมวิชาชีพเดียวกัน

สำหรับผู้จัดงานอื่นๆ ขอให้นำการสัมมนานี้ไปเป็นแบบด้วยนะครับ
เพื่อประโยชน์ต่อสังคม การแบ่งปันความรู้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีพลังมากๆ

สรุปงาน “เทคโนโลยีเว็บ 2.0 : สู่ความเป็นเลิศของห้องสมุดดิจิตอล”

ผมขอนำบทสรุปจากงานสัมนนา “เทคโนโลยีเว็บ 2.0 : สู่ความเป็นเลิศของห้องสมุดดิจิตอล”
มาให้เพื่อนๆ อ่านอีกสักรอบนะครับ เผื่อว่าอาจจะเกิดไอเดียดีๆ ขึ้นบ้าง

picture-001

งาน “เทคโนโลยีเว็บ 2.0 : สู่ความเป็นเลิศของห้องสมุดดิจิตอล”
จัดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 ที่สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยหอการค้า

บทสรุปของงานมีดังนี้

การบรรยาย เรื่อง จาก Web 2.0 สู่ Library 2.0 เพื่อชุมชนนักสารสนเทศและผู้ใช้บริการ
โดย ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

picture-013

เกริ่นนำ
– เมื่อผู้ใช้บริการมีทางเลือกในการเข้าถึงสารสนเทศมากขึ้น บรรณารักษ์จึงจำเป็นต้องรู้จักและเข้าใจทางเลือกเหล่านั้น
– web2.0 คือแนวความคิดใหม่สำหรับ www ที่จะให้ผู้ใช้สามารถเขียน เปลี่ยนแปลง เผยแพร่ เนื้อหาต่างๆ ที่ต้องการได้
– หลักการแห่ง web2.0 แบ่งออกเป็น conversation, community, participation, experience, sharing

โลกเปลี่ยนไปแล้วจริงหรือ?
– ในปี 2007 มีคนสืบค้นด้วย google เฉลี่ยเดือนละ 27 ร้อยล้านครั้ง ในประเทศไทยมีการใช้ google เพื่อสืบค้นถึง 96.88% แล้วก่อนหน้านี้หล่ะใช้เครื่องมืออะไรในการค้น
– การส่ง SMS ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่าประชากรบนโลกรวมกัน
– ปัจจุบันมีคำศัพท์ในภาษาอังกฤษจำนวน 540,000 คำ แต่ในสมัย Shakespeare มีคำศัพท์เพียงแค่ 1 ใน 5 ของจำนวนนั้น
– ใน 1 วันมีหนังสือออกใหม่จำนวน 3,000 เล่มต่อวัน
– หนังสือพิมพ์ newyork times 1 สัปดาห์มารวมกัน จะได้คลังความรู้ที่มากกว่าความรู้ของคนในยุคที่ 18 ตั้งแต่เรียนจนตาย
– ความรู้และข่าวสารจะมีการเพิ่มขึ้นแบบเท่าตัวทุก 2 ปี ดังนั้น คนที่เรียนปริญญาตรี 4 ปี เมื่อเรียนปี 2 ขึ้น ปี 3 ความรู้ที่เรียนมาก็จะเริ่มไม่ทันสมัย
– การติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศเมื่อ 40 ปีก่อนใช้โทรเลข เมื่อ20 ปีก่อนใช้โทรเลข,โทรศัพท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้วใช้อีเมล์ แล้วทุกวันนี้หล่ะ????
– สำรวจคนอเมริกาแต่งงาน 8 คู่จะต้องมี 1 คู่ที่เจอกันด้วยระบบ online
ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าโลกเปลี่ยนไป?

ห้องสมุดในฝัน (ตามความคิดของดร.ทวีศักดิ์)
– เปิดบริการตลอดเวลา
– สะอาด เรียบร้อย
– หาหนังสือง่าย
– เงียบ บรรยากาศดี
– เดินทางสะดวก
– ใช้บริการจากที่บ้านหรือที่ทำงานได้
– google+website = ห้องสมุดแห่งโลก

ห้องสมุดไทยในปัจจุบัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
– ประเภทของห้องสมุด (เฉพาะ ประชาชน โรงเรียน มหาวิทยาลัย)
– การลงทุนสำหรับห้องสมุด – จำนวนหนังสือ จำนวนผู้ใช้
– การนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในห้องสมุด ต้องคำนึงเรื่องงบประมาณ การใช้ประโยชน์ ปรับแต่งได้แค่ไหน
– บางที่ซื้อระบบมาแล้ว แต่ไม่สามารถจัดการระบบได้เพราะขาดบุคลากร
– ระบบบริหารจัดการในห้องสมุดมีความเหมาะสมแค่ไหน
– ปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย
– ห้องสมุดบางที่ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

ห้องสมุด 2.x คืออะไร
– ห้องสมุด2.0 = (ทรัพยากรสารสนเทศ+คน+ความไว้วางใจ) * การมีส่วนร่วม
– ก่อนเริ่ม ห้องสมุด2.0 ห้องสมุดต้องปรับรูปแบบให้มีลักษณะที่เป็น e-library ก่อน
– จะก้าวไปสู่ห้องสมุด 2.x => รักการเรียนรู้, รักการแบ่งปัน, มีใจสร้างสรรค์, รักการพัฒนา, รักในงานบริการ
– รักการเรียนรู้ คือ การเรียนรู้จากเพื่อนๆ ในวิชาชีพเดียวกัน เพื่อนำมาศึกษาและเปรียบเทียบกับงานของเรา
– การเลือกโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์มาใช้ในวงการห้องสมุด เช่น koha, phpmylibrary, openbiblio ?
– รักการแบ่งปัน และมีใจสร้างสรรค์ เครื่องมือที่น่าสนใจในการแบ่งปันคือ wiki Blog

บทสรุปของการก้าวสู่ห้องสมุด 2.x
– เปิดใจให้กับการเปลี่ยนแปลง
– เลือกใช้เทคโนโลยีให้เป็น
– สร้างชุมชนห้องสมุด เพื่อการมีส่วนร่วมระหว่างบรรณารักษ์กับผู้ใช้บริการ

????????????????????????????????????????????????

การบรรยาย เรื่อง ทฤษฎี Long Tail กับห้องสมุดในยุค web 2.0
โดย คุณรุจเรขา วิทยาวุฑฒิกุล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

image22

เกริ่นนำ
– Chris Anderson บก. Wired Magazine เป็นผู้เขียนทฤษฎี long tail คนแรก
– การเขียนหนังสือเล่มหนึ่งผู้อ่านจะรู้สึกว่าผู้เขียนอยู่ไกลจากเขา แต่การเขียนบล็อกผู้อ่านจะรู้สึกว่าผู้เขียนอยู่ใกล้ๆ ตัวเขา
– long tail เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด คือ สินค้าที่ได้รับความนิยม (hits) มักเป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่ แต่สินค้าที่มีคนรู้จักน้อยก็ยังมีอยู่อีกมาก และถ้าเรานำสิ่งเหล่านี้มารวมกันก็จะเห็นว่ายังมีสินค้าอีกมากมาย
– สินค้าที่มีความนิยมมีจำนวน 20% แต่สินค้าที่ไม่นิยมหากนำมารวมกันก็จะได้ถึง 80% ดังนั้นเราต้องหาวิธีที่จะนำสินค้าที่ไม่นิยมออกมาแสดงให้คนอื่นๆ ได้เห็น

ตัวอย่างของ Long tail
– Netflix, Amazon จำหน่ายสินค้าแบบ Physical Goods แต่นำเสนอด้วย Digital Catalogs
– Netflix, Amazon ใช้ concept ที่ว่า ?Customers who bought this also bought that??
– Itune, Rhapsody จำหน่ายสินค้าแบบ Digital Goods และนำเสนอด้วย Digital Catalogs
– Itune, Rhapsody ใช้ concept ที่ว่า ?When you lower prices, people tend to buy more?

ทฤษฎี Long tail กับงานห้องสมุด
– Tom Storey เคยสัมภาษณ์ Chris Anderson ลงในจดหมายข่าวของ OCLC
– Lorcan Dempsey ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ Long tail ในหนังสือ D-Lib Magazine
– Paul Genoni เขียนเรื่อง Long tail ที่เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ในห้องสมุด
– Lori Bowen Ayre เน้นเรื่อง Log tai ไปในแนวว่า Library Delivery 2.0

กฎของ Ranganathan นักคณิตศาสตร์ และบรรณารักษ์อาวุโส (บิดาของวงการห้องสมุด)
– Books are for use
– Every reader has his or her book
– Every book has its reader
– Save the time of the reader
– The library is a growing organism

????????????????????????????????????????????????

Workshop เรื่อง โปรแกรมสำเร็จรูป WordPress : โดนใจผู้ใช้ได้ดั่งใจบรรณารักษ์
โดยคุณบุญเลิศ อรุณพิบูลย์ ศุนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

image04

– แนะนำ wordpress.com และ wordpress.org
– วิธีการใช้งาน wordpress.org
– วิธีการสมัคร wordpress.com
– แนะนำเมนูต่างๆ ใน wordpress.com
– การเขียนเรื่องใน wordpress.com
– การปรับแต่งรูปแบบใน wordpress.com

????????????????????????

เป็นยังไงกันบ้างครับ ได้ไอเดียกันเยอะหรือปล่าว
เอาเป็นว่าถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็ลองถามผมได้นะครับ
ผมยินดีจะตอบเพื่อช่วยให้วงการบรรณารักษ์ของเราพัฒนา

มาดูตัวอย่างการออกแบบห้องสมุดขั้นเทพกันเถอะ

วันนี้ขอเล่าเรื่องการออกแบบอาคารห้องสมุดกันหน่อยดีกว่า
เพราะว่าเรื่องของสภาพทางกายภาพก็มีส่วนในการดึงดูดให้ผู้ใช้ให้ความสนใจห้องสมุดเหมือนกัน
(เพียงแต่ในเมืองไทย บรรณารักษ์อย่างเราไม่ค่อยมีบทบาทในการช่วยสถาปนิกออกแบบ)

library-design

หลังจากที่ผมได้คุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการสถาปัตย์ก็พอจะรู้ว่า
คนกลุ่มนี้พยายามจะศึกษาเรื่องการออกแบบห้องสมุดกันมากมาย
เช่น บางคนเอาเรื่องการออกแบบห้องสมุดไปทำเป็นโปรเจ๊คซ์เรียนจบเลยก็ว่าได้

ถามว่าการออกแบบห้องสมุดต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง (นอกจากเรื่องของเงิน)
– ต้องมีรูปแบบใหม่ ?
– ต้องทันสมัย ?
– ต้องหรูหรา ?

เอาเป็นว่าสิ่งที่กล่าวมา ผมมองว่าไม่ได้ถูกต้องเสมอไปหรอกนะครับ

สิ่งสำคัญที่ทำให้อาคารห้องสมุดมีความสมบูรณ์ คือ
ต้องออกแบบเพื่อรองรับกับงานบริการผู้ใช้ และการทำงานของบรรณารักษ์ไปพร้อมๆ กันด้วย

ตัวอย่างเรื่องหลายๆ เรื่องที่ต้องลงรายละเอียดในการออกแบบอาคารห้องสมุด
– การออกแบบชั้นหนังสือในห้องสมุด เช่น การจัดเรียงหนังสือ ความสูงของชั้นหนังสือ ฯลฯ
– การจัดพื้นที่ในการให้บริการต่างๆ เช่น โซนที่ต้องการความเงียบ โซนเด็ก โซนมัลติมีเดีย ฯลฯ
– สภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้ๆ อาคารห้องสมุด เช่น ติดถนนมีเสียงดังหรือปล่าว????

แต่ขอบอกก่อนนะครับว่ารูปที่ผมจะนำมาให้ดูนี้ เป็นเพียงแค่ตัวอย่างโครงสร้างอาคารห้องสมุดแบบสวยๆ เท่านั้น
แต่การใช้งานจริงด้านในผมก็ยังไม่เคยไปนะครับ เอาเป็นว่าไม่ขอวิจารณ์ฟังค์ชั่นการทำงานด้านในแล้วกัน

(ดูให้เห็นว่าสวยนะ อิอิ)

งั้นเราไปดูตัวอย่างการออกแบบกันสักนิดนะครับ

ภาพแรก โครงสร้างและการออกแบบ The Seattle Public Library

librarydesign1

ภาพที่สอง โครงสร้างและการออกแบบ Woodschool

librarydesign2

ภาพที่สาม โครงสร้างและการออกแบบ The Consortium Library (University of Alaska Anchorage)

librarydesign3

ภาพที่สี่ โครงสร้างและการออกแบบ Philadelphia?s Parkway Central Library

librarydesign4

เป็นยังไงกันบ้างครับกับตัวอย่างการออกแบบโครงสร้างห้องสมุดทั้ง 4 ที่
หากเพื่อนๆ ยังไม่จุใจในการดู เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเรื่องการอ่านออกแบบห้องสมุดได้จากเรื่อง
Brilliantly Bookish: 15 Dazzling Library Designs

สุดท้ายนี้หวังว่าสถาปนิกเมืองไทยคงจะมีแนวทางในการออกแบบห้องสมุดแบบสวยๆ กันบ้างนะครับ
สิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้นั่นก็คือ ไม่ว่าห้องสมุดจะหน้าตาแบบใด
การบริการของบรรณารักษ์ก็ยังคงต้อง service mind ต่อไปนะครับ

ที่มาของรูป และที่มาของแรงบันดาลใจในการเขียน
http://www.weburbanist.com

โปรโมทห้องสมุดใน Facebook ดีกว่า

ช่วงนี้กระแสการใช้งาน facebook กำลังมาแรงครับ
เท่าที่ผมสังเกตมีคนใช้งานfacebook ในเมืองไทยมากขึ้น
ดังนั้นห้องสมุดของพวกเราก็อย่าน้อยหน้ากันนะครับ เอาห้องสมุดของคุณไปอยู่ใน facebook กันเถอะ

library-facebook

การสร้าง account facebook มันไม่ยากหรอกครับ
แต่ประเด็นที่น่าคิดก็คือ…เราจะเอาข้อมูลห้องสมุดอะไรไปใส่ใน facebook บ้างหล่ะ???

วันนี้ผมไปอ่านเรื่องนึงมา เห็นว่าเกี่ยวกับประเด็นนี้พอดี เลยเอามาให้อ่านกันครับ ชื่อเรื่องว่า
10 Great Things to Include on Your Library?s Facebook Fan Page

ในบทความนี้ได้กล่าวถึงข้อมูล 10 อย่างที่ควรจะอยู่ในหน้า Facebook
เราลองไปอ่านกันเลยดีกว่าครับว่ามีอะไรกันบ้าง

ข้อมูล 10 อย่างที่เราควรเอาลงใน Facebook มีดังนี้

1. photos of your library.
รูปของห้องสมุดคุณ (อันนี้คงไม่ยากครับ ถ่ายมุมสวยๆ สัก 10 รูปกำลังดี)

photo-fb

2. a library video tour or other promotional videos.
วีดีโอแนะนำห้องสมุดของคุณ (อันนี้อาจจะยากสักนิดในการถ่ายวีดีโอ แต่ถ้ามีผมว่าน่าสนใจครับ)

3. a calendar of library events.
ปฏิทินกิจกรรมของห้องสมุดคุณ (พยายามอัพเดทตลอดนะครับ คนเข้ามาจะได้รู้ว่าเรา ตั้งใจทำ)

4. a rss feed of your library blog.
feed ข้อมูลของเนื้อหาบนเว็บของคุณมาที่นี่ด้วยก็จะดีมากเลย

5. information about how to contact your library.
อันนี้ลืมไม่ได้เลยนะครับ ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ เว็บไซต์? ฯลฯ

6. library hours
วันเวลาที่ให้บริการของห้องสมุด ข้อมูลนี้จำเป็นจริงๆ นะครับ เพราะว่าเผื่อผู้ใช้อยากจะมาห้องสมุดจะได้เช็คเวลาก่อนว่าปิด หรือ เปิด

7. lib guides widget
เครื่องมือแนะนำการใช้งานห้องสมุด (อันนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้รู้จักห้องสมุดมากขึ้นนะครับ)

8. a survey for your patrons to answer about your library.
แบบสำรวจการใช้งาน หรือแบบสำรวจอื่นๆ ที่ห้องสมุดต้องการทำสำรวจ (แนะนำว่าไม่ต้องสำรวจเยอะนะ)

9. information about new book arrivals

แนะนำหนังสือมาใหม่ อันนี้จะทำให้ผู้ใช้อัพเดทและรู้ว่าห้องสมุดมีหนังสือใหม่เล่มไหนบ้าง

10. links to popular library databases.

เว็บแนะนำ ถ้าได้เว็บด้านฐานข้อมูลจะยิ่งดีมากๆ เลยนะครับ

เอาเป็นว่าข้อมูล ทั้ง 10 อย่างที่ได้กล่าวมา ผมเห็นด้วยหมดเลยนะครับ
เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้ที่ออนไลน์สามารถเข้าถึงห้องสมุดได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
ทั้งในเรื่องของกิจกรรม แบบสำรวจ แนะนำหนังสือใหม่ และเว็บไซต์แนะนำ

เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆ ว่างๆ ก็เข้าไปสมัคร account ของ facebook กันได้นะครับที่
http://www.facebook.com/

ภาพประกอบจาก http://www.facebook.com/pages/Chelan-Friends-of-the-Library/92545314975#/pages/Chelan-Friends-of-the-Library/92545314975?v=wall

ประมวลภาพห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น

เมื่อสักครู่นี้ ผมได้เขียนบล็อกเรื่อง “เล่าเรื่องตอนฝึกงานที่ ?ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น?
ในบล็อกเรื่องนี้ผมขอเน้นข้อมูลอื่นๆ ของห้องสมุดแห่งนี้แล้วกันนะครับ

jfbkk

ข้อมูลทั่วไปของห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น
สถานที่ : ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น
ที่อยู่ : เจแปน ฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ชั้น 10 อาคารเสริมมิตร 159 สุขุมวิท 21, กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ : 0 2260 8560-4 แฟกซ์ : 0 2260 8565
เว็บไซต์ : http://www.jfbkk.or.th/library/library_th.html

ในห้องสมุดแห่งนี้มีบริการคล้ายๆ กับห้องสมุดอื่นๆ นั่นแหละครับ
เพียงแต่เน้นที่เรื่องของ collection ที่ให้บริการในห้องสมุดนั่นแหละครับ

หนังสือที่ให้บริการมีมากมายโดยเน้นไปที่หนังสือภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
แต่ก็ยังพอมีหนังสือภาษาไทย และภาษาอังกฤษให้บริการบ้างนะครับ

จุดเด่นของห้องสมุดแห่งนี้
เช่น
– หนังสือ วารสาร นิตยสารภาษาญี่ปุ่นมากมาย ทั้งเรื่องแฟชั่น เทคโนโลยี วารสารวิชาการ
– หนังสือแนวข้อสอบสำหรับผู้ที่ต้องการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
– วีดีโอ และสื่อมัลติมีเดียภาษาญี่ปุ่นมากมาย
– การ์ตูนต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น
– ฐานข้อมูลเพื่อการสืบค้นภาษาญี่ปุ่น
– นิทรรศการวันสำคัญของญี่ปุ่นในโอกาสต่างๆ
– รายการข่าวสาร สารคดี จาก NHK

นี่ก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนะครับ
ถ้าเพื่อนๆ อยากเห็นมากกว่านี้ผมก็แนะนำว่าให้เพื่อนๆ ไปชมกันเองน่าจะดีกว่านะครับ

ปล.ภาพที่ผมนำมาให้เพื่อนๆ ชมนี้เป็นภาพเมื่อหลายปีก่อนนะครับ
อาจจะไม่เหมือนอย่างในปัจจุบันนะครับ เพราะว่าในปัจจุบันห้องสมุดมีการปรับโฉมใหม่แล้วนะครับ


ภายบรรยากาศโดยทั่วไปของห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น

[nggallery id=13]

เล่าเรื่องตอนฝึกงานที่ ?ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น?

วันนี้ผมขอย้อนวันวานไปสักตอนที่ผมยังเรียนปริญญาตรีก่อนแล้วกัน
ในตอนนั้นผมฝึกงานครั้งแรกของการเรียนบรรณารักษ์ โดยผมเลือกที่จะฝึกงานที่ ?ห้องสมุดมูลนิธิญี่ปุ่น?

dsc00017 Read more

หนูกำลังอ่านหนังสือในห้องสมุดนะค่ะ

วันนี้ผมเจอภาพขำๆ รูปนึง เลยเอามาฝากให้เพื่อนได้ชมแก้เครียดๆ กัน
ภาพนี้มีหนูน้อยคนนึงเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยนะครับ

babyinlibrary

จริงๆ แล้วผมเข้าใจว่าคนถ่ายอาจจะต้องการแค่ถ่ายภาพเล่นๆ เท่านั้นนะครับ
แต่ผมจะเอาไอเดียนี้แหละมาใช้เป็นสื่อในแง่ของ ข้อปฏิบัติในห้องสมุดสักหน่อยก็แล้วกัน

จากภาพด้านบนเพื่อนๆ ดูแล้วรู้สึกเป็นไงบ้างหล่ะครับ อายเด็กกันมั้ย ขนาดเด็กยังรู้เลยว่าห้องสมุดต้องเงียบ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเด็ก ก็ขอความกรุณาเงียบสักนิดนะครับ
อ่านหนังสือในใจไม่ต้องออกเสียง เพราะว่ามันจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้คนอื่นๆ นะ

อะไรบ้างที่ทำให้เกิดเสียงในห้องสมุด
– มีเพื่อนมาด้วย เลยขอคุยสักนิด แต่คุยไปคุยมาติดลมกัน ก็เลยสร้างเสียงขึ้นมา
– มีโทรศัพท์เข้าครับ อาจจะเพราะว่างานด่วน หรืออะไรก็ตามที่ต้องคุย
– หลับ จริงๆ ถ้าหลับก็ไม่ทำให้เกิดเสียงหรอกครับ แต่ถ้าหลับแล้วกรน อันนี้สาหัสหน่อย

และยังมีอีกหลายๆ สาเหตุที่ไม่ขอกล่าวถึง เพราะว่าเพื่อนๆ คงรู้ว่าการส่งเสียงทำได้ง่ายมาก

ดังนั้นวิธีนึงที่ผมเสนอกับ เพื่อนๆ บรรณารักษ์มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น
หามุมๆ หนึ่ง หรือเปิด section พิเศษสำหรับที่อ่านที่สามารถใช้เสียงได้ด้วย
หรือจะหามุมสำหรับคุยโทรศัพท์ด้วยก็ดีครับ เพราะเข้าใจว่าทุกคนย่อมมีธุระเป็นของตัวเอง
หรือจะเอามุมกาแฟมาแก้ง่วงดีมั้ยครับ จะได้ไม่ต้องหลับ

เอาเป็นว่าทำไง คุณก็คิดๆ กันนะครับ
แต่ขออย่างเดียวอย่าเอาเสียงของคุณ ไปรบกวนผู้ใช้ห้องสมุดคนอื่นเลยเถอะ
เพราะว่าบางคนคงต้องใช้สมาธิในการอ่านหนังสือมากๆ

สุดท้ายนี้บรรณารักษ์คนไหนดูรูปนี้แล้วมีแรงบันดาลใจอยากทำป้ายแบบนี้ก็ไม่ยากครับ
ไปหาเด็กมาสักคนจับทำหน้าปากจู๋ แล้วก็ถ่ายเอามาแปะเป็นป้ายเตือนในห้องสมุดก็ได้ครับ

ที่มาของรูปนี้ : http://farm4.static.flickr.com/3209/2928948144_bd32ba10d1.jpg